• EN
    • EN
  • เกี่ยวกับ ธปท.
    • บทบาทหน้าที่และประวัติ
    • การกำกับดูแลกิจการที่ดี
    • ธปท. กับบทบาทการพัฒนาอย่างยั่งยืน
    • ความร่วมมือระหว่างประเทศ
    • กฎหมาย/กฎเกณฑ์
    • ผังโครงสร้างองค์กร
    • คณะกรรมการ
    • รายงานทางการเงิน
    • รายงานประจำปี ธปท.
    • ธนบัตร
    • มูลนิธิ 50 ปี ธปท.
    • สมัครงานและทุน
    • พิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้
    • ศคง. 1213
    • งานและกิจกรรม
  • นโยบายการเงิน
    • คณะกรรมการ กนง.
    • เป้าหมายของนโยบายการเงิน
    • กำหนดการประชุม
    • ผลการประชุม กนง.
    • เอกสารเผยแพร่ของ กนง.
    • ความรู้เรื่องนโยบายการเงิน
    • ภาวะเศรษฐกิจไทย
    • เศรษฐกิจภูมิภาค
    • งานวิจัยและสัมมนาวิชาการ
  • สถาบันการเงิน
    • คณะกรรมการ กนส.
    • โครงสร้างระบบ สง. ไทย
    • บทบาทของ ธปท. ด้าน สง.
    • การกำหนดนโยบาย สง.
    • การกำกับตรวจสอบ สง.
    • ความร่วมมือกับผู้กำกับดูแลอื่น
    • ธุรกิจการเงินที่ ธปท. กำกับดูแล​​​​
    • มุมสถาบันการเงิน
    • การธนาคารเพื่อความยั่งยืน
    • โครงการพัฒนา Digital Factoring Ecosystem
    • โครงการ API Standard
  • ตลาดการเงิน
    • การดำเนินนโยบายการเงิน
    • การบริหารเงินสำรอง
    • การพัฒนาตลาดการเงิน
    • ตลาดเงินตราต่างประเทศ
    • หลักเกณฑ์การแลกเปลี่ยนเงิน
    • การลงทุนโดยตรง ตปท.
    • อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงและแนวทางรองรับการยุติการใช้ LIBOR
    • โครงการลงทะเบียนแสดงตัวตนของผู้ลงทุนตราสารหนี้ในประเทศไทย (BIR)
  • ระบบการชำระเงิน
    • คณะกรรมการ กรช.
    • นโยบายการชำระเงิน
    • การกำกับดูแลระบบการชำระเงิน
    • การกำกับตาม พ.ร.บ. ระบบการชำระเงิน 2560
    • บริการระบบการชำระเงิน
    • แนวนโยบาย/แนวปฏิบัติ /มาตรฐานระบบการชำระเงิน
    • ระเบียบ/ประกาศระบบการชำระเงิน
    • เทคโนโลยีทางการเงิน
    • การชำระเงินกับต่างประเทศ
  • วิจัยและสัมมนา
    • งานวิจัย
    • งานสัมมนา
    • สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย ​อึ๊งภากรณ์
  • สถิติ
    • สถิติตลาดการเงิน
    • สถิติเศรษฐกิจการเงิน
    • สถิติสถาบันการเงิน
    • สถิติระบบการชำระเงิน
    • สถิติเศรษฐกิจการเงินภูมิภาค
    • เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจสำคัญ
    • แผนภูมิข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ
    • การรับส่งข้อมูลกับ ธปท.
    • บทความและเอกสารเผยแพร่ด้านสถิติ
    • คู่มือประชาชนด้านสถิติ
    • บริการข้อมูล BOT API

  • หน้าหลัก
  • > สถาบันการเงิน
  • > มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้และข้อมูลสถาบันการเงินในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19
สถาบันการเงิน
สถาบันการเงิน
  • คณะกรรมการ กนส.
  • โครงสร้างระบบ สง. ไทย
  • บทบาทของ ธปท.
    ด้าน สง.
  • การกำหนดนโยบาย สง.
  • การกำกับตรวจสอบ สง.
  • ความร่วมมือกับผู้กำกับดูแลอื่น
  • ธุรกิจการเงินที่ ธปท. กำกับดูแล​​​​
  • มุมสถาบันการเงิน
  • เอกสารเผยแพร่
  • การธนาคารเพื่อความยั่งยืน
  • โครงการพัฒนา Digital Factoring Ecosystem
  • โครงการ API Standard
​
ตอบทุกคำถาม
กับ มาตรการสนับสนุนสินเชื่อ (soft loan) และ มาตรการชะลอการชำระหนี้ (loan payment holiday)

    ตอบทุกคำถามกับ มาตรการสนับสนุนสินเชื่อ (soft loan)

    ค้นหา
    คำถาม คำตอบ
    01 คุณสมบัติของลูกหนี้

    1. ลูกหนี้กลุ่มใดบ้างที่เข้าเงื่อนไขตามมาตรการ

    ​1. เป็นบุคคลที่มีสถานประกอบการและประกอบธุรกิจในประเทศไทย (บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย) ที่มีวัตถุประสงค์ของการกู้ยืมเพื่อเสริมสภาพคล่องในการประกอบธุรกิจ ลดผลกระทบต่อการจ้างงาน โดยจะต้องมีวงเงินสินเชื่อรวมทั้งกลุ่มธุรกิจของผู้ประกอบวิสาหกิจที่มีกับสถาบันการเงินแต่ละแห่ง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ไม่เกิน 500ล้านบาท และไม่เป็นผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน (การนับกลุ่มลูกหนี้ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การกำกับลูกหนี้รายใหญ่ (Single Lending Limit))

    2. ไม่เป็นบริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET และ MAI)

    3. ไม่เป็น NPL ของสถาบันการเงินเอง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 (การจัดชั้นพิจารณาเป็นรายลูกหนี้ ลูกหนี้ที่เป็น NPL หลัง 31ธันวาคม 2562 สามารถยื่นขอสินเชื่อตามโครงการนี้ได้ ทั้งนี้ ขึ้นกับการพิจารณาของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง)

    ทั้งนี้ วงเงินรวมของสินเชื่อธุรกิจ รวมถึงวงเงินสินเชื่อเช่าซื้อเฉพาะประเภท fleet เพื่อประกอบธุรกิจ แต่ไม่นับรวมวงเงินตามภาระผูกพัน วงเงินสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับ วงเงินสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย วงเงินสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้กำกับ และวงเงินสินเชื่อบัตรเครดิต 

    สินเชื่อตามมาตรการนี้ ครอบคลุมนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศและประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยไม่ต้องพิจารณาสัดส่วนการถือหุ้น


    ​2. การนับวงเงินรวมของกลุ่มลูกหนี้

     

    ​2.1 วงเงินระยะยาว นับตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติหรือนับภาระหนี้คงเหลือ ณ วันที่พิจารณา

    ​2.1 การพิจารณาคุณสมบัติลูกหนี้ที่จะเข้าร่วมมาตรการ soft loan พิจารณาจากวงเงินสินเชื่อรวมทั้งกลุ่มธุรกิจของลูกหนี้ที่มีกับสถาบันการเงินแต่ละแห่ง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ไม่เกิน 500ล้านบาท แต่ไม่นับรวมวงเงินตามภาระผูกพัน วงเงินสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับ วงเงินสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย วงเงินสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้กำกับ และวงเงินสินเชื่อบัตรเครดิต โดยวงเงินสินเชื่อที่สถาบันการเงินจะให้ผู้ประกอบวิสาหกิจกู้ยืมตามประกาศนี้ ต้องเป็นการให้สินเชื่อเพิ่มเติมจากยอดหนี้เดิมในอัตราส่วนไม่เกินร้อยละ 20 ของยอดหนี้คงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 โดยให้นับรวมยอดหนี้คงค้างของวงเงินสินเชื่อธุรกิจทุกประเภท แต่ไม่นับรวมวงเงินตามภาระผูกพัน วงเงินสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับ วงเงินสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย วงเงินสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้กำกับ และวงเงินสินเชื่อบัตรเครดิต

    ​2.2 วงเงินสินเชื่อธุรกิจตามมาตรการ ที่กำหนดว่าไม่นับรวมวงเงินภาระผูกพัน ขอทราบนิยามภาระผูกพันดังกล่าวว่ารวมถึง LC/TR, packing credit, export bills, import bills, วงเงินค้ำประกัน, FX and derivatives หรือไม่

    2.2 ​ไม่นับรวมวงเงินภาระผูกพันประเภทวงเงินค้ำประกัน ตราสารอนุพันธ์ โดยในส่วนของวงเงินสินเชื่อ เช่น trust receipt ให้นับรวมเพื่อคำนวณวงเงินสินเชื่อตาม พ.ร.ก. นี้ ทั้งนี้ หาก สถาบันการเงินไม่สามารถแยกวงเงิน letter of credit กับ trust receipt ให้นับทั้งวงเงินเป็นวงเงินสินเชื่อตาม พ.ร.ก. นี้

    ​3. กลุ่มลูกหนี้พิจารณาจากเกณฑ์ใด เช่น การถือหุ้น การมีอำนาจลงนาม หรือ การมีอำนาจบริหาร เป็นต้น หรือให้เป็นไปตามนโยบายเครดิตของสถาบันการเงิน

    ​การนับกลุ่มลูกหนี้ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การกำกับลูกหนี้รายใหญ่ (Single Lending Limit)

    ​4. กรณีที่ลูกหนี้มีภาระหนี้คงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562แต่ปัจจุบันได้ชำระหนี้ปิดวงเงินไปแล้ว ถือว่าลูกหนี้มีคุณสมบัติยื่นขอสินเชื่อตามมาตรการได้หรือไม่

    ​4.1 ปัจจุบันลูกหนี้รายดังกล่าวไม่มีวงเงินและยอดคงค้างกับสถาบันการเงิน

    ​4.1 ไม่ได้ เพราะไม่ใช่ลูกค้าปัจจุบันของสถาบันการเงินแล้ว เนื่องจากการให้กู้ยืมเงิน soft loan ตาม พ.ร.ก. มาตรา 9 (1) ประกอบประกาศ ธปท. ที่ สกส1. 2/2563 ข้อ 4.2 และ 4.7 (1) ซึ่งกำหนดให้วงเงินที่สถาบันการเงินให้กู้ยืมต้องเป็นการให้สินเชื่อเพิ่มเติมจากยอดหนี้เดิม ดังนั้น ผู้ประกอบวิสาหกิจต้องเป็นลูกหนี้ของสถาบันการเงินอยู่เดิม ณ วันที่สถาบันการเงินยื่นขอกู้ soft loan
    อย่างไรก็ดี สถาบันการเงินอาจพิจารณาช่วยเหลือลูกค้าตามมาตรการอื่นของสถาบันการเงินได้

    ​4.2 ปัจจุบันลูกหนี้รายดังกล่าวมีเฉพาะวงเงินสินเชื่อธุรกิจใหม่ที่ได้รับอนุมัติในปี 2563

    ​4.2 ไม่ได้ เนื่องจากได้มีการปิดวงเงินเดิม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 แล้ว

    ​4.3 ปัจจุบันลูกหนี้รายดังกล่าวมีเฉพาะวงเงินสินเชื่อส่วนบุคคล แต่ไม่มีวงเงินสินเชื่อธุรกิจ

    ​4.3 ไม่ได้ เนื่องจากไม่ใช่ลูกหนี้สินเชื่อธุรกิจ

    ​5. กรณีลูกค้ามีบัญชีกู้ร่วมจะใช้สิทธิในการกู้ soft loan อย่างไร

    การขอกู้ soft loan ต้องกู้ในนามลูกหนี้ร่วมเดิมและกู้ได้ไม่เกิน 20% ของยอดหนี้ร่วมเดิมที่มียอดคงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562

     

    ​6. หากเกณฑ์ภายในของสถาบันการเงินจัดลูกค้าอยู่ในกลุ่ม corporate เพื่อการบริหารจัดการดูแล ลูกหนี้จะสามารถเข้าร่วมมาตรการ soft loan ได้หรือไม่

    หากลูกหนี้มีคุณสมบัติตามที่ประกาศ ธปท. กำหนด (ตามคำตอบข้อ 1 ข้างต้น) ลูกหนี้สามารถเข้าร่วมมาตรการ อย่างไรก็ตาม ขอให้สถาบันการเงินพิจารณาช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีขนาดกลางและขนาดย่อมก่อนและต้องไม่มีลักษณะเป็นการให้ soft loan แก่ลูกหนี้ในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ (large corporate) ที่มีศักยภาพและความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนอยู่แล้ว

    กรณีลูกหนี้เป็น NPL
    ​7.1 หากลูกค้าถูกจัดประเภทเป็น NPL (จัดชั้นเชิงคุณภาพ) ตามประกาศของ ธปท.ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ในขณะที่ลูกค้าชำระเงินปกติ ลูกค้ารายนี้สามารถเข้าร่วมในโปรแกรมนี้ได้หรือไม่


    7.1 ​ลูกค้าที่เป็น NPL ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ไม่มีคุณสมบัติที่จะรับความช่วยเหลือตามมาตรการนี้ขอให้ยึดข้อมูลการจัดชั้นลูกหนี้ที่สถาบันการเงินรายงาน DMS ให้ ธปท. ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562

    7.2 ลูกหนี้มีวงเงินกับสถาบันการเงิน 3 แห่ง แต่เป็น NPL กับสถาบันการเงินอื่นที่ไม่ใช่สถาบันการเงินที่ลูกหนี้ขอกู้ soft loanลูกหนี้สามารถขอกู้ soft loan กับสถาบันการเงินที่ไม่จัดชั้นลูกหนี้ดังกล่าวเป็น NPL ได้หรือไม่

    ​7.2 การพิจารณาคุณสมบัติลูกหนี้ พิจารณาแยกแต่ละสถาบันการเงิน ดังนั้น สถาบันการเงินที่ยังไม่จัดชั้นลูกหนี้เป็น NPL ลูกหนี้สามารถขอเข้ามาตรการ soft loan ผ่านสถาบันการเงินดังกล่าวได้

    ​8. การนับวงเงินของลูกหนี้ที่เข้ามาตรการ soft loan ของ ธปท.

    8.1 ครอบคลุมสินเชื่อประเภทใดบ้าง เช่น เงินกู้ระยะยาว, O/D, P/N, T/R, สินเชื่อเพื่อการค้า (trade finance), soft loan ของธนาคารออมสิน, สินเชื่อเช่าซื้อ fleet เพื่อการประกอบธุรกิจ​

    ​8.1 ขอบเขตของสินเชื่อภายใต้มาตรการนี้ครอบคลุมสินเชื่อธุรกิจทุกประเภท รวมถึงวงเงินสินเชื่อเช่าซื้อเฉพาะประเภท fleet เพื่อประกอบธุรกิจ แต่ไม่นับรวมวงเงินตามภาระผูกพัน วงเงินสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับ วงเงินสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย วงเงินสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้กำกับ และวงเงินสินเชื่อบัตรเครดิต

    ​8.2 ถ้าวงเงินถูก hold จะต้องนับเป็นวงเงินรวมตามมาตรการ soft loan หรือไม่

    ​8.2  นับจากวงเงินรวมที่สถาบันการเงินอนุมัติและรายงาน DMS ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562

    ​8.3 กรณีลูกหนี้มีวงเงินเกิน 500 ล้านบาท ต่อมาลูกหนี้ทยอยผ่อนชำระหนี้ทำให้มียอดหนี้คงเหลือ 300 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ลูกหนี้จะสามารถเข้าร่วมมาตรการ soft loan ได้หรือไม่

    8.3 ​ลูกหนี้ที่สามารถเข้ารับความช่วยเหลือตามมาตรการ soft loan วงเงินรวมของกลุ่ม ต้องไม่เกิน 500 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ในกรณีดังกล่าวลูกหนี้ไม่สามารถเข้ามาตรการ soft loan ได้ เนื่องจากมีวงเงินเกินกว่าที่เกณฑ์กำหนด

    ​8.4 วงเงินรวมของสินเชื่อธุรกิจครอบคลุมสินเชื่อบัตรเครดิตเพื่อธุรกิจ และค่าเบี้ยประกันหรือค่าธรรมเนียมอื่นที่สถาบันการเงินออกให้ลูกหนี้ล่วงหน้าหรือไม่

    ​8.4 วงเงินรวมของสินเชื่อธุรกิจครอบคลุมสินเชื่อบัตรเครดิตเพื่อธุรกิจ แต่ไม่ครอบคลุมค่าเบี้ยประกันหรือค่าธรรมเนียมอื่นที่สถาบันการเงินออกให้ลูกหนี้ล่วงหน้า

    ​8.5 การนับวงเงินรวมของลูกหนี้ นับรวมสินเชื่อประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) ด้วยหรือไม่

    ​8.5 หากเป็น MRTA ที่ทำเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อธุรกิจ ให้นับรวมวงเงิน MRTA ดังกล่าว ณ 31 ธันวาคม 2562 ด้วย ทั้งนี้ ไม่นับรวม MRTA สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย

    ​9. การนับช่วงเวลา availability period ที่ภาครัฐจะจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยแทนลูกค้าเป็นเวลา 6 เดือน มีวิธีการนับอย่างไร เช่น ได้รับวงเงิน soft loan 100 ล้านบาท เบิกใช้ 40 ล้านบาท

    ​ภาครัฐจะจ่ายดอกเบี้ยแทนลูกหนี้ในช่วง 6 เดือนแรกนับจากวันที่ลูกหนี้เบิกใช้ soft loan ครั้งแรกตามจำนวนที่ลูกค้าเบิก 40 ล้านบาท

    ​10. ลูกหนี้ที่ทำสัญญาประนีประนอมยอมความที่ศาลกับเจ้าหนี้และผ่อนชำระตามเงื่อนไขที่ตกลงได้เป็นปกติ ยังดำเนินธุรกิจอยู่สามารถจะขอเข้ารับการช่วยเหลือและขอ soft loan ได้หรือไม่

    ​ลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติตามที่ พ.ร.ก. กำหนด สามารถยื่นขอรับความช่วยเหลือตามมาตรการ soft loan ได้

    11. การนับวงเงินว่าเป็นผู้ประกอบวิสาหกิจที่มีวงเงินสินเชื่อเกินกว่า 500 ลบ. หรือไม่ ตามหลักเกณฑ์การยื่นขอ soft loan กรณีบริษัทในกลุ่มมีวงเงินกับสถาบันการเงินในประเทศและสาขาในต่างประเทศ

    11.1 กรณีสาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ
    กรณีลูกหนี้บริษัท A ดำเนินธุรกิจอยู่ในต่างประเทศ และบริษัท B ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท A และดำเนินธุรกิจในประเทศไทย มีวงเงินกับธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศและสาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศที่อยู่ในประเทศไทย ให้นับรวมวงเงินอย่างไร

    ​11.1 ให้พิจารณานับวงเงินรวมของบริษัทในกลุ่มทั้งบริษัท A และ บริษัท B ที่มีกับสาขาธนาคารพาณิชย์ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย โดยไม่ต้องนับรวมวงเงินที่มีอยู่กับสถาบันการเงินที่อยู่ในต่างประเทศ

    ​11.2 กรณีสาขาธนาคารพาณิชย์ไทยในต่างประเทศ
    กรณีลูกหนี้บริษัท A ดำเนินธุรกิจอยู่ในต่างประเทศ และบริษัท B ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท A และดำเนินธุรกิจในประเทศไทย มีวงเงินกับธนาคารพาณิชย์ไทยและสาขาธนาคารพาณิชย์ไทยในต่างประเทศ ให้นับรวมวงเงินอย่างไร

    ​11.2 ให้พิจารณานับวงเงินรวมของบริษัทในกลุ่มทั้งบริษัท A และ บริษัท B ที่มีกับธนาคารพาณิชย์ไทยและสาขาธนาคารพาณิชย์ไทยในต่างประเทศตามหลักเกณฑ์ SLL

    12. ในการขอ soft loan สถาบันการเงินยังคงต้องพิจารณาเครดิตของลูกค้าหรือไม่ และเมื่อสถาบันการเงินอนุมัติสินเชื่อและยื่นเรื่องมาที่ ธปท. แล้ว ธปท. จะต้องอนุมัติตามที่สถาบันการเงินยื่นเรื่องมาทุกรายหรือไม่ รวมทั้ง กรณีลูกหนี้ที่ยื่นเรื่องเข้าเกณฑ์คุณสมบัติตามที่ ธปท. กำหนด แต่ไม่ผ่านหลักเกณฑ์ภายในของสถาบันการเงิน สถาบันการเงินสามารถปฏิเสธการอนุมัติสินเชื่อได้หรือไม่ และจะมีความผิดทางกฎหมายหรือไม่​

    ในการขอ soft loan สถาบันการเงินยังคงต้องพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าตามกระบวนการพิจารณาสินเชื่อตามปกติของสถาบันการเงิน โดยลูกค้าต้องยื่นความจำนงมาที่สถาบันการเงินก่อนและเมื่อสถาบันการเงินพิจารณาอนุมัติสินเชื่อและยื่นเรื่องมาที่ ธปท. แล้ว ธปท. มีสิทธิที่จะปฏิเสธการให้ soft loan ในกรณีที่ ธปท. ตรวจสอบแล้วพบว่าคุณสมบัติของลูกค้าไม่เป็นไปตามที่ประกาศ ธปท.กำหนด แต่หาก สง. มีข้อมูลชี้แจงเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อ RM เพื่อให้ ธปท. ตรวจสอบคุณสมบัติเพิ่มเติมได้
    ในกรณีที่สถาบันการเงินไม่อนุมัติ soft loan ให้กับลูกหนี้และลูกหนี้ประสงค์ที่จะขอทราบเหตุผลของการที่สถาบันการเงินไม่อนุมัติสินเชื่อ ให้สถาบันการเงินชี้แจงให้ลูกหนี้ทราบเหตุผลการปฏิเสธสินเชื่อดังกล่าวอย่างชัดเจนตามหนังสือที่ ธปท. ฝนส. (21) ว. 71/2553 เรื่องการชี้แจงเหตุผลของการไม่อนุมัติสินเชื่อเป็นลายลักษณ์อักษร

    13. กรณีลูกหนี้เป็นบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนใน SET หรือ MAI แต่มีบริษัทแม่ที่อยู่ใน SET หรือ MAI สามารถขอ soft loan ได้หรือไม่​

    ​จะต้องพิจารณาใน 2 ประเด็น คือ
    1. ในการพิจารณาวงเงินสินเชื่อของกลุ่ม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ขอให้นำวงเงินสินเชื่อของบริษัททั้งกลุ่ม (รวมแม่ที่อยู่ใน SET และ MAI) มาพิจารณาว่าเกิน 500 ล้านบาท หรือไม่ ถ้าเกินกว่า 500 ล้านบาท ทั้งกลุ่มนี้ไม่มีสิทธิขอ soft loan


    2. แต่หากวงเงินสินเชื่อทั้งกลุ่มข้างต้น ไม่เกิน 500 ล้านบาท ถือว่ากลุ่มนี้ยังมีคุณสมบัติตาม ที่ประกาศ ธปท.กำหนด แต่ในการพิจารณาให้วงเงิน soft loan จะให้ได้เฉพาะบริษัทลูกที่ไม่อยู่ใน SET และ MAI

    ทั้งนี้ ขอให้สถาบันการเงินพิจารณาช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีขนาดกลางและขนาดย่อมก่อน

    14. ลูกหนี้ต่างชาติที่จดทะเบียนในประเทศไทยหรือบริษัทที่ถือหุ้นโดยต่างชาติ สามารถเข้ามาตรการ soft loan ได้หรือไม่​

    ​บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทยที่มีสถานประกอบการตั้งอยู่ในประเทศไทยและประกอบธุรกิจในประเทศไทยสามารถเข้าร่วมมาตรการ soft loan ได้ โดยไม่ต้องพิจารณาสัดส่วนการถือหุ้น

    15.กรณีลูกค้าเป็นบุคคลธรรมดาและขอเงินกู้เพื่อนำไปให้บริษัทในกลุ่มกู้ยืมต่อ (ซึ่งได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เช่น กิจการโรงแรม)

    ​การนับกลุ่มลูกหนี้ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การให้สินเชื่อแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใดตามหลักเกณฑ์การกำกับลูกหนี้รายใหญ่ (Single Lending Limit)

    ​15.1 กรณีที่บริษัทในกลุ่มไม่เข้าเกณฑ์มาตรการนี้ ลูกค้าสามารถขอเข้ามาตรการนี้ได้หรือไม่

    ​15.1 หากบุคคลดังกล่าวถูกจัดในกลุ่มเดียวกันและวงเงินสินเชื่อรวมที่มีกับสถาบันการเงินเกิน 500 ล้านบาท ก็ไม่สามารถเข้ามาตรการ soft loan ได้

    ​15.2 กรณีที่บริษัทในกลุ่มเข้าเกณฑ์และขอกู้ตามมาตรการนี้ ลูกค้าสามารถขอกู้เพิ่มให้บริษัทในกลุ่มด้วยได้หรือไม่

    ​15.2 หากลูกค้าดังกล่าวผ่านคุณสมบัติตามที่กำหนด ก็สามารถเข้ามาตรการ soft loan ได้ โดยสามารถยื่นกู้ได้ไม่เกิน 20% ของยอดหนี้ของลูกหนี้แต่ละรายของสถาบันการเงิน

    16. ลูกหนี้ที่จะยื่นขอกู้ soft loan รวมลูกหนี้ในธุรกิจสถาบันการเงินด้วยหรือไม่ เช่น สถาบันการเงิน บริษัทประกัน บริษัทหลักทรัพย์ สหกรณ์ เป็นต้น​

    ​ประเภทองค์กรของลูกหนี้ที่ไม่สามารถยื่นขอกู้ soft loan ได้ ได้แก่
    - องค์กรทางการไทย เช่น รัฐบาลกลาง (กระทรวง, ทบวง และกรมของรัฐบาลไทย) รัฐบาลท้องถิ่น (เช่น เทศบาล, สุขาภิบาล, องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น, เทศพาณิชย์ที่มิได้ดำเนินการในรูปบริษัท เป็นต้น) รัฐวิสาหกิจ และองค์การของรัฐ
    - หน่วยงานรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่นที่ดำเนินการในรูปบริษัทฯ
    - สถาบันการเงินในประเทศ เช่น ธนาคารพาณิชย์ไทย ธนาคารพาณิชย์ไทยเพื่อรายย่อย ธนาคารพาณิชย์ที่เป็นบริษัทลูกของธนาคารต่างประเทศ สาขาธนาคารต่างประเทศ สำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศ สถาบันการเงินพิเศษของรัฐ สำนักงานผู้แทนธนาคารต่างประเทศ บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บริษัทเครดิตฟองซิเอร์
    - ธุรกิจการเงินต่างๆ เช่น ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่มิใช่สถาบันการเงิน บริษัทประกันชีวิต สหกรณ์ออมทรัพย์ ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ บริษัทบริหารสินทรัพย์ โรงรับจำนำ
    ทั้งนี้ไม่รวมถึง บุคคลรับอนุญาตให้แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Money Changer)เนื่องจากไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อการปล่อยกู้สินเชื่อ
    - กองทุนต่างๆ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนประกันสังคม กองทุนเงินทดแทน
    - องค์กรที่ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อหากำไร เช่น วัด มูลนิธิ สมาคม โรงเรียนรัฐบาล มหาวิทยาลัยรัฐบาล เนื่องจากวัตถุประสงค์การจัดตั้งองค์กรดังกล่าวไม่ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อการประกอบธุรกิจ อย่างไรก็ดี ลูกหนี้ซึ่งมีลักษณะเป็นโรงเรียนเอกชน มหาวิทยาลัยเอกชน และวิสาหกิจชุมชน สามารถยื่นขอกู้ soft loan ได้

    17. กรณีลูกหนี้ประกอบธุรกิจทางการเงินและธุรกิจอื่น

    ​17.1 หากลูกหนี้ประกอบธุรกิจหลักขายสินค้า แต่ประกอบธุรกิจรองที่มีลักษณะคล้ายผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน เช่น ประกอบธุรกิจหลักขายรถยนต์ แต่มีธุรกิจรองให้เช่าซื้อ (leasing) หรือ ประกอบธุรกิจหลักขายเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่มีบริการจ่ายชำระเป็นเงินผ่อนโดยคิดอัตราดอกเบี้ยกับลูกค้า ลูกหนี้สามารถยื่นขอกู้ soft loan ได้หรือไม่

    ​17.1 หากธุรกิจหลักของลูกหนี้ไม่ใช่ธุรกิจทางการเงินและลูกหนี้มีคุณสมบัติอื่นตามที่ประกาศ ธปท.กำหนด ลูกหนี้รายดังกล่าวสามารถยื่นขอกู้ soft loan ได้

    ​17.2 หากสหกรณ์การเกษตรประกอบธุรกิจตัวกลางทางการเงินและประกอบธุรกิจซื้อวัตถุดิบมาจำหน่ายให้แก่สมาชิกด้วยต้นทุนต่ำ รวบรวม แปรรูป และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร สหกรณ์การเกษตรดังกล่าวมีคุณสมบัติขอกู้ soft loan ได้หรือไม่ หากได้ การนับวงเงินจะนับวงเงินสินเชื่อธุรกิจทั้งหมดหรือนับเฉพาะวงเงินสินเชื่อธุรกิจเพื่อประกอบธุรกิจการค้า

    ​17.2 สหกรณ์การเกษตรซึ่งประกอบธุรกิจทั้งตัวกลางทางการเงินและประกอบธุรกิจ
    ทางการค้าควบคู่ไปด้วย และได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ก็เข้าข่ายขอกู้ soft loan เพื่อไปใช้หมุนเวียนในธุรกิจทางการค้าได้ โดยสถาบันการเงินต้องมีฐานข้อมูลและสามารถคัดกรองการให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้รายดังกล่าวที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจการค้า และต้องควบคุมติดตามให้ลูกหนี้นำเงินไปใช้ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ขอกู้
    การนับวงเงินของกลุ่มลูกหนี้ไม่เกิน 500 ล้านบาท จะนับทั้งวงเงินสินเชื่อสำหรับเป็นตัวกลางทางการเงินและวงเงินสินเชื่อสำหรับประกอบธุรกิจการค้า โดยจะยึดตามหลักเกณฑ์การกำกับลูกหนี้รายใหญ่(Single Lending Limit) สำหรับวงเงิน soft loan ที่จะให้แต่ละรายไม่เกินร้อยละ 20 ของยอดสินเชื่อคงค้าง จะนับเฉพาะยอดสินเชื่อคงค้างและหลักประกันที่ใช้สำหรับประกอบธุรกิจการค้าเท่านั้น และจะใช้เฉพาะวงเงินสินเชื่อสำหรับประกอบธุรกิจการค้ามาคำนวณชดเชยความเสียหาย

    ​17.3 ลูกหนี้ประกอบธุรกิจนายหน้าหรือตัวแทนบริษัทประกันชีวิต มีคุณสมบัติขอยื่นกู้ soft loan ได้หรือไม่

    ​17.3 ลูกหนี้ประกอบธุรกิจนายหน้าหรือตัวแทนบริษัทประกันชีวิต มีคุณสมบัติขอยื่นกู้ soft loan ได้ อย่างไรก็ตาม ลูกหนี้ซึ่งประกอบธุรกิจประกันชีวิตหรือประกันภัยเข้าข่ายเป็นผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน ไม่มีคุณสมบัติขอกู้ soft loan ตามประกาศ ธปท.

    18. กรณีลูกหนี้ขายสินค้าในลักษณะสัญญาเช่า ถือเป็นผู้ประกอบธุรกิจทางการเงินหรือไม่

    ​18.1 ลูกหนี้ประกอบธุรกิจขายสินค้าเป็นลักษณะสัญญาเช่า โดยจะทำสัญญาเช่าระยะยาวเป็นเวลา 3-6 ปี เมื่อหมดสัญญาแล้ว ลูกหนี้จะนำสินค้าเหล่านั้นกลับคืนจากผู้เช่าเพื่อนำมาปล่อยเช่าต่อให้แก่ผู้เช่ารายใหม่ โดยกรรมสิทธิ์ของสินค้ายังเป็นของลูกหนี้
    ไม่มีการโอนให้ผู้เช่าเมื่อหมดสัญญา

    18.2 ลูกหนี้เป็นบริษัทรับจ้างวางระบบคอมพิวเตอร์ เมื่อออกแบบวางระบบแล้ว บางครั้ง ผู้ซื้อจะขอให้วางระบบพร้อมเช่าอุปกรณ์ต่างๆด้วย โดยอุปกรณ์ต่างๆ เป็นกรรมสิทธิ์ของลูกหนี้ ไม่ได้โอนให้ผู้ซื้อ

    ​กรณีลูกหนี้ประกอบธุรกิจผลิตสินค้าและบริการเป็นธุรกิจหลัก แต่ขายสินค้าในลักษณะสัญญาเช่า ลูกหนี้รายดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นผู้ประกอบธุรกิจทางการเงินตามประกาศ ธปท. และสามารถยื่นขอกู้ soft loan ได้

    ​19. กรรมการบริษัทสามารถขอกู้ soft loan ในนามกรรมการแทนในนามบริษัทได้หรือไม่

    ​ได้ หากกรรมการบริษัทท่านนี้ เคยมีวงเงินสินเชื่อธุรกิจที่เข้าตามหลักเกณฑ์ของการขอสินเชื่อ soft loan และในการขอสินเชื่อ soft loan ครั้งนี้ ขอเพื่อนำไปใช้ในการประกอบธุรกิจ เช่น กรณีที่กรรมการและบริษัทเป็นกลุ่มธุรกิจเดียวกันและมีวงเงินสินเชื่อรวมทั้งกลุ่มไม่เกิน 500 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 สถาบันการเงินสามารถให้วงเงินกู้ soft loan กับกรรมการดังกล่าวเพื่อนำไปประกอบธุรกิจได้ในอัตราส่วนไม่เกินร้อยละ 20 ของยอดหนี้คงค้างของกรรมการท่านนั้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562
    ทั้งนี้ ในการขอ soft loan สถาบันการเงินยังคงต้องพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ตามกระบวนการพิจารณาสินเชื่อตามปกติของสถาบันการเงิน

    ​20. กรณีลูกหนี้มียอดหนี้กับสถาบันการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 แต่สถาบันการเงินไม่ได้รายงานวงเงินดังกล่าวใน DMS ลูกหนี้รายดังกล่าวมีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ soft loan หรือไม่ และหากเข้าเกณฑ์ วงเงิน soft loan พิจารณาอย่างไร
    ตัวอย่าง ลูกหนี้ได้รับวงเงินชั่วคราว 40 ล้านบาท และเบิกใช้เต็มจำนวน ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2562 อย่างไรก็ตาม วงเงินชั่วคราวหมดอายุวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 แต่มียอดหนี้คงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 และสถาบันการเงินไม่ได้รายงานวงเงินดังกล่าวใน DMS

    ​สถาบันการเงินต้องรายงานจำนวนวงเงินของลูกหนี้ใน DMS ไม่น้อยกว่าจำนวนยอดหนี้คงค้าง หากสถาบันการเงินรายงานจำนวนวงเงินใน DMS น้อยกว่าจำนวนยอดหนี้คงค้าง ให้สถาบันการเงินส่งเอกสารหลักฐานเพื่อยืนยันว่าลูกหนี้รายดังกล่าวมีวงเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 และมีคุณสมบัติตามประกาศ ธปท.ผ่านเจ้าหน้าที่สัมพันธ์ (RM) ที่ดูแลสถาบันการเงินดังกล่าว

    ​21. กรณีที่บริษัท A และบริษัท B มีวงเงินกู้ร่วม จำนวนไม่เกิน 500 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 หากบริษัท A และบริษัท B ขอวงเงิน soft loan เป็นวงเงินกู้ร่วมแล้ว บริษัท A และบริษัท B สามารถขอกู้ soft loan ในธุรกิจของ A และ B แยกเป็นกู้เดี่ยวได้อีกหรือไม่

    ​กรณีที่วงเงินเดิมเป็นวงเงินกู้ร่วม สถาบันการเงินสามารถพิจารณาให้ soft loan ในนามวงเงินกู้ร่วมได้ไม่เกินร้อยละ 20 ของยอดหนี้คงค้างวงเงินดังกล่าว ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 และสถาบันการเงินสามารถพิจารณาให้ soft loan เพิ่มในนามผู้กู้เดี่ยวได้อีกไม่เกินร้อยละ 20 ของยอดหนี้คงค้างของผู้กู้เดี่ยวแต่ละราย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562

    ​22. ลูกหนี้ประกอบธุรกิจบริษัทติดตามทวงหนี้รับงานจากสถาบันการเงินและมีสินเชื่อกับสถาบันการเงิน สามารถขอกู้ soft loan นี้ได้หรือไม่

    ​ลูกหนี้รายดังกล่าวสามารถยื่นขอกู้ soft loan ได้ หากมีคุณสมบัติตามที่ประกาศ ธปท. กำหนด

    ​23. ลูกหนี้มีวงเงินกับสถาบันการเงินหลายบัญชี ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ลูกหนี้สามารถยื่นขอกู้ soft loan ได้หรือไม่

    ​23.1 หากลูกหนี้มีบัญชีวงเงินสินเชื่ออุปโภคบริโภคจัดชั้น NPL ในขณะที่บัญชีวงเงินสินเชื่อธุรกิจอื่นจัดชั้นปกติ

    ​23.1 หากลูกหนี้มีบัญชีวงเงินสินเชื่ออุปโภคบริโภคจัดชั้น NPL ในขณะที่บัญชีวงเงินสินเชื่อธุรกิจอื่นจัดชั้นปกติ ลูกหนี้รายดังกล่าวสามารถยื่นขอกู้ soft loan ได้ เนื่องจากการพิจารณา soft loan ไม่นับรวมวงเงินอุปโภคบริโภค

    ​23.2 หากลูกหนี้มีบัญชีวงเงินสินเชื่อธุรกิจหนึ่งจัดชั้น NPLในขณะที่บัญชีวงเงินสินเชื่อธุรกิจอื่นจัดชั้นปกติ

    ​23.2 หากลูกหนี้มีบัญชีวงเงินสินเชื่อธุรกิจหนึ่งจัดชั้น NPLในขณะที่บัญชีวงเงิน
    สินเชื่อธุรกิจอื่นจัดชั้นปกติ ลูกหนี้รายดังกล่าวไม่สามารถยื่นขอกู้ soft loan ได้ เนื่องจากการพิจารณาจัดชั้นพิจารณาเป็นรายลูกหนี้ ไม่ใช่รายบัญชี

    ​24. หากลูกหนี้กู้สินเชื่อบ้านนำมาซื้ออาคารพาณิชย์เพื่อประกอบธุรกิจ และทำเช่าซื้อรถยนต์จากบริษัทลูกในเครือสถาบันการเงิน โดยนำมาใช้ในกิจการ ลูกหนี้รายดังกล่าวสามารถขอ soft loan ได้หรือไม่

    ​- สินเชื่อที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เพื่อการอยู่อาศัย จึงไม่อยู่ในกลุ่มที่สามารถขอ soft loan ได้ อย่างไรก็ดี กรณีที่เป็นสินเชื่อที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจ ลูกหนี้รายดังกล่าวสามารถยื่นขอกู้ soft loan ได้ แต่สถาบันการเงินต้องชี้แจงและนำส่งเอกสารหลักฐานยืนยันวัตถุประสงค์ดังกล่าวมาให้ ธปท.
    - การกู้ยืมจากธุรกิจในเครือสถาบันการเงิน ไม่เข้าข่ายการให้ความช่วยเหลือตาม พ.ร.ก. และประกาศ ธปท.

    25. กรณีที่ลูกหนี้บริษัท A ถือหุ้นโดยบริษัท ก และบริษัท ข ส่งผลให้บริษัท A เป็นบริษัทในกลุ่มของทั้งบริษัท ก และบริษัท ข ตามเกณฑ์ SLLในขณะที่บริษัท ก และบริษัท ข ไม่มีความเกี่ยวข้องกันจึงไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันตามเกณฑ์ SLL ​
    · บริษัท ก + บริษัท A มีวงเงินเกิน 500 ล้านบาท
    · บริษัท ข + บริษัท A มีวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท
    บริษัท A มีคุณสมบัติสามารถขอกู้ soft loan ได้หรือไม่

    ​หากลูกหนี้ถูกจัดกลุ่มตามเกณฑ์ SLL มากกว่า 1 กลุ่มและมีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมีวงเงินเกิน 500 ล้านบาท ลูกหนี้รายดังกล่าวถือว่าไม่มีคุณสมบัติที่จะขอกู้ soft loan ได้

    ​26. กรณีลูกหนี้กู้ยืมสินเชื่อโดยนำที่อยู่อาศัยมาเป็นหลักประกัน เพื่อนำเงินไปประกอบธุรกิจ สามารถขอ soft loan ได้หรือไม่

    ​กรณีลูกหนี้กู้ยืมสินเชื่อโดยนำที่อยู่อาศัยมาเป็นหลักประกันและเป็นผู้ประกอบวิสาหกิจ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้ธุรกิจ รวมถึงมีลักษณะอื่นตามประกาศ ธปท. ที่ สกส1. 2/2563 ลูกหนี้รายดังกล่าวมีคุณสมบัติยื่นขอกู้ soft loan ได้ แต่สถาบันการเงินต้องชี้แจงและนำส่งเอกสารหลักฐานยืนยันวัตถุประสงค์ดังกล่าวมาให้ ธปท.

    ​27. ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ลูกหนี้ยังไม่เป็นบริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ต่อมาในปี 2563 ลูกหนี้ที่ได้รับอนุมัติจาก ตลท.ให้นำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนใน MAIได้ แต่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ลูกหนี้รายดังกล่าวมีคุณสมบัติที่จะได้รับ soft loanตาม พ.ร.ก. และประกาศของ ธปท. หรือไม่

    การพิจารณาลักษณะของลูกหนี้ตามประกาศ ธปท. ที่ สกส1. 2/2563 ข้อ 4.7(1.5) ต้องพิจารณา ณ วันที่ ธปท. พิจารณาเงินกู้ soft loanให้แก่สถาบันการเงิน โดยการที่ลูกหนี้ได้รับอนุมัติจาก ตลท.ให้นำหุ้นสามัญออกขายใน SET หรือ MAI ย่อมถือได้ว่าลูกหนี้รายดังกล่าวสามารถจะมีหลักทรัพย์ที่ได้รับการจดทะเบียนออกขายใน ตลท.ได้แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าลูกหนี้รายดังกล่าวเป็นลูกหนี้รายใหญ่ที่สามารถหาแหล่งเงินได้โดยวิธีทางตลาดทุน จึงถือได้ว่าลูกหนี้รายดังกล่าวเป็นลูกหนี้ที่มีลักษณะที่ไม่อาจได้รับสินเชื่อ soft loan ได้
    สำหรับลูกหนี้ที่ยื่นคำขอ (filing) เข้าจดทะเบียนและอยู่ระหว่างการพิจารณาจาก ตลท.
    มีคุณสมบัติขอยื่นกู้ soft loan ได้ เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนที่ ตลท. จะอนุมัติหรือไม่
    จึงยังไม่อาจถือได้ว่าลูกหนี้จะสามารถหาแหล่งเงินได้โดยวิธีทางตลาดทุน หากภายหลัง
    การรับเงินกู้ soft loanแล้ว ลูกหนี้ที่อยู่ระหว่าง filing ได้รับอนุมัติให้เข้าจดทะเบียนและ
    นำหุ้นสามัญออกขายใน SET และ MAI ได้ ก็ไม่อาจนำข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นภายหลังนั้นมาใช้พิจารณาลักษณะของลูกหนี้ที่จะได้รับ soft loanไปแล้วได้ สถาบันการเงินไม่ต้องคืน
    เงินกู้ยืมดังกล่าวให้ ธปท.

    ​28. สถาบันการเงินยื่นคำขอสินเชื่อ soft loan มายัง ธปท. ให้แก่บริษัท ก และได้รับอนุมัติวงเงิน ต่อมา บริษัท ก และบริษัทในกลุ่มได้ควบรวมกิจการเป็น 1 บริษัท ในนามบริษัท ข โดยได้ดำเนินการโอนย้ายทรัพย์สิน หนี้สิน บุริมสิทธิ์ การดำเนินการด้านนิติกรรม รวมถึงเริ่มดำเนินธุรกรรมกับสถาบันการเงินในนามบริษัท ข ในภายหลัง สถาบันการเงินสามารถโอนย้ายวงเงิน soft loan ของบริษัท ก ไปยัง บริษัท ข ซึ่งเป็นบริษัทใหม่ที่ยังไม่มีภาระหนี้กับสถาบันการเงินได้หรือไม่

    ​เมื่อมีการควบบริษัทจำกัดเข้าด้วยกัน บริษัทใหม่ที่เกิดขึ้นจากการควบบริษัทนั้นย่อมได้ไปทั้งสิทธิและความรับผิดทั้งหมดที่มีอยู่กับบริษัทเดิมที่ได้มาควบรวมเข้าด้วยกัน ตามมาตรา 1243 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เช่นเดียวกับกรณีการควบบริษัทมหาชนที่ควบกันและจดทะเบียนแล้วย่อมได้ไปทั้งทรัพย์สิน หนี้ สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของบริษัทเหล่านั้นทั้งหมด ตามมาตรา 153 แห่ง พ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535
    ดังนั้น เมื่อมีการควบบริษัทเข้าด้วยกัน บริษัทใหม่ดังกล่าวย่อมได้รับทั้งสิทธิและความรับผิดบรรดามีอยู่แก่บริษัทเดิมด้วย ซึ่งรวมถึงสิทธิหน้าที่ในฐานะลูกหนี้เดิมของสถาบันการเงิน เพราะฉะนั้น สถาบันการเงินจึงสามารถโอนย้ายวงเงิน soft loan ที่ได้รับไปยังบริษัทใหม่ได้

    02 การกำหนดวงเงิน อัตราดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียม

    29. วงเงินที่สามารถยื่นขอกู้ soft loan

    ​สถาบันการเงินสามารถอนุมัติวงเงินกู้ เพื่อยื่นขอกู้ soft loan ได้ ไม่เกิน 20% ของยอดหนี้คงค้างสินเชื่อ ณ 31 ธันวาคม 2562 ของลูกหนี้แต่ละรายของสถาบันการเงิน (ไม่รวมบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน) โดย ธปท. จะจัดสรรวงเงินให้แต่ละสถาบันการเงินตามลำดับที่ยื่นคำขอ (first come, first served) ทั้งนี้ การพิจารณาวงเงินให้เน้นธุรกิจที่สถาบันการเงินพิจารณาแล้วว่าได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยไม่จำกัดวัตถุประสงค์ และส่งเสริมการจ้างงาน

    30. สถาบันการเงินพิจารณาวงเงินสินเชื่อ soft loan จากค่าจ้างที่ธุรกิจ ต้องจ่ายให้พนักงาน มากกว่ากำหนดไม่เกิน 20% ของยอดหนี้

    ​ทางการกำหนดวงเงิน soft loan ไม่เกิน 20% ของยอดหนี้คงค้างเพื่อให้เกิดความรวดเร็วในทางปฏิบัติ และสามารถครอบคลุมลูกหนี้ให้ทั่วถึง ทั้งนี้ หากสถาบันการเงินจะนำปัจจัยค่าจ้างหรือค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมาเป็นเกณฑ์ภายในสำหรับพิจารณาวงเงินสินเชื่อก็ย่อมทำได้

    31. ประเภทของวงเงิน soft loan ที่อนุมัติให้กับลูกหนี้ ครอบคลุมวงเงินประเภทใดบ้าง เช่น term loan, O/D, P/N, trade finance​

    ​ไม่จำกัดประเภทวงเงิน

    32. การตั้งวงเงิน soft loan

    32.1 กรณีมีวงเงินเดิมที่ลูกค้าไม่ได้ใช้ (unused) สามารถเปลี่ยนมาเป็นวงเงิน soft loan ได้ หรือไม่​

    32.1 วงเงินที่ให้กู้ยืมดังกล่าวต้องไม่มีผลกระทบต่อวงเงินสินเชื่อที่มีอยู่เดิม โดยเจตนารมณ์ของมาตรการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อต้องการเพิ่มสภาพคล่องให้กับลูกหนี้ หากสถาบันการเงินประสงค์จะให้ลูกหนี้ได้วงเงิน soft loan สถาบันการเงินก็ต้องอนุมัติวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติมโดยไม่จำเป็นให้ลูกหนี้เบิกใช้วงเงินเดิมจนเต็มก่อน และหากลูกหนี้ยังมีความประสงค์จะขอกู้ soft loan เพิ่มขึ้น จะขอกู้ได้ไม่เกิน 20% ของยอดหนี้คงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562

    32.2 สถาบันการเงินต้องตั้งวงเงิน soft loan แยกออกจากวงเงินกู้เดิมหรือไม่ หรือสามารถ ขยายจากวงเงินเดิมได้

    32.2 สถาบันการเงินต้องตั้งวงเงิน soft loan เป็นวงเงินใหม่แยกออกจากวงเงินเดิมของลูกหนี้

    33. แนวทางป้องกันไม่ให้ลูกหนี้ได้รับสินเชื่อเกินความต้องการ โดยเฉพาะกรณีมีเจ้าหนี้หลายราย

    33.1. ลูกหนี้รายเดียวกันอาจได้รับความช่วยเหลือที่แตกต่างกัน

    33.2 บางสถาบันการเงินสนับสนุนสินเชื่อใหม่ หากเจ้าหนี้บางรายไม่เข้าเกณฑ์ชะลอการชำระต้นและดอกเบี้ย อาจเกิดการนำสินเชื่อ soft loan ไป refinance สถาบันการเงินอื่น หรือชำระสินเชื่อเดิม ซึ่งไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของภาครัฐ ​

    ​ธปท. ต้องการเร่งผลักดันให้เม็ดเงินถึงลูกหนี้โดยเร็วที่สุด และจากฐานข้อมูลสินเชื่อพบว่ามีลูกหนี้ SME ที่มีเจ้าหนี้หลายรายเพียง 1%

    34. เมื่อเข้าร่วมโครงการแล้ว สถาบันการเงินจะมีเงื่อนไขการคิดภาระหนี้กับลูกหนี้อย่างไร (เงินต้นและดอกเบี้ย) ​

    ​ระยะเวลา 2 ปี อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 2% โดยรัฐบาลชำระดอกเบี้ยแทนลูกค้าในช่วง 6 เดือนแรก ส่วนเงินต้นเป็นไปตามเงื่อนไขที่ตกลงกับสถาบันการเงิน โดยสถาบันการเงินต้องไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใด ๆ จากลูกหนี้ภายใต้มาตรการ soft loan นี้ โดยเฉพาะ front end fee

    35. มีเงื่อนไขควบคุมวัตถุประสงค์การใช้วงเงินและการกำหนดให้ลูกหนี้ทยอยเบิกใช้วงเงินหรือไม่​

    ​ภาครัฐต้องการให้เงินถึงมือธุรกิจโดยเร็วที่สุดจึงไม่ได้จำกัดวัตถุประสงค์การใช้วงเงินและมีเงื่อนไขให้ลูกหนี้สามารถทยอยเบิกใช้วงเงินได้ตามความเหมาะสม อย่างไรก็ดี สถาบันการเงินควรพิจารณาความจำเป็นและจำนวนวงเงินที่เหมาะสมของลูกหนี้ประกอบการอนุมัติสินเชื่อด้วย

    36. กรณีวงเงิน soft loan ที่สนับสนุนให้ลูกหนี้เป็น revolving working capital เช่น O/D, P/N, tradefinance กรณีลูกหนี้มีการลดยอดใช้หรือชำระคืนบางส่วนแล้ว ลูกหนี้สามารถขอเบิกใหม่โดยยังได้อัตราดอกเบี้ย soft loan อยู่ได้หรือไม่ และหากลูกหนี้ไม่ประสงค์จะใช้วงเงินแล้วสถาบันการเงินจะต้องดำเนินการอย่างไร​

    ​ลูกหนี้สามารถเบิกใช้วงเงินและชำระคืนได้ในระยะ 2 ปีตามสัญญากู้ยืมและสอดคล้องกับความต้องการใช้วงเงินของลูกหนี้ โดยได้รับอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 2%ยกเว้นกรณีลูกหนี้ชำระหนี้และ ปิดบัญชี หรือลูกหนี้ไม่ประสงค์จะใช้วงเงินดังกล่าว ให้สถาบันการเงินชำระหนี้ soft loan คืน ธปท. ภายใน 30 วันทำการนับแต่วันที่ได้รับชำระหนี้คืนทั้งหมดจากผู้ประกอบวิสาหกิจ หรือวันที่ได้รับแจ้งความประสงค์จากผู้ประกอบวิสาหกิจ แล้วแต่กรณี (ตามประกาศ ธปท. ที่ สกส. 1.2/2563 ข้อ 4.8 (1))

    37. การดำเนินการกับลูกหนี้ที่ขอกู้ยืมภายใต้มาตรการ soft loan

    37.1 หากลูกหนี้ไม่สามารถจ่ายชำระหนี้ soft loan ตามกำหนดชำระหนี้หรือสถาบันการเงินสืบทราบได้แน่ชัดว่าลูกหนี้มีเจตนาไม่ชำระหนี้คืนเมื่อครบกำหนดชำระหนี้ เช่น ลูกหนี้ปิดกิจการและติดต่อไม่ได้ หรือลูกหนี้ต้องคดีที่ส่งผลต่อการชำระหนี้คืน (ฉ้อโกง ยาเสพติด เป็นต้น) หรือไม่สามารถชำระหนี้คืนได้อีก เช่น เสียชีวิต หรือปิดกิจการ สถาบันการเงินสามารถดำเนินการตามขั้นตอนปกติในการ collection process ได้หรือไม่ โดยไม่ต้องรอครบกำหนด 6เดือน

    37.2 หากลูกหนี้ผิดนัด สามารถคิดดอกเบี้ยผิดนัดหรือไม่​

    สถาบันการเงินอาจพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนปกติได้ แต่ห้ามเรียกเก็บค่าเบี้ยปรับและดอกเบี้ยผิดนัดหากลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ในระหว่าง 2 ปีตามมาตรการนี้ เนื่องจากสถาบันการเงินมีต้นทุนทางการเงินต่ำสำหรับการปล่อยกู้ soft loan (อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01) ทั้งนี้ ภายหลังช่วงเวลาดังกล่าว สถาบันการเงินสามารถปรับโครงสร้างหนี้หรือคิดดอกเบี้ยในอัตราที่สถาบันการเงินตกลงกับลูกหนี้ได้

    38. ขอให้ทางการยืดหยุ่นการให้ลูกหนี้ ผู้ค้ำประกัน และเจ้าของหลักประกันลงนามในเอกสารประกอบสินเชื่อใหม่ตามมาตรการช่วยเหลือ ​

    ​กรณีการให้สินเชื่อ soft loan ใหม่ ลูกหนี้ต้องลงนามในเอกสารการขอกู้ยืมเงิน และการทำนิติกรรมต่าง ๆ ที่สถาบันการเงินกำหนด ส่วนผู้ค้ำประกันขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสัญญา

    39. soft loan ตามมาตรการนี้ถือเป็นสินเชื่อไม่มีหลักประกันหรือไม่ และขอให้กำหนดใน พ.ร.ก. ว่าให้สามารถใช้สัญญาจำนอง/สัญญาค้ำประกันเดิม ที่ลูกหนี้ให้ไว้กับสถาบันการเงินมามีผลบังคับกับวงเงิน soft loanใหม่ได้โดยไม่ต้องให้ลูกหนี้ไปจำนองใหม่ (override ปพพ.ค้ำประกัน จำนอง ปี พ.ศ.2558)เพื่อเป็นการลดขั้นตอน ลดค่าใช้จ่าย และความเสี่ยงที่ต้องเดินทางไปทำนิติกรรมที่กรมที่ดิน​

    ​ตามหลักเกณฑ์ไม่ได้กำหนดให้สถาบันการเงินต้องเรียกหลักประกันเพิ่มจากลูกหนี้ แต่ในการคำนวณจำนวนเงินที่จะชดเชย ให้ถือเสมือนหนึ่งว่าหลักประกันเดิมที่มีอยู่ เป็นหลักประกันร่วมของสินเชื่อทั้งสิ้นที่รวม soft loan สำหรับการคำนวณเงินสำรอง อย่างไรก็ดี หากสถาบันการเงินต้องการจำนองหลักประกันเพิ่มเติมจากเดิม พ.ร.ก. ได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนจำนองอสังหาริมทรัพย์และอาคารชุด และการจดทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ อันเนื่องมาจากการให้กู้ยืมเงินตาม พ.ร.ก.นี้ เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายให้สถาบันการเงินและลูกหนี้แล้ว

    40. หากสถาบันการเงินผิดเงื่อนไขของมาตรการ จะมีบทลงโทษอย่างไร เช่น กรณีที่สถาบันการเงินจัดกลุ่ม Single Lending Limit (SLL) ไม่ถูกต้อง​

    ​หากเป็นการให้สินเชื่อไม่เป็นไปตามคุณสมบัติ จะถือว่าไม่ใช่สินเชื่อ soft loan ตามเงื่อนไข สถาบันการเงิน ต้องคืนเงินกู้ยืมตามมาตรการดังกล่าวให้ ธปท. และรัฐไม่รับชดเชยความเสียหายให้ ทั้งนี้ สถาบันการเงินต้องไม่กำหนดในข้อสัญญาระหว่างสถาบันการเงินกับผู้ประกอบวิสาหกิจในการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 2 ปีแรกให้เกินกว่าร้อยละ 2 ต่อปี หรือกำหนดให้ผู้ประกอบวิสาหกิจชำระเบี้ยปรับ หรือความเสียหายประการอื่นแก่สถาบันการเงิน

    41. วงเงินสินเชื่อธุรกิจที่เข้ามาตรการนี้ นับรวมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยด้วยใช่หรือไม่​

    ​ให้พิจารณาจากวันอนุมัติสินเชื่อ หากสถาบันการเงินพิจารณาเป็นสินเชื่อธุรกิจ สามารถเข้าร่วมมาตรการได้ หากจัดประเภทเป็นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจะไม่เข้าเกณฑ์มาตรการนี้

    42. การขอกู้ยืม soft loan จาก ธปท. กำหนดระยะเวลา 2 ปี เป็น fixed period หรือไม่​

    ​การให้กู้ยืมเงินของ ธปท. จะดำเนินการโดยรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่สถาบันการเงินเป็นผู้ออก โดยตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวต้องมีกำหนดชำระไม่เกินระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่สถาบันการเงินได้รับเงินกู้ยืมจาก ธปท. เช่น สถาบันการเงินได้รับเงินผ่านระบบ BAHTNET วันที่ 30 เมษายน 2563 อายุตั๋วจะเริ่มตั้งแต่ 30 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 29 เมษายน 2565 ทั้งนี้ หากวันครบกำหนดตรงกับวันหยุดทำการ ให้คิดดอกเบี้ยจนถึงวันทำการถัดไป
    สำหรับการกำหนดระยะเวลาเงินกู้ของลูกหนี้ ขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินและลูกหนี้ เพียงแต่สถาบันการเงินจะรับการช่วยเหลือและชดเชยตามมาตรการ soft loan ในระยะเวลา 2 ปี นับจากวันที่สัญญาเงินกู้ยืมมีผลบังคับใช้ ทั้งนี้ หลังระยะเวลา 2 ปี สถาบันการเงินสามารถพิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ต่อได้ ด้วยอัตราดอกเบี้ยตามต้นทุนเงินและความเสี่ยงของสถาบันการเงิน

    43. การคิดค่าธรรมเนียมกับลูกหนี้ที่ขอกู้ soft loan

    ​

    43.1 ในกรณีที่สถาบันการเงินเรียกหลักประกันเพิ่มจากลูกหนี้ ค่าใช้จ่ายในการ
    ประเมินราคาสามารถเรียกเก็บจากลูกค้าได้หรือไม่

    43.1 สถาบันการเงินต้องไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใด ๆ จากลูกหนี้ภายใต้มาตรการ soft loan นี้ ทั้งนี้ ไม่รวมถึงค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้บุคคลภายนอก เช่น ค่าอากรที่จ่ายให้หน่วยงานราชการ ค่าประเมินราคาที่จ่ายให้กับบริษัทประเมินราคาภายนอก

    43.2 หากสถาบันการเงินให้ลูกหนี้ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงของสถาบันการเงิน สถาบันการเงินจะสามารถเรียกเก็บจากลูกค้าได้หรือไม่

    43.2 สถาบันการเงินสามารถเรียกเก็บค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อได้ตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง แต่สถาบันการเงินต้องไม่บังคับทำประกันชีวิตและไม่กำหนดเป็นเงื่อนไขให้ได้รับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อโดยต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามประกาศ ธปท. ที่ สกส. 1/2561 เรื่อง การบริหารจัดการด้านการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรม (Market Conduct) และประกาศ ธปท. ที่ สนส. 17/2551 เรื่องการอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจการประกันภัย

    43.3 สถาบันการเงินสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากการปล่อยกู้ soft loan นอกจากดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 2 เช่น front-end fee ได้หรือไม่

    43.3 ตามประกาศ ธปท. ที่ สกส1.2/2563ข้อ 4.7 (4) ห้ามสถาบันการเงินเรียกเก็บค่าธรรมเนียมใดๆ รวมถึงดอกเบี้ยผิดนัดจากลูกหนี้ในส่วนสินเชื่อที่ให้เพิ่มเติม กรณีภายหลังจากที่สถาบันการเงินรับเงินกู้ยืมจาก ธปท. และพบว่าสถาบันการเงิน
    นำเงินดังกล่าวไปให้กู้ยืมแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขตามพระราชกำหนดหรือประกาศ ธปท. ให้สถาบันการเงินคืนเงินกู้ยืมตามจำนวนที่มีการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขให้แก่ ธปท. ตามระยะเวลาที่ ธปท. กำหนด
    ทั้งนี้ สถาบันการเงินต้องไม่กำหนดในข้อสัญญาระหว่างสถาบันการเงินกับผู้ประกอบวิสาหกิจในการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 2 ปีแรกให้เกินกว่าร้อยละ 2 ต่อปี หรือกำหนดให้ผู้ประกอบวิสาหกิจชำระเบี้ยปรับ หรือความเสียหายประการอื่นแก่สถาบันการเงินตามประกาศ ธปท. ที่ สกส1.2/2563 ข้อ 4.8 (2)

    43.4 ในกรณีที่สถาบันการเงินเรียกหลักประกันเพิ่มจากลูกหนี้ โดยใช้บริการบริษัทประเมินราคาซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่สถาบันการเงินถือหุ้นร้อยละ 100 บริษัทดังกล่าวถือเป็นบุคคลภายนอกที่สถาบันการเงินสามารถเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากลูกหนี้ได้หรือไม่

    43.4 บริษัทประเมินราคาซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของสถาบันการเงินไม่ถือเป็นบุคคลภายนอกที่สถาบันการเงินสามารถเรียกเก็บค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใดๆ จากลูกหนี้ภายใต้มาตรการ soft loan นี้

    44. สถาบันการเงินสามารถกำหนดเงื่อนไขการผ่อนชำระเงินกู้ soft loan ในรูปแบบของสถาบันการเงินเองได้หรือไม่ (ผ่อนชำระดอกเบี้ยทุกเดือนและชำระคืนเงินต้นเมื่อครบกำหนด / ผ่อนเป็นค่างวดเท่ากันทุกเดือน)​

    ​การกำหนดเงื่อนไขการผ่อนชำระเงินกู้ soft loan ขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินและลูกหนี้จะตกลงกัน

    ทั้งนี้ ขอให้คำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้แต่ละรายด้วย

    ​45. การคิดอัตราดอกเบี้ย soft loan ในอัตราไม่เกินร้อยละ 2 ต่อปี สำหรับระยะเวลา 2 ปีแรก นับจากวันที่ลูกหนี้ทำสัญญาเงินกู้หรือวันที่ลูกหนี้เบิกใช้เงินกู้ครั้งแรก

    ​ให้นับจากวันที่สัญญาเงินกู้มีผลบังคับใช้

    ​46. ในระหว่าง 2 ปีในช่วงเวลาการรับ soft loan หากสถาบันการเงินมีการกำหนดเงื่อนไขสัญญาให้ลูกหนี้จ่ายชำระต้นและดอกเบี้ยในระหว่างนี้ แต่ปรากฏว่าลูกหนี้จ่ายชำระหนี้ไม่ได้จนเป็นหนี้ค้างชำระ ซึ่งสถาบันการเงินไม่สามารถคิดเบี้ยปรับผิดนัดได้ตามประกาศ ธปท. กำหนด อย่างไรก็ดี สถาบันการเงินสามารถเรียกเก็บค่าติดตามทวงถามหนี้ที่เป็นต้นทุนการดำเนินการที่เพิ่มขึ้นจากการผิดนัดชำระหนี้จากลูกหนี้ได้หรือไม่

    ​สถาบันการเงินสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการติดตามทวงถามหนี้ ตามจำนวนที่จ่ายไปจริงและสมควรแก่กรณีตามหลักเกณฑ์ของ ธปท. และ พ.ร.บ. การทวงถามหนี้

    03 กระบวนการยื่นคำขอรับเงิน / เบิกจ่าย

    47. กำหนดระยะเวลาอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน​

    ​สถาบันการเงินแต่ละแห่งมีกระบวนการพิจารณาสินเชื่อที่แตกต่างกัน โดยขึ้นกับขนาดของลูกหนี้ด้วย จึงไม่กำหนดระยะเวลาอนุมัติสินเชื่อเป็นมาตรฐาน เมื่อลูกหนี้ยื่นคำขอสินเชื่อไปยังสถาบันการเงิน สถาบันการเงินต้องเร่งพิจารณาอนุมัติสินเชื่อภายในระยะเวลากำหนด ตามกรอบเวลา SLA ของแต่ละสถาบันการเงิน ซึ่งจะต้องรวดเร็วที่สุดและไม่เกิน 10 วัน เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้

    48. สถาบันการเงินสามารถยื่นขอ soft loan เมื่อสถาบันการเงินอนุมัติสินเชื่อให้แก่ลูกหนี้ หรือหลังลูกหนี้เบิกใช้วงเงิน​

    ​สามารถทำได้ทั้ง 2 กรณี ตามหลักเกณฑ์ของสถาบันการเงิน

    49. ในการยื่นขอใช้สิทธิ สถาบันการเงินจะต้องแจ้งใช้สิทธิเมื่อสถาบันการเงินอนุมัติวงเงินเรียบร้อยแล้ว หรือต้องแจ้งเมื่อมีการดำเนินการจัดทำนิติกรรมสัญญาเสร็จเรียบร้อยแล้ว​

    ​สถาบันการเงินสามารถยื่นขอกู้ยืม soft loan ตั้งแต่อนุมัติสินเชื่อให้ลูกค้า หรือลูกค้าเบิกใช้วงเงินแล้วแต่เกณฑ์ของแต่ละสถาบันการเงินจะกำหนด

    ​50. สถาบันการเงินสามารถเบิกกู้จาก ธปท. ได้หลายครั้งหรือไม่ สำหรับลูกค้า 1 ราย

    ​ให้สถาบันการเงินยื่นขอเบิกใช้เงินกู้ตามมาตรการ soft loan สำหรับลูกหนี้ 1 รายได้เพียงครั้งเดียวสถาบันการเงินสามารถขอเบิก soft loan ตามวงเงินที่อนุมัติให้แก่ลูกหนี้แต่ไม่เกิน 20% ของยอดหนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 และลูกหนี้สามารถทยอยเบิกใช้วงเงินสถาบันการเงินได้ตามความเหมาะสม แต่ดอกเบี้ยที่ทางการจะชดเชยในระยะ 6 เดือนแรกจะคำนวณจากยอดสินเชื่อที่ลูกหนี้เบิกใช้จริง

    51. กำหนดเวลาขอกู้ยืมเงินจาก ธปท. เงื่อนไขการเบิกกู้ และระยะเวลาการรับเงินโอน​

    ​ระยะเวลาขอกู้ยืมเงิน soft loan ภายในระยะเวลา 6 เดือน นับจากวันที่ พ.ร.ก. มีผลบังคับใช้ หรือเต็มวงเงิน soft loan 500,000 ล้านบาท แต่ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องให้เงินช่วยเหลือต่อไปและยังมีวงเงินเหลืออยู่ ธปท. จะขยายระยะเวลาดังกล่าวออกไปอีกได้คราวละไม่เกิน 6 เดือนก็ได้ การยื่นกู้แต่ละครั้ง ในช่วงแรกกำหนดสัปดาห์ละครั้ง ทุกวันจันทร์ ไม่เกิน 11.00 น. หรือวันทำการวันแรกของสัปดาห์ และจะได้รับเงินจาก ธปท. ภายใน 3 วันทำการผ่านระบบ BAHTNET ไม่เกิน 11.00 น. (อาจกำหนดวันให้สถาบันการเงินยื่นกู้เพิ่มเติม) เช่น ครั้งแรกกำหนดยื่นวันจันทร์ที่ 27 เมษายน 2563 เวลา 11.00 น. ธปท. จะโอนเงินให้สถาบันการเงินในวันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน 2563 (T+3) เวลา 11.00 น.

    52. เนื่องจากสินเชื่อ soft loan ธปท. ไม่ได้กำหนดวงเงินสำหรับสถาบันการเงินแต่ละแห่ง ทำให้อาจมีปัญหาไม่สามารถยืนยันกับลูกหนี้ได้ว่าได้รับสินเชื่อตามมาตรการ ​

    ​หากวงเงิน soft loan ใกล้เต็มวงเงิน ธปท. จะแจ้งให้สถาบันการเงินทราบล่วงหน้า

    53. ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาตรการ soft loan การทำหนังสือมอบอำนาจ ลายเซ็น ผู้มีอำนาจ ในการทำธุรกรรมตามมาตรการดังกล่าว สถาบันการเงินสามารถใช้หนังสือมอบอำนาจช่วงประกอบทำหนังสือมอบอำนาจลายเซ็นผู้มีอำนาจแทนสถาบันการเงินในรูปแบบเดิมได้หรือไม่​

    ​สถาบันการเงินจะต้องจัดทำหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวที่ครอบคลุมเนื้อหาการทำธุรกรรมภายใต้ พ.ร.ก. ตามแบบฟอร์มที่ ธปท. กำหนดในประกาศ ธปท. ที่ สกส. 1.2/2563 ข้อ 4.3

    54. สถาบันการเงินขอทราบชุดฐานข้อมูล DMS ที่ ธปท. จะใช้ตรวจสอบคุณสมบัติของลูกค้าที่จะยื่นเข้ามาตรการ soft loan​

    ​1. ชุดข้อมูล Loan Arrangement (DS_LAR) ข้อมูลเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้แต่ละรายที่มีวงเงินให้สินเชื่อหรือยอดคงค้างตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป

    2. ชุดข้อมูล SMEs Data (DS_SMD) ข้อมูลเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้แต่ละรายที่มีวงเงินสินเชื่อและยอดคงค้างต่ำกว่า 20 ล้านบาท / ข้อมูลภาระผูกพันของลูกค้าแต่ละรายที่มียอดคงค้างต่ำกว่า 20 ล้านบาท

    3. ชุดข้อมูล SMEs Profile (DS_SMP) ข้อมูลลูกค้าหรือลูกหนี้ที่ประกอบธุรกิจและมีสถานประกอบการ (โรงงาน) ตั้งอยู่ในประเทศไทย

    4. ชุดข้อมูล Involved Party (DS_IPI) ข้อมูลเกี่ยวกับลูกหนี้ ซึ่งต้องรายงานข้อมูลธุรกรรมรายสัญญาในชุดข้อมูลอื่นโดยให้รายงานข้อมูลของลูกค้าเฉพาะรายใหม่ รวมถึงข้อมูลของผู้เกี่ยวข้อง หรือมีความสัมพันธ์กับลูกหนี้ หรือลูกค้าด้วย
     

    55. กรณีสถาบันการเงินต้องเร่งพิจารณาอนุมัติสินเชื่อภายในระยะเวลากำหนด ตามกรอบเวลา SLA ของแต่ละสถาบันการเงิน และไม่เกิน 10 วัน เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ ขอสอบถามว่า 10 วันดังกล่าว เริ่มนับตั้งแต่วันที่ลูกหนี้ยื่นคำขอสินเชื่อจนถึงวันที่สถาบันการเงินได้รับอนุมัติ soft loan จาก ธปท. หรือวันที่ลูกหนี้ได้รับเงิน​

    ​สถาบันการเงินต้องเร่งพิจารณาอนุมัติสินเชื่อไม่เกิน 10 วัน นับแต่วันที่ลูกหนี้เริ่มยื่นคำขอสินเชื่อจนถึงวันที่สถาบันการเงินพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ

    56. สถาบันการเงินที่เข้าร่วมมาตรการ soft loan ธปท. จะมีการทำสัญญาค้ำประกันสำหรับลูกหนี้รายตัวที่ขอกู้ soft loan หรือไม่

    ​ธปท. ไม่ได้ค้ำประกันลูกหนี้ที่ขอกู้ soft loan แต่จะมีการจ่ายชดเชยให้ตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศ ธปท. กำหนด

    57. สถาบันการเงินจะได้รับเงินจาก ธปท. ตามจำนวนเงินทั้งหมดที่ยื่นขอสินเชื่อในรอบนั้นๆ หรือได้รับตามจำนวนการเบิกใช้ของลูกหนี้ และสถาบันการเงินสามารถจัดสรรเงินจำนวนดังกล่าวตาม structure วงเงินของลูกหนี้ได้หรือไม่​

    ​สถาบันการเงินจะได้รับเงินตามจำนวนทั้งหมดที่ยื่นขอสินเชื่อตามมาตรการ soft loan ในรอบนั้น ๆ โดยสถาบันการเงินสามารถจัดสรรวงเงินได้เองตาม structure วงเงินของลูกหนี้แต่ละราย สำหรับเงินที่ลูกหนี้ยังไม่ได้เบิกใช้ สถาบันการเงินสามารถบริหารจัดการเองได้

    58. หนังสือมอบอำนาจ (A1) สถาบันการเงินสามารถใช้ e-signature ได้หรือไม่​

    ​ไม่สามารถใช้ e-signature ได้ เนื่องจากหนังสือมอบอำนาจ (A1) สถาบันการเงินต้องส่งเอกสารตัวจริงให้ ธปท.

    59. สถาบันการเงินยื่นขอกู้ soft loan ได้ภายในกำหนดระยะเวลาเท่าไร​

    ​สถาบันการเงินที่ประสงค์จะขอกู้ยืมเงิน soft loan จาก ธปท. ต้องยื่นคำขอกู้ยืมเงินต่อ ธปท. ภายในกำหนดระยะเวลา 6 เดือนนับแต่วันที่ พ.ร.ก. ใช้บังคับ (19 เมษายน -18 ตุลาคม 2563) หรือตามกำหนดระยะเวลาที่ ธปท. ขยายเพิ่มเติม ทั้งนี้ ธปท. กำหนดให้สถาบันการเงินยื่นกู้ ครั้งแรกในวันจันทร์ที่ 27 เมษายน 2563 ภายในเวลา 11.00 น.

    60. ลูกหนี้เปลี่ยนแปลงประเภทนิติบุคคลหรือเปลี่ยนแปลงชื่อภายหลังวันที่ 31ธันวาคม 2562 ส่งผลให้ customer ID ของลูกหนี้รายดังกล่าวเปลี่ยนไป ลูกหนี้รายดังกล่าวสามารถขอกู้ soft loan ได้หรือไม่

    ​กรณีที่ลูกหนี้มีคุณสมบัติตามมาตรการ soft loan แต่มีการเปลี่ยนแปลง customer ID ลูกหนี้รายดังกล่าวสามารถยื่นขอกู้ soft loan ได้ โดยให้สถาบันการเงินส่งเอกสารหลักฐานการเปลี่ยนแปลงเพื่อยืนยันว่าลูกหนี้รายดังกล่าวเป็นรายเดิมที่มีข้อมูลใน DMS ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ผ่านเจ้าหน้าที่สัมพันธ์ (RM) ที่ดูแลสถาบันการเงินดังกล่าว

    04 การคืนเงินต้นและดอกเบี้ยของ soft loan ต่อ ธปท.

    61. การดำเนินการของสถาบันการเงิน กรณีลูกหนี้เปลี่ยนใจไม่ใช้สินเชื่อกับสถาบันการเงิน ลูกหนี้ชำระหนี้คืนในระหว่าง 2 ปีโดยยังไม่ปิดบัญชี หรือลูกหนี้ชำระคืนปิดวงเงิน ​

    กรณีลูกหนี้ชำระหนี้บางส่วนหรือทั้งหมด แต่ยังไม่ปิดบัญชี ในระหว่าง 2 ปี สถาบันการเงินไม่ต้องนำเงินดังกล่าวส่งคืน ธปท. สำหรับกรณีลูกหนี้ไม่ประสงค์ใช้วงเงินหรือชำระปิดบัญชี ให้สถาบันการเงินชำระหนี้ soft loan คืน ธปท. ภายใน 30 วันทำการนับแต่วันที่ได้รับชำระหนี้คืนทั้งหมดจากผู้ประกอบวิสาหกิจ หรือวันที่ได้รับแจ้งความประสงค์จากผู้ประกอบวิสาหกิจแล้วแต่กรณี ตามประกาศ ธปท. ที่ สกส. 1.2/2563 ข้อ 4.8 (1)

    62. การดำเนินการของสถาบันการเงิน กรณีลูกหนี้อาจไม่สามารถชำระจนครบและปิดวงเงินได้ทันทีเมื่อครบ 2 ปี​

    ​การกำหนดระยะเวลาเงินกู้ ขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินกับลูกหนี้ เพียงแต่จะรับการช่วยเหลือและชดเชยตามมาตรการ soft loan ในระยะเวลา 2 ปี หลังจากนั้นเป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงิน

    63. สถาบันการเงินจะต้องจ่ายชำระดอกเบี้ยให้ ธปท. เช่น จ่ายทุกเดือน หรือทุก 3 เดือน หรือทุก 6 เดือน​

    ​สถาบันการเงินจะต้องจ่ายชำระดอกเบี้ยให้ ธปท. เมื่อครบกำหนดตั๋วสัญญาใช้เงินระยะเวลา 2 ปี โดยฐานในการคำนวณ 1 ปี เท่ากับ 365 วัน

    64. กรณีที่ลูกหนี้ที่กู้ยืม soft loan มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไข สถาบันการเงินจะต้องคืนเงินกู้ soft loan ให้กับ ธปท. ภายในกี่วันหรือสามารถนำไป settlement ได้เมื่อครบ 2 ปี และยอดเงินกู้ที่ลูกหนี้เบิกไปจะไม่ได้รับการชดเชยจากรัฐ ใช่หรือไม่

    ​กรณีภายหลังจากที่สถาบันการเงินรับเงินกู้ยืมจาก ธปท. และพบว่าสถาบันการเงินนำเงินดังกล่าวไปให้กู้ยืมแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.ก. หรือประกาศ ธปท. ให้สถาบันการเงินคืนเงินกู้ยืมตามจำนวนที่มีการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ คืนให้แก่ ธปท. ตามระยะเวลาที่ ธปท. จะประกาศกำหนดและรัฐไม่รับชดเชยความเสียหายให้
    ทั้งนี้ ให้สถาบันการเงินดูแลลูกหนี้ต่อไปโดยต้องไม่กำหนดในข้อสัญญาระหว่างสถาบันการเงินกับลูกหนี้ในการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 2 ปีแรกให้เกินกว่าร้อยละ 2 ต่อปี หรือกำหนดให้ลูกหนี้ชำระเบี้ยปรับหรือค่าความเสียหายประการอื่นแก่สถาบันการเงินตามประกาศ ธปท. ที่ สกส1.2/2563 ข้อ 4.8 (2) อย่างไรก็ดี สถาบันการเงินสามารถเรียกเก็บดอกเบี้ยจากผู้ประกอบวิสาหกิจในช่วงระยะเวลา 6 เดือนแรกนับตั้งแต่วันที่ผู้ประกอบวิสาหกิจได้รับ soft loan งวดแรกในอัตราไม่เกินร้อยละ 2

    65. หากลูกหนี้ชำระคืน soft loan กับสถาบันการเงินก่อนถึงกำหนด 2 ปี สถาบันการเงินต้องแก้ไขตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกให้กับ ธปท. หรือไม่ อย่างไร​

    ​กรณีที่ลูกหนี้ชำระคืนหนี้ปิดวงเงิน soft loan แล้ว ให้สถาบันการเงินชำระหนี้ soft loan คืน ธปท. ตามจำนวนที่ได้รับชำระหนี้จากลูกหนี้ดังกล่าว ภายใน 30 วันทำการ โดย ธปท. จะใช้วิธีการสลักหลังลดยอดหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงินและคำนวณดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 0.01 นับตั้งแต่วันที่สถาบันการเงินได้รับเงิน soft loan จาก ธปท. จนถึงวันที่สถาบันการเงินคืนเงินดังกล่าวให้ ธปท. โดยไม่ต้องมีการแก้ไขหรือออกตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับใหม่

    05 การจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยและเงินชดเชย

    66. คุณสมบัติของลูกหนี้ที่ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (TDR) ที่จะได้รับความชดเชย​

    ​ลูกหนี้ที่รับการชดเชยต้องเป็นลูกหนี้ soft loan ที่กลายไปเป็น stage3 หรือ ลูกหนี้ stage3 ที่ได้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ แล้วปรับมาเป็น stage2 ณ วันสิ้นสุดสัญญา soft loan 2 ปี

    67. วิธีการจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยและเงินชดเชย

    ​67.1 รัฐบาลจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยให้กับสถาบันการเงินใช่หรือไม่

    ​67.1 ลูกหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือตามมาตรการ soft loan กำหนดอัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากลูกหนี้ในอัตราร้อยละ 2 โดยกระทรวงการคลังจะเป็นผู้รับภาระดอกเบี้ยจ่ายแทนลูกค้าในระยะ 6 เดือนแรก นับจากวันที่ลูกหนี้เบิกใช้วงเงินครั้งแรก

    ​67.2 การคำนวณดอกเบี้ยที่ภาครัฐออกให้ลูกหนี้ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนนับตั้งแต่ที่ลูกหนี้เบิกเงินกู้ soft loan งวดแรก จะนับแบบวันชนวันหรือไม่

    ​67.2 การคำนวณเงินชดเชยดอกเบี้ยให้คิดตั้งแต่วันที่ลูกหนี้เบิกเงินกู้ครั้งแรกจนถึงวันที่
    ครบกำหนด 6 เดือน โดยใช้หลักนับต้นไม่นับท้าย เช่น สถาบันการเงินได้รับ soft loan จาก ธปท. ไปเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2563 ลูกหนี้เบิกใช้เงินกู้ครั้งแรกจากสถาบันการเงินในวันที่ 5 พฤษภาคม 2563
     - หากลูกหนี้เบิกใช้เงินกู้ครั้งเดียวในวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 ดอกเบี้ยเงินกู้จะได้รับการชดเชยนับตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2563 ถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 เป็นจำนวน 184 วัน (27+30+31+31+30+31+4)
     - หากลูกหนี้ทยอยเบิกใช้เงินกู้ เช่น วันที่ 5 พฤษภาคม 2563เบิกเงินกู้ครั้งแรก ต่อมาวันที่ 5 มิถุนายน 2563 เบิกเงินกู้ส่วนที่เหลือ ดอกเบี้ยเงินกู้ครั้งแรกจะได้รับการชดเชย 184 วัน แต่ดอกเบี้ยเงินกู้ส่วนที่เหลือจะได้รับการชดเชยนับแต่วันเบิกใช้จนถึงวันที่ครบกำหนด 6 เดือน หรือ 153 วัน (26+31+31+30+31+4)

    โดยสถาบันการเงินต้องไม่เรียกเก็บดอกเบี้ยจากลูกหนี้ในช่วง 6 เดือนแรก และให้บันทึกบัญชีเป็นดอกเบี้ยค้างรับไว้เพื่อรอการชดเชยจากกระทรวงการคลัง เมื่อครบกำหนด 2 ปี 6 เดือน

    ​67.3 การคำนวณเงินชดเชยเมื่อครบ 2 ปี 6 เดือนภายหลัง พ.ร.ก. มีผลบังคับใช้จะนับวันอย่างไร ระหว่าง วันชนวัน หรือ วันสิ้นเดือนก่อนครบ 2 ปี 6 เดือน

    ​67.3 วันที่ครบกำหนด 2 ปี 6 เดือน ที่ ธปท.จะเริ่มคำนวณเงินชดเชยดอกเบี้ยและเงินชดเชยคือ วันที่ 18 ตุลาคม 2565

    68. ในช่วง 6 เดือนแรกที่รัฐบาลจะรับภาระดอกเบี้ยแทนลูกหนี้ ทางสถาบันการเงินจะต้องนำส่งรายงานรายชื่อลูกค้าที่ได้รับ soft loan ให้ทางหน่วยงานไหนที่เป็น center เพื่อที่จะได้จัด process เรื่องของการจ่ายชำระดอกเบี้ยแทนลูกหนี้ใน 6 เดือน​

    ​เมื่อครบ 2 ปี 6 เดือนนับแต่วันที่ พ.ร.ก. ใช้บังคับ ธปท. จะคำนวณเงินชดเชยดอกเบี้ยในช่วงระยะเวลา 6 เดือนแรกนับแต่วันที่ผู้ประกอบวิสาหกิจได้รับสินเชื่อเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการกำกับการจ่ายเงินชดเชยตาม พ.ร.ก. ทั้งนี้ ธปท. อยู่ระหว่างออกหลักเกณฑ์และรูปแบบการรายงาน

    69. เกณฑ์การคำนวณเงินชดเชย

    69.1 หลักการการคำนวณความเสียหายที่รัฐจะชดเชย โดยไม่อ้างอิง TFRS 9 ซึ่งเป็นมาตรฐานการบัญชีที่ใช้ในปัจจุบัน แต่จะอ้างอิงเกณฑ์จัดชั้นและกันเงินสำรองเดิม (ก่อน TFRS 9 บังคับใช้) รวมถึงสำรองสำหรับลูกหนี้ TDR stage 2 จะต้องคำนวณอย่างไร ​

    ​

    69.1 การที่ ธปท. กำหนดให้คำนวณความเสียหายโดยใช้เกณฑ์การกันเงินสำรองตามที่ ธปท. กำหนด (ก่อน TFRS 9) เพื่อความเป็นมาตรฐาน เนื่องจาก model TFRS 9 ของแต่ละสถาบันการเงินยังแตกต่างกัน และ ธปท. ยังไม่ได้ verified model TFRS 9 สำหรับเงินสำรองลูกหนี้ TDR stage 2 ให้ใช้อัตราร้อยละ 36 ของยอดหนี้หลังหักมูลค่าหลักประกัน

    69.2 การติดตามสถานะลูกหนี้อีก 2 ปี หลังจบโครงการ เพื่อพิจารณาจ่ายชดเชยส่วนที่เหลือ หมายความว่าอย่างไร และจะกระทบเงินกองทุนและสำรองของสถาบันการเงินหรือไม่​

    ​69.2 ธปท. จะจ่ายเงินชดเชยส่วนหนึ่งให้สถาบันการเงินเมื่อครบระยะเวลาตามโครงการ (2 ปี 6 เดือน) และส่วนที่เหลือในอีก 2 ปี โดยในระหว่างนั้น สถาบันการเงินสามารถตั้งรัฐบาลเป็นลูกหนี้ได้ โดยเจตนารมณ์คือเงินชดเชยส่วนที่เหลือต้องไม่กระทบเงินกองทุนและสำรองของสถาบันการเงิน

    70. กรณีที่สถาบันการเงินได้เงินชดเชยจากกระทรวงการคลังแล้ว ยังมีสิทธิไล่เบี้ยหลักประกันจากลูกหนี้อีกหรือไม่​

    ​ สถาบันการเงินยังคงมีสิทธิไล่เบี้ยกับลูกหนี้ตามสัญญากู้ยืม

    71. หากภายหลังสถาบันการเงินสามารถเรียกเงินจากผู้ค้ำประกันได้ ต้องคืนเงินให้กับรัฐบาลหรือไม่​

    ​ธปท. จะคำนวณเงินชดเชยที่สถาบันการเงินพึงรับโดยแบ่งการคำนวณเป็น 2 ครั้ง ดังนี้

    1. เมื่อครบกำหนด 2 ปี 6 เดือน นับแต่วันที่ พ.ร.ก. มีผลใช้บังคับ ธปท. จะคำนวณยอดเงินชดเชยครั้งแรก ในอัตราร้อยละ 80 ของเงินที่คำนวณได้ตามวิธีการคำนวณ

    2. เมื่อครบกำหนด 4 ปี 6 เดือน นับแต่วันที่ พ.ร.ก. มีผลใช้บังคับใช้

    ทั้งนี้ หากเงินชดเชยที่คำนวณในรอบที่ 2 นี้ต่ำกว่ารอบที่ 1 ให้สถาบันการเงินคืนเงินชดเชยตามส่วนต่างที่คำนวณได้ดังกล่าวตามหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินชดเชยที่คณะกรรมการกำกับ การจ่ายเงินชดเชยกำหนด ตามประกาศ ธปท. ที่ สกส. 1.2/2563 ข้อ 4.11 (2)
    แต่หากภายหลังครบกำหนดคำนวณเงินชดเชยในรอบที่ 2 สถาบันการเงินสามารถขายหลักประกัน soft loan ได้คุ้มกับมูลหนี้ที่เป็น NPL สถาบันการเงินไม่ต้องคืนเงินชดเชยให้ ธปท.

    72. สถาบันการเงินสามารถนำลูกหนี้ที่สถาบันการเงินช่วยเหลือตามมาตรการที่ออกไปก่อนหน้านี้ เช่น กรณีลดดอกเบี้ยให้ลูกหนี้เหลือ 0.5% เป็นต้น มาเข้ารับเงินชดเชยจากมาตรการนี้ได้อีกหรือไม่ ​

    ​ ลูกหนี้ยังมีสิทธิได้รับความช่วยเหลือถ้าคุณสมบัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

    73. การขอ soft loan ของลูกหนี้ SME ในโครงการ PGS (Portfolio Guarantee Scheme) ที่มี บสย. ค้ำประกัน

    73.1 การรับความเสี่ยงระหว่าง ธปท. และ บสย. จะเป็นอย่างไร

    73.2 การนำหลักประกันมาเพื่อคำนวณเงินชดเชยจะเป็นรูปแบบใด​

    ​ให้สถาบันการเงินหักภาระหนี้ที่มี บสย. ค้ำประกันออกจากการคำนวณยอดหนี้รวมและส่วนที่เป็นหลักประกันในส่วนของ บสย.

    74. ภายหลังที่ ธปท. จ่ายเงินชดเชยมาแล้ว ธปท. จะดำเนินคดีกับลูกหนี้หรือไม่ หรือสถาบันการเงินต้องดำเนินการเอง​

    สถาบันการเงินต้องดำเนินการตามกฎหมายกับลูกหนี้เอง เนื่องจากสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายยังอยู่ที่สถาบันการเงิน

    75. หากลูกค้าผิดนัดชำระหนี้ สถาบันการเงินจะต้องดำเนินการตามกฎหมายกับลูกค้าก่อนหรือไม่​

    ​ให้สถาบันการเงินพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายตามหลักเกณฑ์ของสถาบันการเงิน โดย ธปท. จะพิจารณาชดเชยตามอัตราที่ประกาศกำหนด

    76. ในการคำนวณเงินชดเชย จำนวนเงินที่สถาบันการเงินสำรองต้องใช้มูลค่าหลักประกัน ณ วันใด ​

    ​สถาบันการเงินต้องใช้มูลค่าหลักประกันเพื่อคำนวณเงินชดเชย ดังนี้

    1. การคำนวณสำรองตั้งต้นให้ใช้มูลค่าหลักประกัน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562

    2. การคำนวณสำรอง ณ วันครบกำหนดสัญญา ให้ใช้มูลค่าหลักประกันเดือนสุดท้ายของวันครบกำหนด

    ทั้งนี้ การคำนวณเงินสำรองให้เป็นไปตามประกาศ ธปท. ที่ สกส 1.4/2563 เรื่อง อัตราการจ่ายเงินชดเชยความเสียหายแก่สถาบันการเงินตามมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

    77. กรณีที่ลูกหนี้สินเชื่อ soft loan มียอดหนี้เพิ่มขึ้นจาก L/G เคลม นำมาคำนวณสำรองอย่างไร​

    การคำนวณสำรองใช้ยอดหนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 เปรียบเทียบกับวันที่คำนวณสำรองเดือนสุดท้ายก่อนวันครบกำหนดปีที่ 2 และปีที่ 4 นับแต่วันที่ผู้ประกอบวิสาหกิจแต่ละรายได้รับสินเชื่อเพิ่มเติมวันแรก

    ทั้งนี้ ไม่รวมสินเชื่อที่มีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมค้ำประกัน และบัญชีสินเชื่อที่อนุมัติหลัง ธ.ค. 2562

    78. ลูกหนี้ soft loan ที่ผิดนัดชำระหนี้ และ ธปท. จ่ายชดเชยมาแล้วบางส่วน หากธนาคารจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับลูกหนี้ ธนาคารจะใช้มูลหนี้ใดในการฟ้องร้อง (มูลหนี้ทั้งหมด หรือเฉพาะส่วนที่ไม่ได้รับการชดเชย)​

    ​ใช้มูลหนี้ทั้งหมด รวมส่วนที่ได้รับการชดเชยด้วย

    ​79. การคำนวณเงินชดเชยที่ ธปท. กำหนดให้ในกรณีที่วงเงินสินเชื่อของผู้ประกอบวิสาหกิจไม่เกิน 50 ล้านบาท สถาบันการเงินจะได้รับชดเชยร้อยละ 70 แต่หากมีวงเงินเกิน 50 ล้านบาท สถาบันการเงินจะได้รับชดเชยร้อยละ 60 วงเงินดังกล่าวหมายถึงวงเงิน soft loan ใช่หรือไม่ และการชดเชยจะนับเป็นขั้นบันไดหรือ lump sum

    ​การกำหนดอัตราคำนวณเงินชดเชยพิจารณาจากวงเงินสินเชื่อของกลุ่มธุรกิจผู้ประกอบวิสาหกิจ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 และการคำนวณเงินชดเชยจะคำนวณแบบ lump sum เช่น กลุ่มธุรกิจของลูกหนี้มีวงเงินสินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 จำนวน 60 ล้านบาท สถาบันการเงินจะได้รับชดเชยร้อยละ 60 ตามวิธีการคำนวณที่ ธปท.กำหนด

    ​80. กรณีที่วงเงินสินเชื่อของกลุ่มธุรกิจผู้ประกอบวิสาหกิจไม่เกิน 50 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 สถาบันการเงินจะได้รับชดเชยร้อยละ 70 ของยอดหนี้ soft loan ใช่หรือไม่

    ​ไม่ใช่ สถาบันการเงินจะได้รับเงินชดเชยตามวิธีการคำนวณที่ ธปท.กำหนด ในเอกสารแนบ 5 ของประกาศ ธปท.ที่ สกส1. 2/2563 เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
    การจ่ายเงินชดเชย = สำรองส่วนเพิ่ม × ยอดหนี้ใหม่/ยอดหนี้รวม × อัตราการจ่ายเงินชดเชย
    ตัวอย่างการคำนวณ
    ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ลูกหนี้จัดชั้นปกติมีวงเงินและยอดหนี้คงค้างกับสถาบันการเงิน 10 ล้านบาท มีที่ดินเป็นหลักประกัน 10 ล้านบาท ต่อมาลูกหนี้ได้รับเงินกู้ soft loan
    2 ล้านบาท โดยไม่เรียกหลักประกันเพิ่ม ต่อมาลูกหนี้กลายเป็น NPL (stage 3)
    ณ วันเริ่มสัญญา 31 ธันวาคม 2562 (T) :
    สำรองพึงกัน =[10 – มูลค่าหลักประกัน (10 × 90%)] × อัตรากันสำรอง (1%) = 0.01 ล้านบาท
    ณ วันครบกำหนดระยะเวลา 2 ปีของสัญญา (T+2) :
    สำรองพึงกัน =[12 – มูลค่าหลักประกัน (10 × 62%)] × อัตรากันสำรอง (100%) = 5.80 ล้านบาท
    ณ วันครบกำหนดระยะเวลา 4 ปีของสัญญา (T+4) :
    สำรองพึงกัน =[12 – มูลค่าหลักประกัน (10 × 62%)] × อัตรากันสำรอง (100%) = 5.80 ล้านบาท
    วิธีการคำนวณ
    สำรองส่วนเพิ่ม = 5.80 – 0.01 = 5.79 ล้านบาท
    คำนวณตามสูตร = 5.79 x 2/12 x 70% = 0.68 ล้านบาท
    จ่ายเงินชดเชยรอบแรก 80% ของเงินชดเชย (T+2)= 0.68 x 80% = 0.54 ล้านบาท
    จ่ายเงินชดเชยรอบที่ 2 ส่วนที่เหลือ (T+4) = 0.68 – 0.54 = 0.14 ล้านบาท

    ​81. กรณีที่สถาบันการเงินพิจารณาให้วงเงิน soft loan กับลูกหนี้โดยแบ่งเป็นหลายสัญญา การคำนวณดอกเบี้ยที่ภาครัฐออกให้ลูกหนี้ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนแรกนับตั้งแต่ที่ลูกหนี้เบิกเงินกู้ soft loan งวดแรก พิจารณาเริ่มนับตั้งแต่เบิกเงินกู้ครั้งแรกของลูกหนี้รายนี้ หรือพิจารณาเริ่มนับแยกตามแต่ละสัญญา

    ​การคำนวณดอกเบี้ยที่ภาครัฐออกให้ลูกหนี้ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนแรก พิจารณาเริ่มนับตั้งแต่ลูกหนี้เบิกเงินกู้ครั้งแรกในสัญญาแรก

    06 การจัดชั้นหนี้และการกันเงินสำรอง

    82. การคำนวณสำรองตลอดอายุสัญญาปกติใช้เกณฑ์ TFRS 9 แต่ soft loan ของ ธปท. ให้ใช้การคำนวณสำรองแบบเดิม (1 % / 2 % / 100 % ) ใช่หรือไม่​

    ​สถาบันการเงินต้องกันสำรองทั้งวงเงินเดิมและวงเงิน soft loan ตามเกณฑ์ TFRS 9 แต่การคำนวณเงินชดเชย soft loan ให้ใช้การคำนวณเงินสำรองตามเกณฑ์ที่ ธปท. กำหนด

    83. กรณีที่วงเงินเดิมลูกค้าเป็น TDR ช่วงดูใจ และมีการพิจารณาให้ top up soft loan BOT ส่วนที่ top-up จะคิด stage อย่างไร แยกคิดกับวงเงินเดิมใช่หรือไม่ (พิจารณาเป็นรายบัญชี) ​

    ​สถาบันการเงินสามารถจัดชั้นสินเชื่อ soft loan เป็นรายบัญชีได้ ตามหนังสือที่ ธปท.ฝนส.(23)ว. 276/2563 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 เรื่อง แนวทางในการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย

    84. สถาบันการเงินกำหนดระยะเวลาสินเชื่อ soft loan 2 ปี หากหลังจากนั้นขยายระยะเวลาด้วยเงินทุนสถาบันการเงินเอง จะถือเป็น reschedule หรือไม่​

    ​ให้พิจารณาจัดชั้นลูกหนี้ตามประกาศ ธปท. ที่ สนส. 23/2561 เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดชั้นและการกันเงินสำรองของสถาบันการเงิน

    85. ดอกเบี้ยที่ภาครัฐออกให้ลูกหนี้ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนนับตั้งแต่ที่ลูกหนี้เบิกเงินกู้ soft loan งวดแรก สถาบันการเงินสามารถรับรู้รายได้โดยไม่ต้องกันเงินสำรองได้หรือไม่

    ​สถาบันการเงินสามารถรับรู้รายได้ดอกเบี้ยที่ภาครัฐออกให้ลูกหนี้ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนนับตั้งแต่ที่ลูกหนี้เบิกเงินกู้ soft loan งวดแรกโดยไม่ต้องกันเงินสำรอง โดยดอกเบี้ยดังกล่าวถือเสมือนได้รับการค้ำประกันจากกระทรวงการคลัง มี risk weight ร้อยละ 0 ซึ่งสถาบันการเงินสามารถนำมาหักออกจากราคาตามบัญชีของลูกหนี้ได้ร้อยละ 100 ก่อนการกันเงินสำรอง

    ​86. กรณีที่สถาบันการเงินปล่อยกู้ soft loan ให้ลูกหนี้ สถาบันการเงินสามารถนำเงินชดเชยที่คาดว่าจะได้รับจากภาครัฐมาหักเงินสำรองสำหรับลูกหนี้รายดังกล่าวได้หรือไม่และคำนวณ risk weight เพื่อดำรงเงินกองทุนอย่างไร

    • กรณีธนาคารพาณิชย์ ให้นำมูลค่าส่วนที่จะได้รับชดเชยจากรัฐบาลมาปรับลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ เพื่อใช้คำนวณค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected credit loss: ECL)ตามคำถาม – คำตอบ ข้อ 2.1 แนบท้ายหนังสือที่ ธปท.ฝนส.(23)ว. 405/2563 ลงวันที่ 7 เมษายน 2563 เรื่อง แนวปฏิบัติของธนาคารพาณิชย์เพื่อดำเนินการตามมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาหรือโควิด 19 (COVID-19)
    • กรณีสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ให้นำมูลค่าที่คาดว่าจะได้รับการชดเชยจากรัฐบาลมาหักออกจากมูลค่าตามบัญชีของลูกหนี้ก่อนการกันเงินสำรองตามหนังสือที่ ธปท.ฝกฉ.(72)ว. 406/2563 ลงวันที่ 7 เมษายน 2563 เรื่อง แนวปฏิบัติของสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพื่อดำเนินการตามมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาหรือโควิด 19 (COVID-19)


    ทั้งนี้ สถาบันการเงินสามารถคำนวณมูลค่าส่วนที่จะได้รับชดเชยจากรัฐบาลเพื่อนำมาปรับลดความเสี่ยงด้านเครดิตได้โดยเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่งจาก 2 วิธี ดังนี้
    วิธี่ที่ 1
    คำนวณโดยใช้สูตรการคำนวณแบบง่าย ดังนี้
    การจ่ายเงินชดเชย = ยอดหนี้ใหม่ × อัตราการจ่ายเงินชดเชย
    ตัวอย่างการคำนวณ หากลูกหนี้มีวงเงินกลุ่มธุรกิจ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 จำนวน 100 ล้านบาท มียอดหนี้คงค้าง 100 ล้านบาท ไม่มีหลักประกัน ต่อมาได้รับสินเชื่อ soft loan 20 ล้านบาท สถาบันการเงินจะต้องกันสำรองสำหรับลูกหนี้รายนี้โดยนำส่วนที่จะได้รับชดเชยร้อยละ 60 เท่ากับ 12 ล้านบาท มาหักออกจากราคาตามบัญชีของลูกหนี้ก่อนการกันเงินสำรองได้ทั้งจำนวน ดังนั้น ราคาตามบัญชีของลูกหนี้ภายหลังหักส่วนที่จะได้รับชดเชยก่อนการกันเงินสำรองเท่ากับ 8 ล้านบาท

    หรือ

    วิธีที่ 2
    คำนวณตามยอดที่คาดว่าจะได้รับการชดเชยจริง โดยใช้สูตรการคำนวณตามเอกสารแนบ 5 ของประกาศ ธปท.ที่ สกส1. 2/2563ดังนี้
    การจ่ายเงินชดเชย = สำรองส่วนเพิ่ม × (ยอดหนี้ใหม่/ยอดหนี้รวม) × อัตราการจ่ายเงินชดเชย
    สำหรับการคำนวณ risk weight ให้แบ่งยอดสุทธิของธุรกรรมออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนที่ได้รับชดเชยจากรัฐบาล คิดน้ำหนักความเสี่ยงร้อยละ 0 และส่วนที่ไม่ได้รับชดเชยให้คิดน้ำหนักความเสี่ยงตามประเภทลูกหนี้

    07 ประเด็นอื่นๆ

    87. หากลูกหนี้ได้รับอนุมัติวงเงิน soft loan ของธนาคารออมสินไปแล้ว แต่ประสงค์จะเปลี่ยนมาใช้ soft loan ตามมาตรการนี้แทน เพราะมีการช่วยเรื่องดอกเบี้ย 6 เดือน สามารถทำได้หรือไม่​

    ​ถือเป็นการให้สินเชื่อ refinance เนื่องจากเป็นการนำ soft loan ของ ธปท. ไปจ่ายชำระคืน soft loan ของธนาคารออมสิน ซึ่งไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของมาตรการครั้งนี้

    88. หากสถาบันการเงินให้กู้ soft loan ของธนาคารออมสินแล้ว สามารถปล่อยกู้ soft loan นี้ได้อีกหรือไม่ ​

    ​สถาบันการเงินสามารถให้กู้ได้ ทั้งนี้ ให้สถาบันการเงินพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามมาตรการนี้ โดยเฉพาะแก่ลูกหนี้ที่ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐในลักษณะคล้ายคลึงกันมาก่อน เพื่อเป็นการจัดสรรเงินกู้ยืมและกระจายความช่วยเหลือให้แก่ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ได้อย่างทั่วถึง

    89. สถาบันการเงินสามารถนำสินเชื่อส่วนที่เกินจากวงเงินตามมาตรการไปเข้าร่วมโครงการค้ำประกันของ บสย. หรือไม่​

    ​วงเงิน soft loan ที่รัฐชดเชยความเสียหายให้แล้ว ไม่ควรให้เข้าโครงการค้ำประกันกับ บสย. สำหรับสินเชื่อส่วนที่เกินจากวงเงินตามมาตรการหลักเกณฑ์ไม่ได้กำหนด แต่สถาบันการเงินควรพิจารณาตามความเสี่ยงและความจำเป็น ที่ต้องไม่กระทบต่อภาระของลูกค้าที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น

    90. ขอทราบลำดับการตัดชำระหนี้ระหว่าง soft loan ธปท. และสินเชื่อเดิมของลูกหนี้หรือ soft loan ตามมาตรการอื่น (หากลูกค้าชำระไม่ครบ)

    ​ลำดับการตัดชำระหนี้เป็นไปตาม schedule payment ของสถาบันการเงิน

    91. หากพบว่าลูกหนี้มีเงื่อนไขที่ไม่เป็นไปตามที่กำหนดแล้ว การคิด LCR/NSFR คิดอย่างไร​

    ​การคิด LCR/NSFR คำนวณตามวิธีปกติ ทั้งนี้ตามหนังสือ ที่ ธปท.ฝนส.(23)ว.405/2563 แนวปฏิบัติของธนาคารพาณิชย์เพื่อดำเนินการตามมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาหรือโควิด 19 (COVID-19) ผ่อนผันให้ ธพ. สามารถดำรงอัตราส่วน LCR และ NSFR ได้ต่ำกว่าร้อยละ 100 เป็นการชั่วคราวได้จนถึง 31 ธันวาคม 2564 โดยขอให้แจ้งมายัง ธปท. พร้อมจัดทำประมาณการและแผนการบริหารสภาพคล่องภายใน 15 วัน นับแต่วันที่อัตราดังกล่าวต่ำกว่าร้อยละ 100

    92. ตามหนังสือที่ ธปท.ฝต2.(63) ว. 471/2563 เรื่อง แนวปฏิบัติในการรับยกเว้นค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมจำนองหลักประกันอันเนื่องมาจากการให้สินเชื่อตามมาตรการในพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 ที่กำหนดให้สถาบันการเงินเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในการจำนองอสังหาริมทรัพย์และอาคารชุดและการจดทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ โดยสถาบันการเงินจะต้องระบุข้อตกลงดังกล่าวในสัญญากู้ยืม และ/หรือสัญญาจำนอง
    และ/หรือสัญญาหลักประกันทางธุรกิจให้ชัดเจน ขอสอบถามว่า

    92.1 สถาบันการเงินต้องจ่ายค่าธรรมเนียมดังกล่าวแทนลูกหนี้หรือไม่

    92.1  สถาบันการเงินได้รับยกเว้นค่าคำขอ ค่าธรรมเนียมจดจำนองที่ดิน และค่ามอบอำนาจ ตาม พ.ร.ก. อย่างไรก็ดี ขอให้สถาบันการเงินสอบถามสำนักงานที่ดินที่จะไปจดจำนองว่าทราบเรื่องการยกเว้นค่าธรรมเนียมตามหนังสือที่ มท ๐๕๑๕.๓/ว ๑๐๓๐๔ เรื่อง การจดทะเบียนจำนองอสังหาริมทรัพย์และอาคารชุด อันเนื่องมาจากการให้กู้ยืมเงินตามมาตรการแห่งพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ แล้วหรือไม่

    92.2 ค่าธรรมเนียมที่ได้รับยกเว้นตาม พ.ร.ก. รวมถึง ค่าคำขอ ค่ามอบอำนาจ ค่าธรรมเนียม อปท. ค่าพยาน หรือไม่

    92.2 พิจารณาตามแนวถามตอบข้อ 92.1

    92.3 การกำหนดข้อความดังกล่าวในสัญญากู้ยืมเงิน ธปท.ได้กำหนดเป็นข้อความมาตรฐานและกำหนดว่าต้องระบุไว้ในส่วนใดของสัญญาหรือไม่ นอกจากนี้ สถาบันการเงินต้องระบุข้อความดังกล่าวในสัญญาจำนองหรือสัญญาหลักประกันธุรกิจด้วยหรือไม่

    92.3 สถาบันการเงินจะต้องระบุข้อความดังกล่าวในสัญญากู้ยืมเงิน และ/หรือสัญญาจำนอง และ/หรือสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ อย่างน้อยสัญญาใดสัญญาหนึ่ง ให้ชัดเจนว่า สถาบันการเงินจะเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการจดจำนอง ซึ่ง ธปท.ไม่ได้กำหนดเป็นข้อความมาตรฐานและไม่ได้กำหนดว่าต้องระบุในส่วนใดของสัญญา

    92.4 การจดจำนองเครื่องจักรเป็นหลักประกันทางธุรกิจกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมตามแนวปฏิบัติที่อ้างถึงข้างต้นด้วยหรือไม่ เนื่องจากการจดจำนองเครื่องจักรสามารถเลือกยื่นขอจดทะเบียนได้กับ 2 หน่วยงาน ได้แก่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือกรมโรงงานอุตสาหกรรม

    92.4 ได้รับยกเว้นเฉพาะการจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

    92.5 การจดจำนองหลักประกันที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับ soft loanจะได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมจากกรมที่ดินหรือไม่

    92.5 การนำที่ดินของบุคคลอื่นมาจดจำนองเพื่อค้ำประกันการกู้ยืมเงิน soft loan ของผู้ประกอบวิสาหกิจได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดจำนองจากกรมที่ดินตามหนังสือที่ มท ๐๕๑๕.๓/ว ๑๐๖๗๔ เรื่อง แจ้งแนวทางปฏิบัติเพิ่มเติม กรณีจดทะเบียนจำนองอสังหาริมทรัพย์และอาคารชุด อันเนื่องมาจากการให้กู้ยืมเงินตามมาตรการแห่งพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓

    ​93. วิธีปฏิบัติสำหรับดอกเบี้ยที่จะได้รับชดเชยจากกระทรวงการคลังในช่วงระยะเวลา 6 เดือนแรกนับแต่วันที่ผู้ประกอบวิสาหกิจได้รับสินเชื่อเพิ่มเติมงวดแรก 

    93.1 การบันทึกบัญชี

    93.1 ให้สถาบันการเงินคำนวณและบันทึกยอดดอกเบี้ยค้างรับของลูกหนี้แต่ละรายที่จะต้องขอรับการจ่ายชดเชยจากกระทรวงการคลัง และทุกสิ้นเดือนให้สถาบันการเงินโอนดอกเบี้ยค้างรับดังกล่าวไปบันทึกบัญชีดอกเบี้ยค้างรับรอการชดเชยจากกระทรวงการคลัง หรือจะบันทึกบัญชีดอกเบี้ยค้างรับรอการชดเชยจากกระทรวงการคลังสำหรับ 6เดือนแรกโดยตรงก็ได้ ทั้งนี้ สถาบันการเงินต้องมีระบบข้อมูลที่มีรายละเอียดดอกเบี้ยค้างรับของลูกหนี้แต่ละราย เพื่อให้ ธปท. สามารถตรวจสอบได้

    สำหรับกรณีที่สถาบันการเงินให้กู้ยืมเงิน soft loan ของ ธปท. ในรูปแบบวงเงินเบิกเกินบัญชี ให้สถาบันการเงินบันทึกบัญชีดอกเบี้ยค้างรับของลูกหนี้แต่ละรายแยกออกมาจากวงเงินเบิกเกินบัญชี และทุกสิ้นเดือนให้สถาบันการเงินโอนดอกเบี้ยค้างรับดังกล่าวไปบันทึกบัญชีดอกเบี้ยค้างรับรอการชดเชยจากกระทรวงการคลัง หรือจะบันทึกบัญชีดอกเบี้ยค้างรับรอการชดเชยจากกระทรวงการคลังสำหรับ 6 เดือนแรกโดยตรงก็ได้ ทั้งนี้สถาบันการเงินต้องไม่คิดดอกเบี้ยดังกล่าวทบเป็นเงินต้นในบัญชีเงินเบิกเกินบัญชี

    93.2 การรายงาน data set  (LAR, TCS, PVS, TDR) 

    93.2 ให้สถาบันการเงินรายงานดอกเบี้ยค้างรับในช่วง 6 เดือนแรกนับแต่วันที่ผู้ประกอบวิสาหกิจได้รับสินเชื่อเพิ่มเติมงวดแรกเป็นศูนย์ เนื่องจากกระทรวงการคลังรับจะชดเชยแทนผู้ประกอบวิสาหกิจ ดอกเบี้ยดังกล่าวจึงไม่ใช่ภาระของผู้ประกอบวิสาหกิจ

    93.3 ​การคำนวณสินทรัพย์เสี่ยงด้านเครดิต (risk weight) 

    93.3 จำนวนดอกเบี้ยค้างรับรอการชดเชยจากกระทรวงการคลังจะได้รับ risk weight ร้อยละ 0

    93.4 ​การจัดชั้นและการกันเงินสำรอง

    93.4 การจัดชั้นและการกันเงินสำรองสำหรับเงินกู้ยืม soft loan ของ ธปท. ในช่วง 6 เดือนแรก ให้สถาบันการเงินจัดชั้นและกันเงินสำรองตามเกณฑ์ TFRS 9 เฉพาะยอดหนี้โดยไม่รวมดอกเบี้ยค้างรับ เนื่องจากดอกเบี้ยดังกล่าวไม่ใช่ภาระของผู้ประกอบวิสาหกิจ สำหรับดอกเบี้ยค้างรับรอการชดเชยจากกระทรวงการคลัง ให้สถาบันการเงินจัดชั้นและกันเงินสำรองตามวิธีปฏิบัติสำหรับลูกหนี้ภาครัฐบาล ภายหลัง 6 เดือน ให้สถาบันการเงินจัดชั้นและกันเงินสำรองสำหรับเงินต้นและดอกเบี้ยตามเกณฑ์ TFRS 9 

    ​94. การกรอกแบบรายงาน D1
    94.1 รายงานข้อมูลลูกหนี้เป็นยอดสะสม (accumulative) ใช่หรือไม่ เช่น หากส่งข้อมูลในวันที่ 21 กรกฎาคม 2563 คือ การรายงานข้อมูลลูกหนี้ที่ขอ soft loan เดือนเมษายน – มิถุนายน 2563

    ​
    94.1 รายงานข้อมูลลูกหนี้ทุกรายที่เซ็นสัญญา soft loan กับสถาบันการเงินตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงสิ้นเดือนที่รายงาน เช่น การรายงานข้อมูลมิถุนายน 2563 ซึ่งกำหนดส่งข้อมูลวันที่ 21 กรกฎาคม 2563 นั้น ให้รายงานสถานะลูกหนี้ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 ของลูกหนี้ทั้งหมดที่เคยได้รับสินเชื่อ soft loan ตั้งแต่วันที่ยื่นขอครั้งแรก 27 เมษายน 2563 จนถึง 30 มิถุนายน 2563

    ​94.2 หากสถาบันการเงินยื่นเบิกเงิน soft loan จาก ธปท. ในวันจันทร์ที่ 29มิถุนายน 2563 และได้รับเงินจาก ธปท. วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม 2563 จะต้องรายงานลูกหนี้กลุ่มนี้ในรายงานเดือนมิถุนายน 2563 ที่นำส่งวันที่ 21 กรกฎาคม 2563 หรือไม่

    ​94.2 การรายงานสถานะลูกหนี้จะรายงานหลังจากสถาบันการเงินได้รับเงินจาก ธปท. และเซ็นสัญญากับลูกหนี้แล้ว (มีเลขที่สัญญา) โดยสถาบันการเงินสามารถรายงานยอดคงค้างเป็นศูนย์ได้ หากลูกหนี้ยังไม่เบิกเงินกับสถาบันการเงิน ทั้งนี้ จากกรณีตัวอย่าง สถาบันการเงินยังไม่ต้องรายงานลูกหนี้กลุ่มดังกล่าว ในรายงานเดือนมิถุนายน 2563 ที่จะนำส่งวันที่ 21 กรกฎาคม 2563

    ​94.3 หากสถาบันการเงินยื่นเบิกเงิน soft loan จาก ธปท. ในวันจันทร์ที่ 22มิถุนายน 2563 และได้รับเงินจาก ธปท. วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน 2563 แต่ลูกหนี้ยังไม่เบิกเงินจากสถาบันการเงินภายในเดือนมิถุนายน 2563 จะต้องรายงานลูกหนี้รายนี้ในรายงานเดือนมิถุนายน 2563 ที่จะนำส่งวันที่ 21 กรกฎาคม 2563 หรือไม่

    ​94.3 การรายงานสถานะลูกหนี้จะรายงานหลังจากสถาบันการเงินได้รับเงินจาก ธปท. และเซ็นสัญญากับลูกหนี้แล้ว (มีเลขที่สัญญา) โดยสถาบันการเงินรายงานยอดคงค้างเป็นศูนย์ได้ หากลูกหนี้ยังไม่เบิกเงินกับสถาบันการเงิน

    ​94.4 การรายงานการจัดชั้นลูกหนี้ ณ สิ้นเดือน และการปรับโครงสร้างหนี้ เป็นข้อมูลรายลูกหนี้ใช่หรือไม่

    ​94.4 ให้รายงานรูปแบบเดียวกับที่สถาบันการเงินรายงานข้อมูล DMS ชุด LAR และชุด SMD

    ​94.5 ในช่อง “การปรับโครงสร้างหนี้นับแต่ได้รับ soft loan : วันที่ปรับโครงสร้างหนี้ล่าสุด (YYYY-MM-DD) ปี คศ.”ถ้ามีการปรับโครงสร้าง 2 ครั้ง ต้องรายงานข้อมูลวันที่ปรับโครงสร้างหนี้ครั้งที่ 2 หรือไม่

    ​94.5 ให้รายงานวันที่ปรับโครงสร้างหนี้ครั้งล่าสุดโดยรายงานเฉพาะการปรับโครงสร้างหนี้ที่เกิดขึ้นหลังจากวันที่สถาบันการเงินได้รับ soft loan จาก ธปท.

    ​94.6 วันที่สถาบันการเงินคืนเงินกู้ก่อนกำหนด (ถ้ามี) คือ วันที่ ธปท. หักเงินจากบัญชีสถาบันการเงินซึ่งสอดคล้องกับเอกสาร E1.1 ในแต่ละรอบการชำระใช่หรือไม่

    ​94.6 ให้รายงานวันที่ ธปท. หักเงินจากบัญชีสถาบันการเงิน

    95. การกรอกแบบรายงาน D1 กรณีตั๋ว P/N​
    95.1 สถาบันการเงินให้สินเชื่อ soft loan เป็นตั๋ว P/N หลายฉบับแก่ลูกหนี้ จะต้องกรอกในแบบรายงาน D1 อย่างไร เช่น ลูกหนี้ได้รับเงิน soft loan 100 ล้านบาท ทยอยเบิกเป็นตั๋ว P/N จำนวน 3 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 วันที่ 1มิถุนายน 2563 จำนวน 40 ล้านบาท ครั้งที่ 2 วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 จำนวน 40 ล้านบาท และครั้งที่ 3 วันที่ 1สิงหาคม 2563 จำนวน 20 ล้านบาท

    ​
    95.1 ให้รายงานรูปแบบเดียวกับที่รายงานข้อมูล DMS ชุด LAR และชุด SMD ซึ่งทำได้ 2 รูปแบบ ดังนี้

    1. รายงานแยกรายสัญญา โดยรายงานข้อมูล 1 สัญญาเป็น 1 บรรทัด ดังนั้น หากมี ตั๋ว P/N หลายฉบับในสัญญาเดียวกัน ให้รายงานรวมในบรรทัดเดียวและระบุวันที่ลูกหนี้ได้รับเงิน soft loan ครั้งแรกเป็นวันที่ของตั๋ว P/N ฉบับแรก

    2. รายงานแยกตั๋ว P/N รายฉบับ โดยรายงานข้อมูลตั๋ว P/N 1 ฉบับ ต่อ 1 บรรทัด และระบุวันที่ลูกหนี้ได้รับเงิน soft loan ครั้งแรก เป็นวันที่ของตั๋ว P/N แต่ละฉบับ

    ​95.2 หากตั๋ว P/N ครบกำหนดอายุและต่ออายุสัญญา (roll over) ใน Template D1 จะให้ระบุวันที่ในช่อง “วันที่ลูกหนี้ได้รับเงิน soft loan จากสถาบันการเงินครั้งแรก” อย่างไร

    ​95.2 วันที่ลูกหนี้ได้รับเงิน soft loan ครั้งแรกให้รายงานตามวันที่ P/N ฉบับแรก โดยเลขที่สัญญากู้ยืมให้เป็นไปตามฉบับที่มีการ roll overซึ่งจะสอดคล้องกับเลขที่สัญญาที่ธนาคารรายงานข้อมูล DMS ชุด LAR และชุด SMD

    ​96. การระบุข้อมูลลูกหนี้กู้ร่วมในแบบรายงาน E1.1 , D1 และ D2 ให้ยึดตามแบบรายงาน C4.2 ใช่หรือไม่

    ​การระบุลูกหนี้ในแบบรายงาน E1.1, D1 และ D2 ให้ยึดลูกหนี้ตามแบบรายงาน C4.2 เพราะเป็นข้อมูลลูกหนี้ที่ผ่านการพิจารณาให้สินเชื่อ soft loan จาก ธปท. และสถาบันการเงินแจ้งยืนยันแล้ว

    ​97. การเปลี่ยนแปลงชื่อกลุ่มลูกหนี้
    97.1 กรณีสถาบันการเงินระบุชื่อกลุ่มลูกหนี้ในแบบรายงาน B2.1 ที่ยื่นในระหว่างเดือนไม่ถูกต้อง และต้องการเปลี่ยนข้อมูลในแบบฟอร์ม D2 ณ สิ้นเดือนต้องระบุข้อมูลอย่างไร

    ​
    97.1 การระบุข้อมูลในแบบฟอร์ม D2 ในช่อง “ชื่อกลุ่มลูกหนี้ตาม B2.1 ของเดือนที่รายงาน” ให้ระบุชื่อกลุ่มลูกหนี้ใหม่ที่ถูกต้อง ส่วนช่อง “ชื่อกลุ่มลูกหนี้เดิม” ให้ระบุชื่อกลุ่มลูกหนี้เดิมที่รายงานผิดใน B2.1

    ​97.2 ในกรณีมีการเปลี่ยนแปลงชื่อกลุ่มในระหว่างเดือน แต่ในเดือนดังกล่าวไม่มีลูกหนี้ในกลุ่มได้รับเงิน soft loan จะต้องแจ้งแก้ไขอย่างไร

    ​97.2 หากในระหว่างเดือน สถาบันการเงินมีการเปลี่ยนแปลงชื่อกลุ่มลูกหนี้ แต่ไม่มีลูกหนี้ในกลุ่มดังกล่าวได้รับเงิน soft loan ในเดือนนั้นๆ สถาบันการเงินไม่ต้องกรอกแก้ไขชื่อกลุ่มลูกหนี้ในแบบรายงาน D2 แต่ให้กรอกแก้ไขในเดือนที่มีลูกหนี้ในกลุ่มได้รับเงิน soft loan อีกครั้ง

    ​98. การรายงานในแบบรายงานสถานะที่ลูกหนี้ได้รับ soft loan ซึ่งกำหนดให้รายงานลูกหนี้ที่มีการคืนเงินทั้งจำนวนก่อนกำหนดในเดือนที่มีการคืนเงินด้วย และไม่ต้องรายงานลูกหนี้ดังกล่าวในเดือนถัดไป เดือนที่มีการคืนเงินหมายถึงวันที่ลูกหนี้ชำระเงินคืนสถาบันการเงิน หรือวันที่สถาบันการเงินชำระเงินคืน ธปท.

    ​เดือนที่มีการคืนเงินตามคำอธิบายการกรอกแบบรายงานสถานะลูกหนี้ที่ได้รับ soft loanหมายถึง วันที่สถาบันการเงินชำระคืน ธปท.

    1 - 145

    ตอบทุกคำถามกับ มาตรการชะลอการชำระหนี้ (loan payment holiday)

    ค้นหา
    คำถาม คำตอบ
    01 คุณสมบัติของลูกหนี้

    1. ลูกหนี้กลุ่มใดบ้างที่เข้าเงื่อนไขตามมาตรการ ​

    ​1. เป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย ซึ่งมีสถานประกอบการและประกอบธุรกิจในประเทศไทย

    2. มีวงเงินสินเชื่อนับรวมทั้งกลุ่มธุรกิจของผู้ประกอบวิสาหกิจที่มีกับสถาบันการเงินแต่ละแห่งไม่เกิน 100 ล้านบาท ทั้งนี้ วงเงินรวมของสินเชื่อธุรกิจ รวมถึงวงเงินสินเชื่อเช่าซื้อเฉพาะประเภท fleet เพื่อประกอบธุรกิจแต่ไม่นับรวมวงเงินตามภาระผูกพัน วงเงินสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับ วงเงินสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย วงเงินสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้กำกับ และวงเงินสินเชื่อบัตรเครดิต

    3. ไม่เป็นลูกหนี้ที่ถูกจัดชั้นเป็นสินทรัพย์จัดชั้นต่ำกว่ามาตรฐาน สินทรัพย์จัดชั้นสงสัย สินทรัพย์จัดชั้นสงสัยจะสูญ สินทรัพย์จัดชั้นสูญ ตามประกาศ ธปท. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดชั้นและการกันเงินสำรอง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562

    4. ไม่เป็นผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน

    2. กรณีที่ลูกหนี้ไม่เป็น NPL ณ 31 ธันวาคม 2562 แต่เสื่อมคุณภาพเป็น NPL หลังจากนั้น สามารถเข้าร่วมโครงการชะลอการชำระหนี้ได้ใช่หรือไม่ ​

    ​ลูกหนี้มีสิทธิชะลอการชำระหนี้ตามมาตรการนี้

    3. ลูกค้าได้รับสินเชื่อใหม่ในเดือนมกราคม 2563 จะได้รับสิทธิชะลอการชำระหนี้ ตาม พ.ร.ก. หรือไม่ และลูกหนี้ที่ได้รับสินเชื่อใหม่หลังจาก พ.ร.ก. มีผลใช้บังคับจะได้รับสิทธิชะลอการชำระหนี้หรือไม่ ​

    คุณสมบัติลูกหนี้ที่ได้รับสิทธิชะลอการชำระหนี้ตามมาตรการต้องเป็นลูกหนี้ที่มีวงเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 หากลูกหนี้ที่ไม่มีวงเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 และได้รับวงเงินสินเชื่อใหม่ภายหลังจากนั้นจะไม่ได้รับสิทธิชะลอการชำระหนี้ตามมาตรการดังกล่าว

    4. มาตรการควรครอบคลุมลูกหนี้เกษตรกรหรือไม่ เนื่องจากเกษตรกรเป็นผู้ที่มีความเปราะบางด้านการเงิน และมีจำนวนมาก ​

    ​ครอบคลุมลูกหนี้เกษตรกรที่ใช้สินเชื่อเพื่อประกอบธุรกิจ

    5. การนับวงเงินของลูกหนี้ที่เข้ามาตรการ loan payment holiday ของ ธปท.

    5.1 ครอบคลุมสินเชื่อประเภทใดบ้าง เช่น เงินกู้ระยะยาว, O/D, P/N, T/R, สินเชื่อเพื่อการค้า (trade finance), soft loan ของธนาคารออมสิน, สินเชื่อเช่าซื้อ fleet เพื่อการประกอบธุรกิจ​

    ​


    5.1 ขอบเขตของสินเชื่อภายใต้มาตรการนี้ครอบคลุมสินเชื่อธุรกิจทุกประเภท แต่ไม่นับรวมวงเงินตามภาระผูกพัน วงเงินสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับ วงเงินสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย วงเงินสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้กำกับ และวงเงินสินเชื่อบัตรเครดิตนับจากวงเงินรวมที่สถาบันการเงินอนุมัติและรายงาน DMS ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562

    5.2 ถ้าวงเงินถูก hold จะต้องนับเป็นวงเงินรวมตามมาตรการ loanpayment holiday หรือไม่​

    ​5.2 นับจากวงเงินรวมที่สถาบันการเงินอนุมัติและรายงาน DMS ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562

    5.3 กรณีลูกหนี้มีวงเงินเกิน 100 ล้านบาท ต่อมาลูกหนี้ทยอยผ่อนชำระหนี้ทำให้มียอดหนี้คงเหลือ 80 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ลูกหนี้จะสามารถเข้าร่วมมาตรการ loan payment holiday ได้หรือไม่​

    ​5.3 ลูกหนี้ที่สามารถเข้ารับความช่วยเหลือตามมาตรการ loan payment holiday วงเงินรวมของกลุ่มต้องไม่เกิน 100 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ในกรณีดังกล่าวลูกหนี้ไม่สามารถเข้ามาตรการ loan payment holiday ได้ เนื่องจากมีวงเงินเกินกว่าที่เกณฑ์กำหนด

    5.4 วงเงินรวมของสินเชื่อธุรกิจครอบคลุมสินเชื่อบัตรเครดิตเพื่อธุรกิจ และค่าเบี้ยประกันหรือค่าธรรมเนียมอื่นที่สถาบันการเงินออกให้ลูกหนี้ล่วงหน้าหรือไม่

    ​5.4 วงเงินรวมของสินเชื่อธุรกิจครอบคลุมสินเชื่อบัตรเครดิตเพื่อธุรกิจ แต่ไม่ครอบคลุมค่าเบี้ยประกันหรือค่าธรรมเนียมอื่นที่สถาบันการเงินออกให้ลูกหนี้ล่วงหน้า

    5.5 ลูกหนี้มีวงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 62 ต่อมาสถาบันการเงินมีการให้สินเชื่อเพิ่มทำให้วงเงินปัจจุบันเกิน 100 ล้านบาท ลูกหนี้ดังกล่าวยังคงมีสิทธิได้รับการพักหนี้ตามมาตรการนี้หรือไม่​

    ​5.5 ลูกหนี้มีคุณสมบัติเข้ามาตรการ loan payment holiday เนื่องจากพิจารณาวงเงินรวมของกลุ่มลูกหนี้ที่มีกับแต่ละสถาบันการเงินไม่เกิน 100 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 โดยการชะลอการชำระหนี้ใช้ยอดหนี้ ณ วันที่ พ.ร.ก. มีผลบังคับใช้

    6.​ ลูกหนี้ที่จะเข้าเกณฑ์ชะลอการชำระหนี้แบบอัตโนมัติ รวมลูกหนี้ในธุรกิจสถาบันการเงินด้วยหรือไม่ เช่น สถาบันการเงิน บริษัทประกัน บริษัทหลักทรัพย์ สหกรณ์ เป็นต้น

    ​เกณฑ์ชะลอการชำระหนี้แบบอัตโนมัติใช้ได้กับผู้ประกอบวิสาหกิจทุกรายที่มีคุณสมบัติ ตามข้อ 1.

    7. การชะลอการชำระหนี้ 6 เดือน จะมีผลต่อทุกรายการสินเชื่อ ณ วันที่ พ.ร.ก. เริ่มประกาศให้มีผลบังคับใช้หรือไม่​

    ​การชะลอการชำระหนี้ตาม พ.ร.ก. มีผลกับวงเงินสินเชื่อธุรกิจ แต่ไม่นับรวมวงเงินตามภาระผูกพัน วงเงินสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับ วงเงินสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย วงเงินสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้กำกับ และวงเงินสินเชื่อบัตรเครดิต

    8. กรณีที่ลูกค้าเป็นบริษัทลูกจดทะเบียนในประเทศไทยและมีวงเงินร่วมกับบริษัทแม่ซึ่งจดทะเบียนในต่างประเทศ การนับวงเงินเพื่อเข้ามาตรการ loan payment holiday จะนับอย่างไร​

    ​พิจารณาวงเงินเฉพาะที่กู้จากสถาบันการเงินที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย โดยนับวงเงินบริษัทแม่และบริษัทลูกที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ไม่เกิน 100 ล้านบาท

    9. หากสถาบันการเงินจัดลูกค้าเป็นสินเชื่อกลุ่ม corporate จะสามารถเข้าร่วมมาตรการ loan payment holiday ได้หรือไม่​

    ​ หากลูกหนี้มีคุณสมบัติตามที่ พ.ร.ก. กำหนด ลูกหนี้สามารถเข้าร่วมมาตรการได้ โดยไม่จำเป็นต้องพิจารณาว่าจัดเป็นลูกหนี้กลุ่มใดของสถาบันการเงิน

    10. กรณีลูกค้าได้รับสินเชื่อ P/N ตามโครงการ soft loan ธนาคารออมสิน เช่น ปรับเปลี่ยนเครื่องจักร (อัตราดอกเบี้ย 4%), 3 จังหวัดชายแดนใต้ (อัตราดอกเบี้ย 1.5%) ซึ่งตั๋วครบกำหนดวันชำระหนี้ในช่วงพักชำระหนี้ ซึ่งตาม MOU กำหนดให้ธนาคารต้องชำระคืนธนาคารออมสิน และเมื่อธนาคารคืนเงินธนาคารออมสินไปแล้ว ลูกค้าที่เข้ามาตรการนี้จะไม่สามารถได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำตามโครงการดังกล่าวต่อไปได้ ดังนั้น จึงขอลูกค้าดังกล่าวไม่เข้ามาตรการพักชำระหนี้ 6 เดือนครั้งนี้ได้หรือไม่​

    ​ ขึ้นอยู่กับสัญญาระหว่างธนาคารและลูกหนี้ว่ากำหนดไว้อย่างไร อย่างไรก็ดี ตาม พ.ร.ก. ให้ สง. พักชำระหนี้ที่มีวงเงินต่อกลุ่มไม่เกิน 100 ล้านบาท อัตโนมัติทุกราย แต่หากลูกหนี้ประสงค์จะชำระค่างวดปกติ สามารถทำได้ สถาบันการเงินต้องสื่อสารให้ลูกหนี้ทราบแนวปฏิบัติอย่างชัดเจน

    11. ลูกหนี้ทำโครงการอสังหาริมทรัพย์ วงเงินต่ำกว่า 500 ล้านบาท ได้รับชำระเงินจากลูกค้าที่ซื้อโครงการ หากอยู่ในช่วงมาตรการพักชำระหนี้ 6 เดือน ลูกหนี้ได้รับการพักชำระหนี้อัตโนมัติหรือไม่ ​เนื่องจากหากพักชำระหนี้แล้วผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์มาชำระแล้ว แต่ลูกหนี้ได้พักชำระหนี้จะทำให้ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ให้กับผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้

    ​พ.ร.ก. ให้สถาบันการเงินพักชำระหนี้ที่มีวงเงินต่อกลุ่มไม่เกิน 100 ล้านบาท อัตโนมัติทุกราย แต่หากลูกหนี้ประสงค์จะชำระค่างวดปกติ สามารถทำได้ สถาบันการเงินต้องสื่อสารให้ลูกหนี้ทราบแนวปฏิบัติอย่างชัดเจน สำหรับกรณีนี้สถาบันการเงินควรเจรจาตกลงกับลูกหนี้ให้เข้าใจว่า หากมีผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์เข้ามาชำระเพื่อปลอดจำนอง ลูกหนี้ควรนำเงินมาชำระหนี้สถาบันการเงินเพื่อปลอดจำนองให้ผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์

    ​12. ลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการตาม พ.ร.บ.ล้มละลายฯ จะได้รับสิทธิตามมาตรการชะลอการชำระหนี้หนี้ใน พ.ร.ก. และประกาศ ธปท. หรือไม่

    ​
    เมื่อศาลมีคำสั่งให้ลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการเริ่มตั้งแต่การรับคำขอฟื้นฟูกิจการ ลูกหนี้ก็จะเข้าสู่สภาวะการพักการชำระหนี้โดยผลของกฎหมาย (Automatic Stay)ซึ่งห้ามมิให้ลูกหนี้ชำระหนี้ตามมาตรา 90/12 (9) และมาตรา 90/104 แห่ง พ.ร.บ.ล้มละลาย และศาลล้มละลายมีคำสั่งตั้งผู้ทำแผนเพื่อทำแผนในการจัดการกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ (มาตรา 90/25) และตั้งผู้บริหารแผนเพื่อบริหารจัดการกิจการของลูกหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการที่ศาลเห็นชอบ (มาตรา 90/59) ดังนั้น ลูกหนี้ที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการได้รับการพักชำระหนี้โดยผลของกฎหมายล้มละลายอยู่แล้ว จึงไม่ใช่ลูกหนี้ที่เข้าข่ายที่จะได้รับสิทธิชะลอหนี้ตาม พ.ร.ก. และประกาศ ธปท. นอกจากนี้ หากพิจาณาฐานะของผู้ทำแผนหรือผู้บริหารแผนก็เป็นผู้ที่ศาลล้มละลายตั้งขึ้นเพื่อบริหารจัดการกับกิจการของลูกหนี้ตามแผนที่ศาลเห็นชอบตามกระบวนการของกฎหมายล้มละลาย ซึ่งเป็นกฎหมายเฉพาะ จึงไม่ได้มีฐานะเป็นลูกหนี้แต่อย่างใด และการชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการจึงต้องปฏิบัติตามวิธีการ และขั้นตอนเป็นการเฉพาะตามที่บัญญัติในกฎหมายล้มละลาย

    ​13. ลูกหนี้ที่ทำสัญญาประนีประนอมกับสถาบันการเงิน

    ​13.1 ลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างการชำระหนี้แก่สถาบันการเงินตามคำพิพากษาตามยอม จะได้รับสิทธิตามมาตรการชะลอหนี้ใน พ.ร.ก. และประกาศ ธปท. หรือไม่

    ​13.1 กรณีลูกหนี้สามารถปฏิบัติได้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความและสถาบันการเงินจัดชั้นลูกหนี้ปกติก่อนวันที่ประกาศ ธปท.มีผลบังคับใช้ (23 เมษายน 2563) ลูกหนี้เข้าข่ายที่จะได้รับสิทธิตามมาตรการชะลอหนี้ใน พ.ร.ก. และประกาศ ธปท. เนื่องจากการทำสัญญาประนีประนอมยอมความในชั้นศาลเป็นการใช้สิทธิทางศาลในการระงับข้อพิพาทระหว่างเจ้าหนี้ (สถาบันการเงิน) กับลูกหนี้ (ป.วิ.พ. มาตรา 138) โดยศาลจะพิพากษาไปตามข้อตกลงประนีประนอมยอมความของเจ้าหนี้และลูกหนี้นั้น แต่เจ้าหนี้และลูกหนี้ดังกล่าวก็ยังคงผูกพันในการชำระหนี้ต่อกันตามที่ตกลงกัน มิใช่การปฏิบัติตามคำพิพากษาแต่อย่างใด และหากลูกหนี้ไม่ปฏิบัติตามที่ตกลงกันเจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิบังคับคดีโดยใช้อำนาจของศาล ดังนั้น ฐานะเจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงินกับลูกหนี้ที่เป็นผู้ประกอบวิสาหกิจ ซึ่งชำระหนี้กันตามคำพิพากษาตามยอม ไม่แตกต่างกับลูกหนี้และสถาบันการเงินตามมาตรการชะลอการชำระหนี้ ใน พ.ร.ก. และประกาศ ธปท. ลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างการชำระหนี้แก่สถาบันการเงินตามคำพิพากษาตามยอม

    ​13.2 หากลูกหนี้ตามข้อ 13.1 เข้าเกณฑ์ชะลอการชำระหนี้ของ ธปท. แล้วอายุความบังคับคดีจะหมดลงในช่วงชะลอการชำระหนี้ หากสถาบันการเงินใช้มาตรการชะลอการชำระหนี้ 6 เดือน จะต้องดำเนินการอย่างไร

    ​13.2 กรณีที่ลูกหนี้ไม่สามารถปฏิบัติได้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความก่อนวันที่ประกาศ ธปท.มีผลบังคับใช้ (23 เมษายน 2563)ไม่กระทบสิทธิของสถาบันการเงินในการใช้สิทธิเรียกร้องในทางคดีกับลูกหนี้รายดังกล่าว

    ​14. ลูกหนี้เป็นผู้ประกอบวิสาหกิจที่อยู่ระหว่างเลิกกิจการ แต่ยังสามารถชำระหนี้ธุรกิจได้ตามปกติ ไม่ได้ค้างชำระหนี้กับสถาบันการเงิน ลูกหนี้รายดังกล่าวมีสิทธิได้รับชะลอการชำระหนี้หรือไม่

    ​สถาบันการเงินสามารถใช้สิทธิเรียกร้องในทางคดีกับผู้ประกอบวิสาหกิจรายที่เลิกกิจการได้ตามประกาศ ธปท. ที่ สกส1. 3/2563 ข้อ 4.2.1 อย่างไรก็ดี หากสถาบันการเงินเห็นควรช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มเติมโดยการให้ชะลอการชำระหนี้ก็สามารถกระทำได้

    15. บริษัท A และบริษัท B เป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้กลุ่มธุรกิจเดียวกัน บริษัท A มีวงเงินแต่ บริษัท B ไม่มีวงเงินกับสถาบันการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ต่อมาในปี 2563 บริษัท Bได้รับวงเงินและมียอดหนี้ ณ วันที่ 19 เมษายน 2563 บริษัท B มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ชะลอการชำระหนี้หรือไม่​

    ​บริษัท B ไม่มีคุณสมบัติตามมาตรการชะลอการชำระหนี้ เนื่องจากไม่มีวงเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562

    ​16. ตามประกาศ ธปท. เรื่อง การชะลอการชำระหนี้แก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ระบุคุณสมบัติลูกหนี้ที่ได้รับการชะลอหนี้เพิ่มเติมว่าต้องไม่เป็นผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน ผู้ประกอบธุรกิจทางการเงินดังกล่าวหมายถึงลูกหนี้กลุ่มใด

    ​ผู้ประกอบธุรกิจทางการเงินตามประกาศ ธปท.หมายรวมถึง
    - สถาบันการเงินในประเทศ เช่น ธนาคารพาณิชย์ไทย ธนาคารพาณิชย์ไทยเพื่อรายย่อย ธนาคารพาณิชย์ที่เป็นบริษัทลูกของธนาคารต่างประเทศ สาขาธนาคารต่างประเทศ สำนักงานวิเทศธนกิจของธนาคารต่างประเทศ สถาบันการเงินพิเศษของรัฐ สำนักงานผู้แทนธนาคารต่างประเทศ บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ 
    - ธุรกิจการเงินต่างๆ เช่น ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่มิใช่สถาบันการเงิน บริษัทประกันชีวิต สหกรณ์ออมทรัพย์ ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ บริษัทบริหารสินทรัพย์ โรงรับจำนำ ทั้งนี้ไม่รวมถึง บุคคลรับอนุญาตให้แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Money Changer)เนื่องจากไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อการปล่อยกู้สินเชื่อ
    - กองทุนต่างๆ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนประกันสังคม กองทุนเงินทดแทน

    02 วิธีการชะลอการชำระหนี้

    17. ​ใช้ยอดหนี้ ณ วันใดในการตั้งชะลอการชำระหนี้

    ​ใช้ยอดหนี้ ณ วันที่ พ.ร.ก. มีผลใช้บังคับ (19 เมษายน 2563) แต่เริ่มชะลอการชำระหนี้ตั้งแต่วันที่ประกาศ ธปท. มีผลบังคับใช้ (23 เมษายน 2563)

    18. กรณีลูกค้าได้เข้ามาตรการช่วยเหลือตามประกาศของ ธปท. ก่อนหน้านี้แล้ว เช่น เข้ามาตรการชะลอการชำระหนี้ต้นและดอกเบี้ยแล้ว 1 เดือน จะได้รับการชะลอการชำระหนี้เพิ่มอีก 5 เดือน หรือ ได้รับการชะลอการชำระหนี้ตามมาตรการใหม่ที่ 6 เดือน​

    ​สถาบันการเงินจะต้องชะลอการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยอีกไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ประกาศ ธปท. มีผลบังคับใช้ (23 เมษายน 2563 – 22 ตุลาคม 2563)

    19. การดำเนินการตามมาตรการโดยชะลอการชำระต้นเงินและดอกเบี้ย ส่วนที่ชะลอการชำระหนี้ (ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย) จะต้องกำหนดตามที่ ธปท. ระบุหรือทางสถาบันการเงินสามารถกำหนดได้เองตามความเหมาะสม ​

    ​การเรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยที่คิดคำนวณในช่วงชะลอการชำระหนี้ให้สถาบันการเงินใช้วิธีที่จะไม่สร้างภาระกับผู้ประกอบวิสาหกิจมากจนเกินไป โดยไม่ให้เรียกเก็บเป็นเงินก้อนในครั้งเดียวเมื่อสิ้นระยะเวลาชะลอการชำระหนี้ ทั้งนี้ สถาบันการเงินสามารถเรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยดังกล่าวภายหลังจากที่พ้นระยะเวลาการชะลอการชำระหนี้ด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งหรือหลายวิธีการรวมกันตามที่ได้ตกลงกับลูกหนี้ ตามประกาศ ธปท. ที่ สกส.1.3/2563 ข้อ 4.3

    20. หากสถาบันการเงินออกแบบมาตรการให้สามารถ roll over ตั๋วสัญญาใช้เงินได้ ทาง ธปท. ถือว่าเข้าข่ายมาตรการนี้หรือไม่ ​

    สถาบันการเงินอาจชะลอการชำระหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงินโดยการ roll over ออกไป โดยไม่เรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยในระยะ 6 เดือนตามที่ พ.ร.ก. กำหนด​

    21. พ.ร.ก. นี้ให้รวมถึงการชะลอการชำระค่าธรรมเนียมต่างๆ ได้แก่ L/C และ L/G หรือไม่​

    ​ไม่ได้กำหนดให้ชะลอการชำระค่าธรรมเนียมภาระผูกพันตาม L/C และ L/G

    22. ลูกหนี้ยังต้องชำระราคา FX (settle FX) ต่างๆ หรือ ได้รับการเลื่อนการชำระตามมาตรการนี้ด้วย​

    ​พ.ร.ก. ไม่ได้บังคับให้ต้องเลื่อนการชำระราคาสำหรับภาระผูกพันในกรณีดังกล่าว แต่สถาบันการเงินอาจพิจารณาช่วยเหลือลูกหนี้ตามสมควรได้

    23. การชะลอการชำระหนี้ 6เดือน หมายถึง ในช่วง 6 เดือน ที่ พ.ร.ก. มีผลบังคับใช้ ทางสถาบันการเงินจะต้องชะลอการชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้ในช่วงดังกล่าว หรือสถาบันการเงินจะต้องขยายระยะเวลาชำระหนี้ของลูกหนี้ออกไป 6เดือน ตัวอย่าง เช่น ลูกหนี้ มีตั๋ว P/N ครบกำหนดชำระในวันที่ 15 มิถุนายน 2563ทางสถาบันการเงินจะต้องทำอย่างไร ระหว่าง เลื่อนการชำระตั๋ว P/N ดังกล่าวออกไปเป็นหลังช่วงที่ พ.ร.ก. มีผลบังคับใช้ (สมมติถึง 30 กันยายน 2563)คือ ให้ลูกค้าชำระ​ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 หรือ ต้องขยายระยะเวลาตั๋ว P/N ดังกล่าวออกไป 6เดือน คือ ให้ไปครบกำหนด 15 ธันวาคม 2563

    ​กรณีที่ตั๋วสัญญาใช้เงินครบกำหนดในช่วงชะลอการชำระหนี้ สถาบันการเงินสามารถเรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยภายหลังสิ้นสุดช่วงเวลาดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม ขอให้สถาบันการเงินพิจารณาชะลอการชำระหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงินโดยการ roll over ออกไปเกินกว่าช่วงชะลอการชำระหนี้สิ้นสุดลง เพื่อให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้

    ทั้งนี้ กรณีลูกหนี้วงเงิน working capital เป็นไปตามมาตรการชะลอการชำระหนี้เช่นกัน สถาบันการเงินต้องชี้แจงสิทธิและเงื่อนไขให้ลูกหนี้ทราบอย่างชัดเจน ว่าหากลูกหนี้ชะลอการชำระต้นและดอกเบี้ยอาจจะไม่สามารถเบิกใช้สินเชื่อใหม่ได้ แต่หากลูกหนี้ต้องการหมุนเวียนบัญชีต่อไปและสามารถเบิกใช้วงเงินดังกล่าวต่อไปได้ ลูกหนี้จะต้องยินยอมให้หักชำระหนี้ P/N ด้วย

    24. กรณีลูกหนี้มีวงเงินที่ลูกหนี้เบิกใช้ไม่เต็มวงเงิน ลูกหนี้สามารถเบิกใช้วงเงินเพิ่มเติมในขณะที่ชะลอการชำระหนี้ได้หรือไม่

    • ​ลูกหนี้ได้รับการชะลอการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย โดยใช้ยอดหนี้ ณ วันที่ พ.ร.ก. มีผลบังคับใช้ (19 เมษายน 2563)หากมีการเบิกใช้วงเงินเพิ่มเติมหลังวันที่ 19 เมษายน 2563 ยอดหนี้ที่เบิกใช้เพิ่มเติมจะไม่ได้รับสิทธิชะลอการชำระหนี้ตาม พ.ร.ก.
    • สำหรับกรณีวงเงินเบิกเกินบัญชีที่ยังเบิกใช้ไม่เต็มวงเงิน หากลูกหนี้ต้องการหมุนเวียนบัญชีต่อไปลูกหนี้ก็สามารถเบิกใช้วงเงินเพิ่มเติมตามสิทธิโดยสถาบันการเงินอาจคิดดอกเบี้ยได้ หากลูกหนี้เบิกใช้สินเชื่อจนเต็มวงเงินในระหว่างมาตรการนี้ ให้ชะลอการชำระหนี้โดยไม่ถือว่าผิดนัดชำระหนี้ สถาบันการเงินอาจนำสินเชื่อดังกล่าวตั้งพักโดยนำดอกเบี้ยทบต้นได้แต่ต้องชี้แจงให้ลูกหนี้เข้าใจเงื่อนไขอย่างชัดเจน ทั้งนี้ สถาบันการเงินอาจพิจารณาแปลงสินเชื่อ O/Dดังกล่าวเป็น term loan โดยไม่นำดอกเบี้ย ที่ชะลอการชำระมาทบเป็นเงินต้นเพื่อคำนวณดอกเบี้ยได้

    25. ลูกหนี้ที่เข้ามาตรการชะลอการชำระหนี้จะได้รับสิทธิชะลอการชำระหนี้ทุกบัญชีที่เป็นสินเชื่อธุรกิจ แต่ในบางบัญชีซึ่งสถาบันการเงินทราบการรับเงินที่ชัดเจนของลูกหนี้ซึ่งหากไม่ตัดชำระหนี้อาจส่งผลให้ลูกหนี้นำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ สถาบันการเงินยังคงควบคุมการชำระตามเงื่อนไขปกติได้หรือไม่ ตัวอย่างเช่น

    ​

    ​การพิจารณาเป็นไปตามสิทธิของสถาบันการเงินที่กำหนดไว้ตามสัญญา

    ​25.1 ลูกหนี้มีวงเงินที่รับตามรายการที่ชัดเจน (transaction base) เช่น รับเงินค่างานรับเหมาตามงวด

    ​25.1 กรณีมีการทำสัญญาโอนสิทธิการรับเงินจากลูกหนี้เป็นของสถาบันการเงิน เช่น การโอนสิทธิการรับเงินค่างานการก่อสร้างทางจากหน่วยงานราชการมาให้สถาบันการเงิน ถือว่า เงินที่หน่วยงานราชการจ่ายเข้ามาที่สถาบันการเงิน เป็นสิทธิของสถาบันการเงินที่สามารถรับชำระหนี้ได้ ซึ่งจะส่งผลต่อการไปหักลดหนี้ของลูกหนี้ที่มีกับสถาบันการเงินด้วย

    25.2 ลูกหนี้ใช้วงเงิน L/C, T/R นำเข้าสินค้าเพื่อขายตามสัญญา และรับเงินตามสัญญา หรือ Packing Credit ซึ่งเมื่อส่งออกไปแล้ว มีการเรียกเก็บเงินแล้ว​

    ​25.2 สถาบันการเงินมีสิทธิในการนำเงินที่ผู้ซื้อสินค้าหรือลูกหนี้ทางการค้าชำระค่าสินค้าผ่านสถาบันการเงินไปหักชำระหนี้ที่มีอยู่ที่สถาบันการเงินตามข้อสัญญาของสินเชื่อหมุนเวียน อันได้แก่ สินเชื่อเพื่อการส่งออก (Packing Credit) สินเชื่อผู้จัดจำหน่ายรถ (Floor Plan) หรือสินเชื่อที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีเงื่อนไขในสัญญาให้สิทธิแก่สถาบันการเงินในลักษณะเดียวกับสินเชื่อดังกล่าว แต่หากเป็นกรณีที่ไม่ได้รับชำระค่าสินค้า ลูกหนี้ทางการค้าก็ยังคงได้รับการชะลอหนี้เช่นเดิม  ตามประกาศ ธปท. ที่ สกส.1. 5/2563 เรื่องการชะลอการชำระหนี้แก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ฉบับที่ 2) 

    25.3 ลูกหนี้สินเชื่อเพื่อโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เมื่อลูกหนี้ขายโครงการได้และรับเงินจากผู้ซื้อ​

    ​25.3 กรณีที่ลูกหนี้ร้องขอให้มีการปลอดจำนองเพื่อนำหลักประกันไปขายให้กับผู้ซื้อ หากมีการกำหนดเงื่อนไขให้มีการจ่ายชำระค่าหลักประกันก่อน สถาบันการเงิน สามารถขอให้ลูกหนี้ชำระหนี้ในส่วนของหลักประกันที่ขายได้ เพื่อมิให้สถาบันการเงินเสียสิทธิในการปลอดหลักประกัน

    26. การชะลอการชำระหนี้ตามมาตรการนี้ ไม่ถือว่าเป็นการผ่อนเวลาให้ลูกหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หมายถึง มาตรการนี้สามารถขยายระยะเวลาเงินกู้ได้ โดยผู้ค้ำประกันและ
    ผู้จำนองไม่ต้องลงนามสัญญาใช่หรือไม่ ​

    ​การชะลอการชำระหนี้ตามมาตรการนี้ หากสถาบันการเงินขยายเวลาออกไปไม่เกิน 6 เดือน นับจากวันสิ้นสุดสัญญาเดิม ไม่ถือว่าเป็นการผ่อนเวลาให้แก่ลูกหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงไม่ต้องให้ผู้ค้ำประกันและผู้จำนองลงนาม

    27. หากลูกหนี้รายใดในกลุ่มไม่ประสงค์จะชะลอการชำระหนี้จะปฏิบัติเช่นไร เช่น ให้คิดเพียงรายลูกหนี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือ หรือกรณีลูกหนี้มีสินเชื่อหลายประเภท แต่ประสงค์จะชะลอการชำระหนี้เป็นรายประเภทของสินเชื่อ สามารถปฏิบัติได้หรือไม่ เช่น นาย ก มีสินเชื่อระยะยาว (term loan) และ สินเชื่อ T/R แต่ประสงค์จะชะลอการชำระหนี้เฉพาะสินเชื่อ term loan เท่านั้น​

    ​ลูกหนี้มีสิทธิเลือกชำระเงินต้นและดอกเบี้ยในระหว่างมาตรการชะลอการชำระหนี้ โดยสถาบันการเงินต้องชี้แจงสิทธิและเงื่อนไขดังกล่าวให้ลูกหนี้ทราบอย่างชัดเจน ทั้งนี้ ธปท. ส่งเสริมให้ลูกหนี้ที่ยังมีศักยภาพชำระหนี้ตามเงื่อนไขเดิม

    28. การชะลอการชำระหนี้ให้กับลูกค้าทุกรายหรือไม่ ต้องแจ้งรับสิทธิผ่านช่องทางใด หากประสงค์ชำระค่างวดปกติสามารถทำได้หรือไม่ ต้องทำอย่างไร​

    ​ ให้ชะลอการชำระหนี้แก่ธุรกิจที่มีวงเงินต่อกลุ่มไม่เกิน 100 ล้านบาท ต่อ สถาบันการเงินโดยอัตโนมัติทุกราย ซึ่งไม่ต้องแจ้งรับสิทธิ แต่หากลูกหนี้ประสงค์จะชำระค่างวดปกติ สามารถทำได้สถาบันการเงินต้องสื่อสารให้ลูกหนี้ทราบแนวปฏิบัติอย่างชัดเจน ทั้งนี้ หากลูกหนี้ชำระค่างวดในระหว่างที่สถาบันการเงินชะลอการชำระหนี้ ไม่ถือว่าลูกหนี้สละสิทธิ (หากลูกหนี้ชำระเงินเข้ามาแล้วต่อมาไม่ชำระภายใน 6 เดือน ให้ถือว่าลูกหนี้ใช้สิทธิที่เหลือไม่ถือว่าลูกหนี้ผิดนัดชำระ)

    29. สถาบันการเงินสามารถรับรู้รายได้ในช่วง loan payment holiday ได้หรือไม่​

    ​สถาบันการเงินยังคงรับรู้รายได้ดอกเบี้ยได้ตามปกติ แต่ยังไม่สามารถเรียกเก็บจากลูกหนี้ได้ ภายหลังครบระยะเวลาชะลอการชำระหนี้ ให้สถาบันการเงินเรียกเก็บดอกเบี้ยและเงินต้นตามเงื่อนไขที่ตกลงกับลูกหนี้ แต่ไม่สามารถนำดอกเบี้ยทบเป็นเงินต้นเพื่อคำนวณดอกเบี้ยได้ หากไม่ใช่สัญญาสินเชื่อประเภทที่ให้คิดดอกเบี้ยทบต้นอยู่แล้ว

    30. การนับวันค้างชำระในระหว่างชะลอการชำระหนี้ทำอย่างไร ​

    หยุดนับวันค้างชำระในช่วงเวลา 6 เดือนตามมาตรการนี้ (23 เมษายน - 22 ตุลาคม 2563) รวมถึงคงสถานะการจัดชั้นเมื่อครบ 6 เดือนตามมาตรการ ให้สถาบันการเงินนับวันค้างชำระต่อเนื่องจากวันก่อนที่ประกาศ ธปท.มีผลใช้บังคับ ทั้งนี้ ให้พิจารณาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามศักยภาพของลูกหนี้ และชะลอการบังคับคดี

    31. สถาบันการเงินต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ให้ผู้ประกอบธุรกิจถือปฏิบัติตามประกาศที่ ธปท.ฝนส.(01) ว.380/2563 หรือไม่ เช่น ไม่สามารถเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราผิดนัด หรือค่าบริการ ค่าปรับ อันเนื่องจากการชะลอการชำระหนี้​

    ​สถาบันการเงินไม่สามารถเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราผิดนัด หรือค่าบริการ ค่าปรับ อันเนื่องมาจากการชะลอการชำระหนี้ตาม พ.ร.ก. ฉบับนี้ ถือว่าลูกหนี้ไม่ผิดนัด

    32. กรณีลูกหนี้เป็น NPL ภายหลังวันที่ 31 ธันวาคม 2562 แต่สถาบันการเงินยื่น notice เพื่อเรียกหนี้คืนทั้งจำนวนแล้วไปแล้วก่อน พ.ร.ก. บังคับใช้ สถาบันการเงินต้องหยุด legal process ทั้งหมด หรือยังดำเนินการต่อได้ในช่วงระหว่างพัก 6 เดือน​

    ​การชะลอการชำระหนี้ ตาม พ.ร.ก. ไม่กระทบสิทธิของสถาบันการเงินในการใช้สิทธิเรียกร้องในทางคดีกับผู้ประกอบวิสาหกิจรายที่เลิกกิจการหรือรายที่มีพฤติการณ์ทุจริตเพื่อให้ได้เงินสินเชื่อสถาบันการเงิน ตามประกาศ ธปท. ที่ สกส. 1.3/2563 ข้อ 4.2.1

    33. ในช่วงชะลอชำระหนี้ สถาบันการเงินสามารถติดตามทวงถามหนี้ได้หรือไม่ ทั้งกรณีออกเป็นหนังสือทวงหนี้และโทรศัพท์ทวงถาม หากไม่สามารถทำได้ สถาบันการเงินควรปฏิบัติอย่างไร ในการพูดคุยกับลูกหนี้ให้มาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เช่น หากโทรหาลูกหนี้ต้องมีคำแถลงสิทธิลูกหนี้ก่อน​

    ​ สถาบันการเงินไม่สามารถติดตามทวงถามหนี้ได้ในระหว่างช่วงชะลอการชำระหนี้ที่ให้กับลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติตามมาตรการโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ดี สถาบันการเงินสามารถแจ้งลูกหนี้ได้ว่ามีสิทธิชะลอชำระหนี้ตาม พ.ร.ก. แต่หากลูกหนี้ชำระหนี้จะได้ประโยชน์ใดบ้าง

    34. สถาบันการเงินสามารถโทรศัพท์ติดต่อลูกค้าเพื่อแจ้งดอกเบี้ยรายเดือนและวันครบกำหนดให้ลูกค้ารับทราบได้หรือไม่ ในกรณีที่ลูกค้าเลือกที่จะจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยระหว่างชะลอการชำระหนี้​

    ​สถาบันการเงินสามารถแจ้งดอกเบี้ยรายเดือนและวันครบกำหนดให้ลูกหนี้รับทราบได้ในกรณีที่ลูกหนี้เลือกที่จะจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยระหว่างชะลอการชำระหนี้ โดยลูกหนี้สามารถขอไม่รับสิทธิชะลอการชำระหนี้หรือขอจ่ายบางส่วนได้ แต่ต้องไม่มีข้อความใดเกี่ยวกับการทวงถามหนี้

    35. มาตรการชะลอชำระหนี้สำหรับสินเชื่อหมุนเวียน เช่น P/N T/R จะมีวิธีดำเนินการอย่างไร (ต้องออกตั๋วใหม่หรือไม่) ​

    ​สถาบันการเงินอาจชะลอการชำระหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงินโดยการ roll over ออกไป โดยไม่เรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยในระยะ 6 เดือนตามที่ พ.ร.ก. กำหนด

    36. กรณีที่ลูกหนี้มีการชำระมาในช่วงชะลอการชำระหนี้ สถาบันการเงินสามารถนำไปตัดชำระหนี้ตามลำดับที่สถาบันการเงินปฏิบัติอยู่ใช่หรือไม่​

    ​สถาบันการเงินสามารถนำเงินที่ลูกหนี้ชำระมาในช่วงชะลอการชำระหนี้ไปตัดชำระหนี้ตามเงื่อนไขที่ตกลงกับลูกหนี้ ทั้งนี้ หากลูกหนี้ชำระค่างวดในระหว่างที่สถาบันการเงินชะลอการชำระหนี้ ไม่ถือว่าลูกหนี้สละสิทธิ (หากลูกหนี้ชำระเงินเข้ามาแล้วต่อมาไม่สามารถชำระได้ หากยังอยู่ภายในระยะเวลา 6 เดือนที่ พ.ร.ก. กำหนดให้ชะลอการชำระหนี้ได้ ให้ถือว่าลูกหนี้ใช้สิทธิเดือนที่เหลือ โดยไม่ถือว่าลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้)

    37. การชะลอชำระหนี้ตามมาตรการนี้ ไม่ถือว่าเป็นการผ่อนเวลาให้แก่ลูกหนี้ตาม ปพพ. จึงไม่ต้องให้ผู้ค้ำประกันลงนาม ตามพระราชกำหนดนี้ไม่จำเป็นต้องแก้ไขข้อตกลงหากขยายระยะเวลาซึ่งผู้ค้ำประกันไม่จำเป็นต้องลงนาม / ยินยอม กรณีนี้ครอบคลุมผู้จำนองที่เป็นบุคคลภายนอก (ผู้กู้กับผู้จำนองอาจเป็นคนละคนกัน) หรือไม่ ​

    ​ ผู้จำนองมีฐานะเป็นผู้ค้ำประกันตามกฎหมาย ดังนั้น พ.ร.ก.จึงมีผลครอบคลุมไปถึงผู้จำนองด้วย

    38. หากสถาบันการเงินชะลอการชำระหนี้ 6 เดือน (เมษายน - ตุลาคม) และลูกค้าชำระ 2 เดือน (เมษายน - พฤษภาคม) ระยะเวลาของลูกค้าจะขยายเป็นเดือนธันวาคมหรือยังคงเดิมที่เดือนตุลาคม ​

    ​ให้สถาบันการเงินชะลอการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยของผู้ประกอบวิสาหกิจเป็นระยะเวลา 6 เดือน นับแต่วันถัดจากวันที่ลงประกาศนี้ ตามประกาศ ธปท. ที่ สกส 1.3/2563 ข้อ 4.2.1

    39. หากลูกหนี้ได้รับการชะลอชำระหนี้ตามมาตรการครอบคลุม soft loan ของธนาคารออมสินด้วยสถาบันการเงินยังต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคารออมสินแทนลูกค้าในช่วงชะลอการชำระหนี้ตาม พ.ร.ก หรือไม่​

    ​ลูกหนี้ได้รับสิทธิชะลอการชำระหนี้โดยอัตโนมัติตาม พ.ร.ก. แต่สถาบันการเงินยังคงมีภาระต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคารออมสินตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญา

    40. กรณีที่สถาบันการเงินอนุมัติวงเงินกับลูกค้าภายหลังที่ พ.ร.ก. มีผลบังคับใช้ หรือวงเงินที่สถาบันการเงินอนุมัติก่อนที่ พ.ร.ก. มีผลบังคับใช้ แต่ลูกค้าเบิกใช้ภายหลังที่ พ.ร.ก. มีผลบังคับใช้ ลูกค้าสามารถชะลอการชำระหนี้ได้หรือไม่​

    ​ลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติตามที่ พ.ร.ก. กำหนด สามารถเข้าร่วมมาตรการชะลอการชำระหนี้ ตามยอดหนี้ที่มีกับสถาบันการเงิน ณ วันที่ พ.ร.ก. มีผลบังคับใช้

    41. ตามมาตรการชะลอการชำระหนี้สถาบันการเงินจำเป็นต้องทำสัญญาแนบท้ายสัญญากู้กับลูกหนี้และ ผู้ค้ำประกันหรือไม่​

    ​ ไม่จำเป็น เพราะตาม พ.ร.ก. สถาบันการเงินจะต้องชะลอการชำระหนี้ให้กับลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติสามารถเข้ามาตรการโดยอัตโนมัติทุกราย ซึ่งลูกหนี้ไม่ต้องแจ้งรับสิทธิ

    42. รายการสินเชื่อที่ใช้ดอกเบี้ยอ้างอิง เมื่อทำการขยายระยะเวลา 6 เดือนสำหรับธุรกรรมสินเชื่อ trade finance สถาบันการเงินจะคิดดอกเบี้ยด้วยอัตราดอกเบี้ยอัตราก่อนหน้า (previous interest) การขอชะลอการชำระหนี้ใช่หรือไม่​

    ​สถาบันการเงินยังคงรับรู้รายได้ดอกเบี้ยได้ตามปกติตามเงื่อนไขที่ตกลงกับลูกหนี้ โดยหากสถาบันการเงินตกลงกับลูกหนี้ใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงก่อนวันที่ประกาศ ธปท. มีผลบังคับใช้ สถาบันการเงินต้องรับรู้รายได้ดอกเบี้ยในอัตราอ้างอิงต่อไป โดยไม่ใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ณ วันที่ประกาศ ธปท. มีผลบังคับใช้เป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลาชะลอการชำระหนี้ 6 เดือน

    43. กรณีลูกหนี้ผิดนัดและถูกคิดดอกเบี้ยด้วยอัตราดอกเบี้ยผิดนัดอยู่ก่อนวันเริ่มชะลอการชำระหนี้ ในช่วงชะลอการชำระหนี้ 6 เดือนนี้ ให้สถาบันการเงินคิดอัตราดอกเบี้ยอย่างไร (คิดอัตราปกติด้วย คิดอัตราผิดนัดต่อเนื่องด้วยหรือไม่)​

    ​ สถาบันการเงินไม่สามารถเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราผิดนัด หรือค่าบริการ ค่าปรับ อันเนื่องมาจากการชะลอการชำระหนี้ตาม พ.ร.ก. ฉบับนี้ไม่ถือว่าผิดนัดชำระหนี้

    44. กรณีชะลอการชำระหนี้ตั๋ว P/N ซึ่งมีเงื่อนไขชำระดอกเบี้ย ณ วันที่ออกตั๋ว (P/N discount) ส่วนที่ขยายระยะเวลาครบกำหนดชำระออกไป ยังสามารถคิดดอกเบี้ยจากลูกหนี้ได้หรือไม่​

    ​ สถาบันการเงินยังคงรับรู้รายได้ดอกเบี้ยได้ตามปกติ แต่ยังไม่สามารถเรียกเก็บจากลูกหนี้ได้ ทั้งนี้ ภายหลังครบระยะเวลาชะลอการชำระหนี้ ให้สถาบันการเงินเรียกเก็บดอกเบี้ยและ เงินต้นตามเงื่อนไขที่ตกลงกับลูกหนี้

    45. สถาบันการเงินจะต้องมีการทำ soft reminder call หรือ verify กิจการลูกค้าว่ายังดำเนินการอยู่ได้โดยปกติในช่วงระหว่างชะลอการชำระหนี้หรือไม่​

    ​ สถาบันการเงินสามารถติดตามเพื่อตรวจสอบว่ากิจการของลูกหนี้ยังดำเนินการตามปกติได้ อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินไม่สามารถติดตามทวงถามหนี้ได้ในระหว่างช่วงชะลอการชำระหนี้ที่ให้กับลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติตามมาตรการโดยอัตโนมัติ

    46. กรณีขายลดเช็คหรือตั๋วสัญญาใช้เงิน หากครบกำหนดสัญญาในช่วงมาตรการชะลอการชำระหนี้สถาบันการเงินยังสามารถนำส่งเช็คเพื่อ clearing ตามปกติได้หรือไม่ และสถาบันการเงินต้องเรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ย ณ วันสิ้นสุดชะลอการชำระหนี้อย่างไร​

    ​ หากการขายลดเช็คหรือตั๋วสัญญาใช้เงินที่ลูกหนี้เป็นผู้ออกเข้าข่ายการชะลอชำระหนี้ตาม พ.ร.ก. นี้ ลูกหนี้สามารถชะลอการชำระหนี้ได้อัตโนมัติ หากลูกหนี้ประสงค์จะชำระค่างวดปกติ สามารถทำได้ สถาบันการเงินต้องสื่อสารให้ลูกหนี้ทราบแนวปฏิบัติอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม หากการขายลดเช็คหรือตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวเป็นตั๋วการค้าที่บุคคลอื่นเป็นผู้ออก ไม่เข้าข่ายการชะลอชำระหนี้ตาม พ.ร.ก. สถาบันการเงินสามารถ clearing ระหว่างสถาบันการเงินได้ตามปกติ

    47. หลังจากวันที่ พ.ร.ก. มีผลบังคับใช้ หากลูกหนี้เบิกสินเชื่อเพิ่ม ภาระหนี้ใหม่ที่เกิดขึ้นสามารถเข้ามาตรการ loan payment holiday ได้หรือไม่​

    ​ยอดหนี้ใหม่ที่เกิดขึ้นภายหลัง พ.ร.ก. มีผลบังคับใช้ ไม่อยู่ในข่ายได้รับการชะลอชำระหนี้ตาม พ.ร.ก. นี้

    48. ลูกหนี้ที่ตกลงให้สถาบันการเงินตัดเงินในบัญชีลูกหนี้อัตโนมัติ ในช่วงชะลอการชำระหนี้จะต้องมีกระบวนการอย่างไร ​

    ​สถาบันการเงินต้องสื่อสารให้ลูกหนี้ทราบสิทธิชะลอการชำระหนี้อย่างชัดเจน หากลูกหนี้ประสงค์ให้ตัดชำระหนี้โดยอัตโนมัติ สถาบันการเงินสามารถดำเนินการตัดชำระหนี้ในช่วงชะลอการชำระหนี้ได้ ทั้งนี้ สถาบันการเงินควรมีหลักฐานที่เพียงพอว่าลูกหนี้ให้ความยินยอมในการตัดชำระหนี้เพื่อป้องกันข้อร้องเรียนจากลูกหนี้ในภายหลัง หากลูกหนี้ไม่แจ้งความประสงค์ ให้สถาบันการเงินชะลอการชำระหนี้โดยอัตโนมัติ

    49. หากสถาบันการเงินทำสัญญาให้กู้ยืมกับลูกหนี้ที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจที่จะมีรายได้ตามช่วงเวลา เช่น กรณีลูกหนี้เป็นฟาร์มเลี้ยงสุกรที่มีรายได้ตามรอบการเติบโตและขายสุกร จะมีงวดในการจ่ายชำระหนี้ทุก 3 เดือน จะนับช่วงเวลาในการได้รับชะลอการชำระหนี้อย่างไร​

    ให้สถาบันการเงินชะลอการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยของลูกหนี้เป็นระยะเวลา 6 เดือนนับจากวันที่ ธปท. ประกาศกำหนด ดังนั้น หากในระยะเวลา 6 เดือนนั้น ลูกหนี้มีงวดในการชำระ 2 งวด ก็สามารถชะลอการชำระหนี้ได้ 2 งวด เป็นต้น

    50. กรณีที่ธนาคารออกหนังสือค้ำประกัน (L/G) ให้กับลูกค้าแล้ว ระหว่างที่ พ.ร.ก. มีผลบังคับใช้อยู่ ผู้รับหนังสือค้ำประกันเรียกร้องให้ธนาคารชำระเงินแทนตามภาระที่ระบุในหนังสือค้ำประกัน ธนาคารสามารถชดใช้แทนได้หรือไม่​

    ​สถาบันการเงินสามารถจ่ายชำระเงินแทนตามภาระที่ระบุในหนังสือค้ำประกันได้ ทั้งนี้ ยอดหนี้ใหม่ที่เกิดขึ้นภายหลังที่ประกาศ ธปท. มีผลบังคับใช้ ไม่อยู่ในข่ายได้รับการชะลอชำระหนี้ตาม พ.ร.ก. นี้

    51. สินเชื่อ O/D ตามที่ ธปท. ชี้แจงว่า ลูกหนี้ยังสามารถเบิกใช้วงเงิน O/D จนกว่าจะเต็มวงเงิน จึงจะชะลอการชำระหนี้ ทั้งนี้ เนื่องจากวงเงิน O/D เป็นการคิดดอกเบี้ยแบบทบต้นในระหว่างเบิกใช้วงเงิน จึงขอทราบว่าในการกำหนดให้ระบบเริ่มต้นพักชำระหนี้แก่ลูกหนี้ จะกำหนดที่ ณ จุดใด ​

    ให้สถาบันการเงินชะลอการชำระหนี้เมื่อลูกหนี้เบิกใช้สินเชื่อ O/D เต็มวงเงินแล้ว โดยไม่ถือว่าผิดนัดชำระหนี้ สถาบันการเงินสามารถคิดดอกเบี้ยทบต้นได้ในช่วงที่ชะลอการชำระหนี้แต่ต้องชี้แจงให้ลูกหนี้เข้าใจเงื่อนไขอย่างชัดเจน ทั้งนี้ สถาบันการเงินอาจพิจารณาแปลงสินเชื่อ O/Dดังกล่าวเป็น term loan โดยไม่นำดอกเบี้ยที่ชะลอการชำระหนี้มาทบเป็น เงินต้นเพื่อคำนวณดอกเบี้ยก็ได้

    52. การดำเนินการทางกฎหมายกับลูกหนี้ ​

    52.1 หากสถาบันการเงินสืบทราบได้แน่ชัดว่าลูกหนี้มีเจตนาไม่ชำระหนี้คืนเมื่อครบกำหนดชะลอการชำระหนี้ เช่น ลูกหนี้ปิดกิจการและติดต่อไม่ได้ หรือ ลูกหนี้ต้องคดีที่ส่งผลต่อการชำระหนี้คืน (ฉ้อโกง ยาเสพติด เป็นต้น) หรือไม่สามารถชำระหนี้คืนได้อีก เช่น เสียชีวิต หรือปิดกิจการ สถาบันการเงินสามารถดำเนินการตามขั้นตอนปกติในการ collection process ได้หรือไม่ โดยไม่ต้องรอครบกำหนด 6เดือน

    52.1. ในช่วงชะลอการชำระหนี้ 6 เดือน ตาม พ.ร.ก. สถาบันการเงินสามารถใช้สิทธิเรียกร้องในทางคดีกับผู้ประกอบวิสาหกิจรายที่เลิกกิจการหรือรายที่มีพฤติการณ์ทุจริตเพื่อให้ได้เงินสินเชื่อสถาบันการเงิน ตามประกาศ ธปท. ที่ สกส. 1.3/2563 ข้อ 4.2.1

    52.2 หากลูกหนี้ผิดนัด สามารถคิดดอกเบี้ยผิดนัดหรือไม่​

    ​52.2 การชะลอการชำระหนี้มิให้ถือว่าลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้จึงไม่สามารถคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระได้

    ​53. หากลูกหนี้มีวงเงินกับสถาบันการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 แต่ไม่มียอดหนี้ ต่อมาในเดือนมกราคม 2563 ลูกหนี้เบิกใช้วงเงิน ลูกหนี้ยังคงได้รับสิทธิชะลอการชำระหนี้หรือไม่

    ​หากลูกหนี้มีวงเงินกับธนาคาร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 และมีคุณสมบัติตามประกาศ ธปท. ที่ สกส1. 3/2563 ลูกหนี้ยังคงได้รับสิทธิในการชะลอการชำระหนี้โดยใช้ยอดหนี้ ณ วันที่ พ.ร.ก. มีผลใช้บังคับ (19 เมษายน 2563) แต่เริ่มชะลอการชำระหนี้ตั้งแต่วันที่ประกาศ ธปท. มีผลบังคับใช้ (23 เมษายน 2563)

    54. ​มาตรการชะลอการชำระหนี้มีผลบังคับใช้วันที่ 23 เมษายน 2563 แต่ลูกหนี้มีงวดการชำระดอกเบี้ยทุกสิ้นเดือนเมษายน ลูกหนี้ยังคงต้องชำระดอกเบี้ยของวันที่ 1-22 เมษายน หรือไม่

    ​หากลูกหนี้ชำระค่างวดทุกสิ้นเดือน ลูกหนี้ได้รับสิทธิชะลอการชำระหนี้ตั้งแต่งวดเดือนเมษายน 2563 จนถึงงวดเดือนกันยายน 2563 โดยสถาบันการเงินยังคงรับรู้รายได้ดอกเบี้ยได้ตามปกติและสามารถเรียกเก็บดอกเบี้ยปกติได้ในงวดเดือนตุลาคม 2563 อย่างไรก็ตาม การเรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยที่คิดคำนวณในช่วงชะลอการชำระหนี้ให้สถาบันการเงินใช้วิธีที่จะไม่สร้างภาระกับผู้ประกอบวิสาหกิจมากจนเกินไป โดยไม่ให้เรียกเก็บเป็นเงินก้อนในครั้งเดียว
    เมื่อสิ้นระยะเวลาชะลอการชำระหนี้ ทั้งนี้ สถาบันการเงินสามารถเรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยดังกล่าวภายหลังจากที่พ้นระยะเวลาการชะลอการชำระหนี้ด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งหรือหลายวิธีการรวมกันตามที่ได้ตกลงกับลูกหนี้ ตามประกาศ ธปท. ที่ สกส.1.3/2563 ข้อ 4.3

    55. ​สถาบันการเงินสามารถชะลอการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย ณ วันที่ 30 เมษายน 2563 ได้หรือไม่ เนื่องจากระบบของสถาบันการเงินจะคำนวณดอกเบี้ยทุกสิ้นเดือน หากคิดยอดหนี้ ณ วันที่ 19 เมษายน 2563 จะมีแต่เฉพาะเงินต้นเท่านั้น

    ​สถาบันการเงินต้องเริ่มชะลอการชำระหนี้ตั้งแต่วันที่ประกาศ ธปท. มีผลบังคับใช้ (23 เมษายน 2563) โดยใช้ยอดหนี้ ณ วันที่ พ.ร.ก. มีผลใช้บังคับ (19 เมษายน 2563)
    ทั้งนี้ ดอกเบี้ยที่คำนวณ ณ วันที่ 30 เมษายน 2563 จะได้รับชะลอการชำระหนี้ด้วย เนื่องจากดอกเบี้ยดังกล่าวคำนวณบนยอดหนี้ที่ได้รับการชะลอชำระหนี้ ณ วันที่ 19 เมษายน 2563

    ​56. หากสถาบันการเงินให้สินเชื่อประเภทเงินทุนหมุนเวียนแบบไม่มีหลักประกันกับลูกหนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อชำระค่าสินค้า และการเบิกใช้วงเงินมีเอกสารอ้างอิงชัดเจน เช่น ใช้เงินกู้เพื่อชำระค่ารถยนต์ จะต้องมี invoice กำกับประกอบการเบิกใช้วงเงินดังกล่าว เมื่อลูกหนี้ต้องการเบิกใช้วงเงินเพื่อซื้อรถยนต์จาก supplier สถาบันการเงินจะโอนเงินสินเชื่อให้กับ supplier ของลูกหนี้โดยตรง ซึ่งเมื่อครบกำหนดชำระ ลูกหนี้จะต้องนำเงินมาชำระหนี้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยแก่สถาบันการเงิน โดยสถาบันการเงินไม่ได้ระบุในข้อสัญญาว่าเมื่อลูกหนี้ขายรถยนต์ได้ ลูกหนี้จะต้องนำเงินมาชำระสถาบันการเงินโดยทันทีในช่วงชะลอการชำระหนี้ หากลูกหนี้มีการขายรถยนต์คันที่ระบุใน invoice ในคราวที่ขอเบิกเงินกู้ สถาบันการเงินสามารถให้ลูกหนี้ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยได้หรือไม่

    ​ลูกหนี้ได้รับสิทธิชะลอการชำระหนี้ อย่างไรก็ดี สถาบันการเงินอาจเจรจากับลูกหนี้เมื่อมีเงินโอนเข้าบัญชีว่าลูกค้าประสงค์จะนำเงินส่วนดังกล่าวมาชำระเพื่อลดภาระหนี้และดอกเบี้ยที่มีหรือไม่

    ​57. การแปลงหนี้สกุลเงินต่างประเทศในช่วงชะลอการชำระหนี้

    ​57.1 ลูกหนี้มีสินเชื่อ T/R ครบกำหนดก่อนวันที่ พ.ร.ก. มีผลบังคับใช้ (19 เมษายน 2563) และไม่ได้ชำระหนี้ ตามเงื่อนไขในสัญญา สถาบันการเงินจะแปลงหนี้จากสกุลเงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาทและคิดอัตราดอกเบี้ยผิดนัด อย่างไรก็ตาม
    ลูกหนี้รายดังกล่าวได้รับสิทธิชะลอการชำระหนี้ ส่งผลให้สถาบันการเงินไม่สามารถคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระได้ในช่วงชะลอการชำระหนี้ ขอสอบถามว่า สถาบันการเงินต้องคิดดอกเบี้ยด้วยอัตราใดในช่วงชะลอการชำระหนี้

    57.2 กรณีสินเชื่อ T/R ครบกำหนดชำระในช่วงชะลอการชำระหนี้ สถาบันการเงินจะต้องแปลงหนี้เป็นสกุลเงินบาทตามปกติหรือไม่ และคิดดอกเบี้ยด้วยอัตราใดตั้งแต่หลังวันครบกำหนดชำระจนถึงวันสิ้นสุดการชะลอการชำระหนี้

    ​ให้สถาบันการเงินปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติงานปกติของสถาบันการเงิน และคิดดอกเบี้ยด้วยอัตราตามระเบียบปฏิบัติงานดังกล่าวตั้งแต่หลังวันครบกำหนดชำระจนถึงวันสิ้นสุด
    การชะลอการชำระหนี้ โดยสถาบันการเงินไม่สามารถเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราผิดนัด หรือค่าบริการ ค่าปรับ อันเนื่องมาจากการชะลอการชำระหนี้ตาม พ.ร.ก. ฉบับนี้ไม่ถือว่าผิดนัดชำระหนี้

    ​58. สถาบันการเงินรับซื้อตั๋วส่งออกประเภทจ่ายเมื่อเห็น (at sight) โดยได้จ่ายเงินให้ลูกหนี้เต็มจำนวน และมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย 7 วันนับจากวันที่รับซื้อ โดยปกติสถาบันการเงินจะจัดส่งเอกสาร export bill ไปเรียกเก็บเงินกับสถาบันการเงินผู้เปิด L/C (issuing bank) หาก issuing bank จ่ายเงินมาเกินวันที่ 7 ลูกหนี้จะต้องจ่ายดอกเบี้ย delayed payment interest ด้วยอัตรา MOR นับตั้งแต่วันที่ 8 จนถึงวันที่สถาบันการเงินได้รับเงินจาก issuing bank
    กรณีที่ลูกหนี้เข้ามาตรการชะลอการชำระหนี้ สถาบันการเงินสามารถคิดดอกเบี้ย delayed payment interest ด้วยอัตรา MOR ได้หรือไม่ และสามารถเรียกเก็บดอกเบี้ยจนถึงวันที่ลูกหนี้จ่ายเงินให้กับสถาบันการเงินได้หรือไม่

    ​สถาบันการเงินไม่สามารถคิดดอกเบี้ย delayed payment interest ดอกเบี้ยในอัตราผิดนัด หรือค่าบริการ ค่าปรับ อันเนื่องมาจากการชะลอการชำระหนี้ตาม พ.ร.ก. ฉบับนี้ไม่ถือว่าผิดนัดชำระหนี้ และสถาบันการเงินไม่สามารถเรียกเก็บดอกเบี้ยในช่วงชะลอการชำระหนี้ได้

    ​59. หากสถาบันการเงินและลูกหนี้ได้ตกลงสัญญาเงินกู้ยืมเพื่อแปลงตั๋ว P/N ที่ครบกำหนดชำระหนี้ในช่วงชะลอการชำระหนี้เป็น term loan สถาบันการเงินสามารถคิดดอกเบี้ยในอัตราใหม่และเรียกเก็บหนี้ตามสัญญาใหม่ในช่วงชะลอการชำระหนี้ได้หรือไม่

    ​กรณีสถาบันการเงินและลูกหนี้ได้ตกลงสัญญาเงินกู้ยืมเพื่อแปลงตั๋ว P/N ที่ครบกำหนดชำระหนี้ในช่วงชะลอการชำระหนี้เป็น term loanสถาบันการเงินสามารถคิดดอกเบี้ยในอัตราใหม่ที่สะท้อนความเสี่ยงตามประเภทสินเชื่อได้ โดยสถาบันการเงินต้องไม่เอาเหตุแห่งการชะลอการชำระหนี้มาเป็นปัจจัยในการคิดอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าเดิมจนเกินสมควร
    ทั้งนี้ สถาบันการเงินไม่สามารถเรียกเก็บหนี้ตามสัญญาใหม่ในช่วงชะลอการชำระหนี้ได้ เนื่องจากเป็นยอดหนี้เดิม ณ วันที่ 19 เมษายน 2563

    ​60. สถาบันการเงินจะใช้แนวปฏิบัติเกี่ยวกับวงเงินเบิกเกินบัญชี มาปรับใช้กับ corporate credit card ได้หรือไม่ กล่าวคือ หากลูกหนี้ต้องการใช้วงเงินต่อไป สถาบันการเงินสามารถคิดดอกเบี้ยได้และภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นภายหลังวันที่ 19 เมษายน 2563 ไม่เข้าข่ายชะลอหนี้

    ​สินเชื่อประเภท corporate credit card ได้รับสิทธิการชะลอการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย โดยใช้ยอดหนี้ ณ วันที่ พ.ร.ก. มีผลบังคับใช้ (19 เมษายน 2563) หากมีการเบิกใช้วงเงินเพิ่มเติมหลังวันดังกล่าว ยอดหนี้ที่เบิกใช้เพิ่มเติมจะไม่ได้รับสิทธิชะลอการชำระหนี้ อย่างไรก็ดี หากสถาบันการเงินไม่สามารถแยกวงเงิน corporate credit card สำหรับยอดหนี้ที่เกิดขึ้นหลังวันที่ 19 เมษายน 2563 ได้ สถาบันการเงินสามารถพิจารณาชะลอหนี้เพิ่มเติมได้ แต่จะไม่ได้รับสิทธิตาม พ.ร.ก. โดยขอให้สถาบันการเงินปฏิบัติตาม ป.พ.พ. ที่เกี่ยวข้องกับหลักประกันและผู้ค้ำประกัน ทั้งนี้ หากลูกหนี้ประสงค์จะชำระหนี้ตามปกติก็สามารถทำได้ สถาบันการเงินต้องสื่อสารให้ลูกหนี้ทราบแนวปฏิบัติอย่างชัดเจน

    03 การชำระหนี้ภายหลังมาตรการครบกำหนด

    61. การกำหนดเงื่อนไขการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยในช่วงที่ชะลอการชำระหนี้ เช่น

    61.1 กรณีลูกหนี้ยังไม่เป็น NPL ซึ่งมีดอกเบี้ยและเงินต้นค้างชำระไม่เกิน 90 วัน หรือ ลูกหนี้เป็น NPL และได้รับสิทธิชะลอการชำระหนี้ 6 เดือน การดำเนินการกับสินเชื่อระยะสั้น เช่น เงินทุนหมุนเวียน สถาบันการเงินจะดำเนินการกับลูกหนี้ภายหลังสิ้นสุดช่วงเวลาชะลอการชำระหนี้อย่างไร​

    61.1 การเรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยที่คิดคำนวณในช่วงชะลอการชำระหนี้ให้สถาบันการเงินใช้วิธีที่จะไม่สร้างภาระกับผู้ประกอบวิสาหกิจมากจนเกินไป โดยไม่ให้เรียกเก็บเป็นเงินก้อนในครั้งเดียวเมื่อสิ้นระยะเวลาชะลอการชำระหนี้ ทั้งนี้ สถาบันการเงินสามารถเรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยดังกล่าวภายหลังจากที่พ้นระยะเวลาการชะลอการชำระหนี้ด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งหรือหลายวิธีการรวมกันตามที่ได้ตกลงกับลูกหนี้ ตามประกาศ ธปท. ที่ สกส.1.3/2563 ข้อ 4.3

    61.2 กรณีการชะลอการชำระหนี้ของ term loan พ.ร.ก. ครอบคลุมนิติกรรมของสถาบันการเงินกับลูกหนี้ที่ระยะเวลาของสัญญากู้ยาวกว่าระยะเวลาที่ พ.ร.ก. กำหนดไว้ 6 เดือน หรือไม่

    61.2 ​สถาบันการเงินอาจพิจารณาขยายเวลาการชำระหนี้เสร็จสิ้นออกไปเพื่อให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้หลังจากฟื้นตัวจากวิกฤตแล้ว โดยหากสถาบันการเงินขยายเวลาออกไปไม่เกิน 6 เดือน นับจากวันสิ้นสุดสัญญาเดิม ให้ถือว่าไม่เป็นการผ่อนเวลาตาม พ.ร.ก. ทั้งนี้ ขอให้สถาบันการเงินเก็บหลักฐานข้อตกลงระหว่างลูกหนี้และสถาบันการเงินเรื่องวิธีการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย โดยสถาบันการเงินสามารถเลือกจัดทำเป็นบันทึกข้อตกลง สัญญา หรือวิธีอื่นใด เช่น จดหมาย SMS หรือ Email ได้ โดยสถาบันการเงินสามารถกำหนดช่วงเวลาให้ลูกหนี้เลือกวิธีการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยที่ชะลอไว้ หากลูกหนี้ไม่ตอบกลับภายในช่วงเวลาที่สถาบันการเงินกำหนด สถาบันการเงินสามารถเลือกวิธีดังกล่าวแทนลูกหนี้ได้ โดยขอให้สถาบันการเงินคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ รวมทั้งระยะเวลาชำระหนี้ที่เหลืออยู่ของสัญญาสินเชื่อเป็นสำคัญ และต้องแจ้งวิธีที่สถาบันการเงินเลือกเพื่อให้ลูกหนี้ยืนยันภายในช่วงเวลาที่สถาบันการเงินกำหนด หากลูกหนี้ไม่ตอบยืนยันวิธีดังกล่าว ให้ใช้วิธีที่สถาบันการเงินเลือกเป็นวิธีการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยที่ชะลอไว้

    ทั้งนี้ หากภายหลังลูกหนี้มีความประสงค์จะเปลี่ยนแปลงวิธีการชำระหนี้ ลูกหนี้สามารถแจ้งให้สถาบันการเงินเปลี่ยนแปลงได้

    62. กรณีชะลอการชำระหนี้ ลูกหนี้ที่ทำ TDR จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 เดือน ลูกหนี้สามารถชำระได้ 1 งวด ต่อมาเข้าเกณฑ์ชะลอการชำระหนี้ เมื่อสิ้นสุดช่วงการชะลอการชำระหนี้ 6 เดือน งวดที่ 7 ต้องปฏิบัติตามสัญญา TDR ต่อหรือไม่​

    ​ให้ถือว่าสัญญา TDR สะดุดหยุดลงในช่วงชะลอการชำระหนี้ หลังจากนั้นเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาชะลอการชำระหนี้แล้ว สถาบันการเงินสามารถเรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ย ตามเงื่อนไขที่สถาบันการเงินตกลงกับลูกหนี้ได้ โดยให้พิจารณาตามประกาศ ธปท. ที่ สกส.1.3/2563 ข้อ 4.3

    63. ลูกหนี้ธุรกิจวงเงินไม่เกิน 20 ล้านบาท ที่ได้รับอนุมัติให้ชะลอชำระเงินต้น 3 เดือนไปแล้ว ตามมาตรการ ธปท. 26 มีนาคม 63 จะต้องมีการดำเนินการอย่างไร ต้องเลือกมาตรการใดมาตรการหนึ่งหรือสามารถชะลอการชำระหนี้ต่อจากที่ได้รับอนุมัติเดิม และสิ้นสุดการชะลอชำระหนี้ตามมาตรการใหม่ได้หรือไม่ รวมถึงกรณีได้รับอนุมัติชะลอการชำระหนี้ 12 เดือน ตามมาตรการ ธปท. 28 กุมภาพันธ์ 2563 จะต้องดำเนินการอย่างไร​

    ​ลูกหนี้สามารถชะลอการชำระหนี้ต่อจากมาตรการเดิมได้ โดยมีระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ประกาศ ธปท. มีผลบังคับใช้ สำหรับกรณีได้รับอนุมัติชะลอการชำระหนี้ 12 เดือน ตามหนังสือที่ ธปท.ฝนส.(23)ว. 276/2563 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 เรื่อง แนวทางในการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย สถาบันการเงินสามารถชะลอการชำระหนี้เกินกว่าระยะเวลาตามที่ พ.ร.ก. กำหนดได้

    64. สถาบันการเงินสามารถกำหนดมาตรการตรวจสอบและข้อกำหนดกับลูกหนี้ในระหว่างพักชะลอการชำระหนี้หากลูกหนี้ไม่ปฏิบัติตาม สามารถเป็นเหตุแห่งการผิดนัด (event of default) ได้หรือไม่ในช่วงหลังครบ 6 เดือนแห่งการชะลอการชำระหนี้​

    ตามประกาศ ธปท. กำหนดให้ช่วง 6 เดือนเป็นช่วงชะลอการชำระหนี้ตาม พ.ร.ก.จึงไม่ถือเป็นเหตุแห่งการผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญา อย่างไรก็ดี ในช่วงชะลอการชำระหนี้ 6เดือน ตาม พ.ร.ก. สถาบันการเงินสามารถใช้สิทธิเรียกร้องในทางคดีกับผู้ประกอบวิสาหกิจรายที่เลิกกิจการหรือรายที่มีพฤติการณ์ทุจริตเพื่อให้ได้เงินสินเชื่อสถาบันการเงิน ตามประกาศ ธปท. ที่ สกส1. 3/2563ข้อ 4.2.1

    04 การจัดชั้นหนี้และการกันเงินสำรอง

    65. กรณีลูกหนี้ได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามปกติของสถาบันการเงิน และอยู่ระหว่างการ monitor หนี้ปรับโครงสร้างนี้สามารถเข้าร่วมชะลอการชำระหนี้เพิ่มเติมได้หรือไม่ ขอทราบแนวทางปฏิบัติในการเปลี่ยนการจัดชั้น เช่นจาก stage 2 ปรับเป็น stage 1 หากลูกหนี้สามารถกลับมาจ่ายค่างวดเดิมของการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ครบตาม monitoring period ​

    ​ ลูกหนี้สามารถเข้าร่วมชะลอการชำระหนี้เพิ่มเติมได้ โดยจัดชั้น stage เดิมก่อนเข้าร่วม สำหรับการเปลี่ยนการจัดชั้น หากมีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้หรือพิจารณาความสามารถ ในการชำระหนี้ของลูกหนี้เพิ่มเติมว่ามีความสามารถในการชำระหนี้ตามสัญญาหรือตามเงื่อนไขที่ตกลงกันได้ ให้สถาบันการเงินเปลี่ยนเป็น stage 1 ได้ โดยให้ถือปฏิบัติตามหนังสือที่ ธปท.ฝนส. (23) ว. 276/2563 เรื่อง แนวทางการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563

    66. ตาม พ.ร.ก. หากลูกหนี้ชะลอการชำระหนี้ ส่งผลให้ไม่มีการลดยอดหนี้เงินต้นในช่วง 6 เดือน สถาบันการเงินจะต้องตั้งสำรองเพิ่มตามเกณฑ์ ธปท. หรือไม่​

    ​ให้สถาบันการเงินจัดชั้นลูกหนี้ในชั้นเดิมก่อนการชะลอการชำระหนี้ตาม พ.ร.ก. โดยไม่ต้องตั้งสำรองเพิ่ม ทั้งนี้ หากมีการพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ตามหนังสือที่ ธปท.ฝนส.(23)ว. 276/2563 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 เรื่อง แนวทางในการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย สถาบันการเงินสามารถปรับการจัดชั้นลูกหนี้ stage 2 หรือ 3 (ดูใจ 3 เดือน) เป็น stage 1 ในระยะเวลาชะลอการชำระหนี้ได้

    67. กรณีที่ลูกค้าเป็น NPL หลังวันที่ 31 ธันวาคม 2562 (และก่อนการมีผลของ พ.ร.ก. นี้) ในช่วงชะลอการชำระหนี้สถาบันการเงินยังคงรายงานสถานะลูกหนี้ 020 (หนี้ค้างค้างเกิน 90 วัน) ต่อไปหรือไม่​

    ​ให้สถาบันการเงินจัดชั้นลูกหนี้ในชั้นเดิมก่อนการชะลอการชำระหนี้ตาม พ.ร.ก. อย่างไรก็ดี ในช่วงระยะเวลาชะลอการชำระหนี้ 6 เดือน สถาบันการเงินควรเข้าไปเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับลูกหนี้ ซึ่งจะได้รับการปรับการจัดชั้นตามหนังสือที่ ธปท.ฝนส.(23)ว. 276/2563 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 เรื่อง แนวทางในการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย

    ​68. สถาบันการเงินขอใช้ข้อมูลสถานะของชั้นหนี้และจำนวนวันผิดนัดชำระหนี้ของลูกหนี้ (Aging) ของลูกหนี้ที่เข้ามาตรการชะลอการชำระหนี้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 เพื่อทดแทนการใช้ข้อมูล ณ วันที่ 22 เมษายน 2563 ได้หรือไม่ รวมทั้ง หาก ธปท. อนุญาตให้สถาบันการเงินสามารถใช้ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 ได้ สถาบันการเงินจะต้องระบุหมายเหตุใน
    แบบรายงานต่างๆ ที่สถาบันการเงินต้องรายงานภายใต้มาตรการดังกล่าวนี้เพิ่มเติมหรือไม่

    ​เนื่องจากสถาบันการเงินมีระบบการจัดชั้น ณ วันสิ้นเดือน ดังนั้น สถาบันการเงินสามารถจัดชั้นหนี้ตามสถานะเดิมของลูกหนี้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 ได้ โดยภายหลังช่วงชะลอการชำระหนี้ สถาบันการเงินต้องนำจำนวนวันที่ค้างชำระเพิ่มในช่วงวันที่ 1-22 เมษายน 2563 มานับรวมด้วย อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินต้องรายงานจำนวนวันผิดนัดชำระหนี้ตั้งแต่วันที่ผิดนัดจนถึงวันที่ 22 เมษายน 2563 ต่อ NCB
    ทั้งนี้ ให้สถาบันการเงินระบุหมายเหตุในแบบรายงานต่างๆ ที่สถาบันการเงินต้องรายงานภายใต้มาตรการดังกล่าวเพิ่มเติม

    ​69. ภายหลังช่วงชะลอการชำระหนี้ หากลูกหนี้ไม่ผ่อนชำระตามเงื่อนไขที่ลูกหนี้ตกลงกับสถาบันการเงินตามประกาศ ธปท. ที่ สกส1. 3/2563 ข้อ 4.3 เรื่อง วิธีการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยที่ชะลอไว้ เช่น ตกลงผ่อนชำระรายเดือน เดือนละ 12,000 บาท แต่ลูกหนี้ชำระผ่อนเพียง 10,000 บาท ซึ่งสถาบันการเงินไม่ได้ใช้สิทธิเรียกหนี้คืนทั้งจำนวนแต่ยังคงผ่อนผันให้ลูกหนี้ชำระหนี้ 10,000 บาทต่อไป จนครบกำหนดระยะเวลาที่ได้ตกลงกัน สถาบันการเงินสามารถไม่จัดชั้นลูกหนี้รายดังกล่าวในระหว่างที่ยังไม่ครบกำหนดตามระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ได้หรือไม่

    ​ลูกหนี้ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงในการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยภายหลังช่วงชะลอการชำระหนี้ หากลูกหนี้ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวได้ ให้สถาบันการเงินพิจารณาจัดชั้นลูกหนี้ตามประกาศ ธปท. ที่ สนส. 23/2561 เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดชั้นและการกันเงินสำรองของสถาบันการเงิน อย่างไรก็ดี สถาบันการเงินควรเข้าไปเจรจาปรับเงื่อนไขหรือปรับโครงสร้างหนี้กับลูกหนี้ตามความสามารถชำระหนี้

    ​70. หากสถาบันการเงินให้สิทธิชะลอการชำระหนี้ 6 เดือนกับลูกหนี้ตั๋ว P/N ที่เบิกใช้หลังวันที่ 19 เมษายน 2563 สถาบันการเงินสามารถคงจำนวนวันค้างชำระให้คงที่ (freeze aging) ตลอดระยะเวลาดังกล่าวได้หรือไม่

    ​ยอดหนี้ที่เบิกใช้หลังวันที่ 19 เมษายน 2563จะไม่ได้รับสิทธิตาม พ.ร.ก. สถาบันการเงินต้องปฏิบัติตาม ป.พ.พ. ที่เกี่ยวข้องกับหลักประกันและผู้ค้ำประกัน อย่างไรก็ดี สถาบันการเงินสามารถจัดชั้นลูกหนี้และรายงาน NCB ได้ตาม นสว. ที่ ธปท.ฝนส.(01)ว. 380/2563 ลงวันที่ 26 มีนาคม 2563 เรื่อง มาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มเติมในช่วงสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 และตามแนวคำถาม – คำตอบ แนบท้ายหนังสือเวียนที่ กคค.(ว) 51/2563 ลงวันที่ 26 มีนาคม 2563 เรื่อง ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต เรื่อง รหัสสถานะบัญชี ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2562

    05 การรายงาน NCB

    71. ลูกหนี้ที่ได้รับสิทธิชะลอการชำระหนี้ไม่ถูกรายงานเครดิตบูโร แต่สำหรับลูกหนี้ที่มีวันค้างชำระก่อนการชะลอการชำระหนี้ สถาบันการเงินสามารถปรับให้เป็น current or 0 DPD โดยคงชั้นเดิมคือ stage 2 หรือให้คงค้างจำนวนวันค้างชำระในช่วง skip payment ไว้จนกระทั่งครบ 6 งวด​

    ​การรายงานเครดิตบูโร ให้สถาบันการเงินรายงานจำนวนวันผิดนัดชำระหนี้ก่อนวันเข้าชะลอการชำระหนี้ เช่น หากลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ 89 DPD ณ วันที่ 22 เมษายน 2563 ให้รายงานจำนวนวันที่ผิดนัดชำระหนี้ 89 วันตลอดระยะเวลาชะลอการชำระหนี้ โดยไม่ต้องรายงานการชะลอการชำระหนี้ และไม่ถือเป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่จะต้องรายงานวันที่ปรับปรุงโครงสร้างหนี้แก่บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ

    อย่างไรก็ดี หากลูกหนี้ชำระค่างวดภายหลังวันที่ประกาศ ธปท. มีผลบังคับใช้ (23 เมษายน 2563) เช่น ชำระในวันที่ 23 พฤษภาคม 2563 ให้ใช้วันดังกล่าวคำนวณวันที่ผิดนัดชำระหนี้เพื่อรายงานบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ

    ​72. ณ วันที่ 22 เมษายน 2563 ลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ 60 DPD หากลูกหนี้ชำระค่างวดภายหลังวันที่ประกาศ ธปท. มีผลบังคับใช้ (23 เมษายน 2563) สถาบันการเงินต้องรายงานวันที่ผิดนัดชำระหนี้จำนวนกี่วัน เช่น

    ​72.1 ชำระในวันที่ 23 พฤษภาคม 2563 โดยชำระค่างวดที่ค้างชำระทั้งหมด

    ​72.1 หากลูกหนี้ชำระค่างวดที่ค้างชำระทั้งหมดในช่วงชะลอการชำระหนี้ สถาบันการเงินต้องรายงานด้วย รหัสสถานะบัญชี 10/010-ปกติ และจำนวนวันค้างชำระเป็นไม่ค้างชำระ

    ​72.2 ชำระในวันที่ 23 พฤษภาคม 2563 โดยชำระเพียงบางส่วนจำนวน 1 งวด

    ​72.2 กรณีลูกหนี้ชำระหนี้บางส่วนในช่วงชะลอการชำระหนี้ ให้สถาบันการเงินรายงานสถานะลูกหนี้ค้างชำระหรือสถานะบัญชี ปรับลดจากจำนวนวันที่ค้างชำระ ณ วันที่ 22 เมษายน 2563 ตามข้อเท็จจริง โดยไม่นับเพิ่มจำนวนวันที่อยู่ในช่วงชะลอ
    การชำระหนี้ ซึ่งตามตัวอย่าง ลูกหนี้จะคงเหลือวันค้างชำระ 30 วัน ตามแนวคำถาม – คำตอบ แนบท้ายหนังสือเวียนที่ กคค.(ว) 51/2563 ลงวันที่ 26 มีนาคม 2563 เรื่อง ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต เรื่อง รหัสสถานะบัญชี ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2562

    สำหรับสินเชื่อเบิกเกินบัญชีที่มียอดหนี้เกินวงเงินในช่วงชะลอการชำระหนี้ ให้สถาบันการเงินรายงานด้วยรหัส “Y” : ยอดหนี้เกินวงเงิน ตามข้อเท็จจริง อย่างไรก็ดี สถาบันการเงินอาจพิจารณาขยายวงเงินชั่วคราวให้ครอบคลุมดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในช่วงชะลอหนี้ได้ เพื่อให้รายงานเป็น N (ไม่เกินวงเงิน) ตามข้อเท็จจริง

    ​72.3 กรณีลูกหนี้มีวงเงิน O/D และชำระหนี้ในช่วงการชะลอการชำระหนี้ โดยสามารถลดยอดหนี้ที่เกินวงเงินก่อนเข้ามาตรการได้บางส่วน

    ​72.3 พิจารณาตามแนวถามตอบข้อ 72.2

    ​72.4 กรณีลูกหนี้มีวงเงิน O/D และชำระหนี้ในช่วงการชะลอการชำระหนี้ โดยสามารถลดยอดหนี้ที่เกินวงเงินก่อนเข้ามาตรการได้จนต่ำกว่าวงเงิน และหลังจากนั้นยอดหนี้กลับมาเกินวงเงินอีกในช่วงชะลอการชำระหนี้

    ​72.4 สถาบันการเงินต้องรายงานด้วย รหัสสถานะบัญชี 10/010-ปกติ ในช่วงชะลอการชำระหนี้ เนื่องจากลูกหนี้ได้ชำระส่วนที่เกินวงเงินทั้งหมด หากต่อมายอดหนี้ลูกหนี้กลับมาเกินวงเงินอีกเนื่องจากดอกเบี้ย ยอดหนี้ส่วนเกินดังกล่าวได้รับสิทธิชะลอการชำระหนี้ อย่างไรก็ตาม การรายงานหากยอดหนี้เกินวงเงิน ให้สถาบันการเงินรายงานยอดวงเงินที่ใช้ ตามแนวถามตอบข้อ 72.2

    06 ประเด็นอื่นๆ

    73. ข้อจำกัดการเข้าร่วมกับมาตรการอื่น ๆ ของทางการ​

    ​ ไม่มีข้อจำกัดใด ขอให้สถาบันการเงินพิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐในลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นลำดับแรก เพื่อกระจายความช่วยเหลือให้แก่ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ได้อย่างทั่วถึง

    74. ลูกหนี้สามารถชะลอการชำระหนี้ soft loan จาก ธปท. ที่กู้เพิ่มได้หรือไม่ ​

    ​ การชะลอการชำระหนี้ตามมาตรการนี้ หมายถึง หนี้เดิมที่เคยมี ณ วันที่ พ.ร.ก. มีผลบังคับใช้ ทั้งนี้ soft loan ถือเป็นหนี้ใหม่ที่เกิดขึ้นภายหลังวันที่ พ.ร.ก. มีผลบังคับใช้ จึงไม่เข้าข่ายที่จะได้รับสิทธิชะลอการชำระหนี้

    75. ลูกหนี้สามารถเข้ามาตรการ loan payment holidayและสินเชื่อ soft loan พร้อมกันได้หรือไม่

    หากลูกหนี้มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในมาตรการ soft loan และ loan payment holidayลูกหนี้สามารถเข้าร่วมมาตรการทั้ง 2 ประเภทได้

    76. หากกลุ่มธุรกิจลูกหนี้มีวงเงินกับสถาบันการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ไม่เกิน 100 ล้านบาท และจัดชั้นปกติ ต่อมาในเดือนมีนาคม 2563 ลูกหนี้ได้รับสินเชื่อ soft loan ของธนาคารออมสิน สินเชื่อดังกล่าวจะได้รับสิทธิชะลอการชำระหนี้ด้วยหรือไม่

    สินเชื่อ soft loan ของธนาคารออมสินที่ได้รับก่อนวันที่ พ.ร.ก มีผลบังคับใช้ (19 เมษายน 2563) จะได้รับสิทธิชะลอหนี้ด้วย เนื่องจากลูกหนี้มีวงเงินเดิมกับสถาบันการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562

    ​77. ลูกหนี้มีสินเชื่อสกุลเงินบาทซึ่งเกิดจากการที่สถาบันการเงินทำสัญญา FX/THB CCS กับสถาบันการเงินอื่นเพื่อ funding สินเชื่อสกุลบาทดังกล่าว (CCS Cover Type) หากลูกหนี้ขอเข้ามาตรการชะลอการชำระหนี้และสถาบันการเงินจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนหรือยกเลิกสัญญา FX/THB CCS ที่ทำไว้กับสถาบันการเงินอื่นก่อนครบกำหนดอายุสัญญาเดิม

    77.1 สถาบันการเงินสามารถพิจารณาเป็นเหตุแห่งการผิดนัด (Event of Default) ตามสัญญาสินเชื่อที่ลูกหนี้ลงนามไว้กับสถาบันการเงินได้หรือไม่

    77.2 สถาบันการเงินสามารถเรียกร้องให้ลูกหนี้ชดเชยค่าใช้จ่ายหรือค่าปรับที่เกิดขึ้นจากการปรับเปลี่ยนหรือยกเลิกสัญญา FX/THB CCS ที่สถาบันการเงินทำไว้กับสถาบันการเงินอื่นตามสัญญาสินเชื่อที่ลูกหนี้ลงนามไว้กับสถาบันการเงินได้หรือไม่ หรือหากสถาบันการเงินทำสัญญา FX/THB CCSกับลูกหนี้แยกต่างหากจากสัญญาสินเชื่อ สถาบันการเงินสามารถเรียกร้องค่าใช้จ่ายดังกล่าวจากลูกหนี้ได้หรือไม่

    หากสถาบันการเงินกำหนดเงื่อนไข CCS เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาสินเชื่อและผูกเงื่อนไขเหตุแห่งการผิดนัดชำระหนี้ว่ามาจากการผิดนัดชำระหนี้สัญญาสินเชื่อ แต่เมื่อสัญญาสินเชื่อได้รับการชะลอการชำระหนี้ ซึ่งตาม พ.ร.ก. กำหนดว่าไม่ถือเป็นการผิดนัดชำระหนี้เหตุแห่งการผิดนัดชำระหนี้ของสัญญา CCS จึงไม่เกิด ดังนั้น สถาบันการเงินไม่สามารถเรียกเก็บค่าใช้จ่ายหรือค่าปรับในช่วงระยะเวลาที่สัญญาสินเชื่อของลูกหนี้ได้รับสิทธิชะลอการชำระหนี้ได้
    หากลูกหนี้ทำสัญญา CCS กับสถาบันการเงินแยกต่างหากจากสัญญาสินเชื่อแล้ว สัญญา CCS ดังกล่าวไม่ได้รับสิทธิชะลอการชำระหนี้เพราะเป็นสัญญาภาระผูกพัน อย่างไรก็ดี ธปท. ผ่อนผันให้สถาบันการเงินพิจารณาต่ออายุสัญญาอนุพันธ์แบบ HRR (Historical rate rollover) กับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม สอดคล้องกับลักษณะการส่งมอบ underlying ของลูกค้า

    ​78. กรณีที่ลูกหนี้ทำสัญญา CCS กับสถาบันการเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเนื่องจากรายได้ของลูกหนี้เป็นเงินสกุลบาทแต่กู้เงินกับสถาบันการเงินเป็นสกุลต่างประเทศ สัญญา CCS ดังกล่าวได้รับสิทธิชะลอหนี้หรือไม่

    ​พิจารณาตามแนวถามตอบข้อ 77

    1 - 96
    ​
    >> Download เอกสารประกอบ

    Share
    Tweet
    Share
    Tweet
    เกี่ยวกับ ธปท.
    • บทบาทหน้าที่และประวัติ
    • การกำกับดูแลกิจการที่ดี
    • ธปท. กับบทบาทการพัฒนาอย่างยั่งยืน
    • ความร่วมมือระหว่างประเทศ
    • กฎหมาย/กฎเกณฑ์
    • ผังโครงสร้างองค์กร
    • คณะกรรมการ
    • รายงานทางการเงิน
    • รายงานประจำปี ธปท.
    • ธนบัตร
    • มูลนิธิ 50 ปี ธปท.
    • สมัครงานและทุน
    • พิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้
    • ศคง. 1213
    • งานและกิจกรรม
    นโยบายการเงิน
    • คณะกรรมการ กนง.
    • เป้าหมายของนโยบายการเงิน
    • กำหนดการประชุม
    • ผลการประชุม กนง.
    • เอกสารเผยแพร่ของ กนง.
    • ความรู้เรื่องนโยบายการเงิน
    • ภาวะเศรษฐกิจไทย
    • เศรษฐกิจภูมิภาค
    • งานวิจัยและสัมมนาวิชาการ
    สถาบันการเงิน
    • คณะกรรมการ กนส.
    • โครงสร้างระบบ สง. ไทย
    • บทบาทของ ธปท. ด้าน สง.
    • การกำหนดนโยบาย สง.
    • การกำกับตรวจสอบ สง.
    • ความร่วมมือกับผู้กำกับดูแลอื่น
    • ธุรกิจการเงินที่ ธปท. กำกับดูแล​​​​
    • มุมสถาบันการเงิน
    • การธนาคารเพื่อความยั่งยืน
    • โครงการพัฒนา Digital Factoring Ecosystem
    • โครงการ API Standard
    ตลาดการเงิน
    • การดำเนินนโยบายการเงิน
    • การบริหารเงินสำรอง
    • การพัฒนาตลาดการเงิน
    • ตลาดเงินตราต่างประเทศ
    • หลักเกณฑ์การแลกเปลี่ยนเงิน
    • การลงทุนโดยตรง ตปท.
    • อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงและแนวทางรองรับการยุติการใช้ LIBOR
    • โครงการลงทะเบียนแสดงตัวตนของผู้ลงทุนตราสารหนี้ในประเทศไทย (BIR)
    ระบบการชำระเงิน
    • คณะกรรมการ กรช.
    • นโยบายการชำระเงิน
    • การกำกับดูแลระบบการชำระเงิน
    • การกำกับตาม พ.ร.บ. ระบบการชำระเงิน 2560
    • บริการระบบการชำระเงิน
    • แนวนโยบาย/แนวปฏิบัติ /มาตรฐานระบบการชำระเงิน
    • ระเบียบ/ประกาศระบบการชำระเงิน
    • เทคโนโลยีทางการเงิน
    • การชำระเงินกับต่างประเทศ
    สถิติ
    • สถิติตลาดการเงิน
    • สถิติเศรษฐกิจการเงิน
    • สถิติสถาบันการเงิน
    • สถิติระบบการชำระเงิน
    • สถิติเศรษฐกิจการเงินภูมิภาค
    • เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจสำคัญ
    • แผนภูมิข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ
    • การรับส่งข้อมูลกับ ธปท.
    • บทความและเอกสารเผยแพร่ด้านสถิติ
    • คู่มือประชาชนด้านสถิติ
    • บริการข้อมูล BOT API
    ตารางเวลาเผยแพร่
    เงื่อนไขการให้บริการ
    นโยบายคุ้มครอง
    ข้อมูลส่วนบุคคล
    เชื่อมโยง
    คำถามถามบ่อย
    ติดต่อ ธปท.

    ©2015 Bank of Thailand. All rights reserved.   ( เว็บไซต์นี้รับชมได้ดี ด้วยเว็บเบราว์เซอร์ Chrome, Safari, Firefox หรือ IE 10 ขึ้นไป )
    สอบถาม/ข้อเสนอแนะ/ร้องเรียน
    ลงทะเบียนรับข้อมูล/ข่าวสาร


    ©2015 Bank of Thailand. All rights reserved.