ใครเป็นคนกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนของเงินสกุลต่าง ๆ
เงินสกุลต่าง ๆ ก็เหมือนกับสินค้าชนิดหนึ่งที่ราคาถูกกำหนดโดยกลไกตลาด นั่นคือ ความต้องการซื้อ (อุปสงค์) และความต้องการขาย (อุปทาน)
ยกตัวอย่างเช่น หากมีคนต้องการเงินบาทมากขึ้น ราคาของเงินบาทก็จะสูงขึ้น หรือที่เรียกว่า “เงินบาทแข็งค่า” ในทางกลับกัน ถ้ามีคนต้องการเงินบาทน้อยลง ราคาของเงินบาทก็จะปรับลดลง หรือที่เรียกว่า “เงินบาทอ่อนค่า”
เงินสกุลต่าง ๆ มีการซื้อขายกันตลอด 24 ชั่วโมงทั่วโลก โดยคนกลุ่มต่าง ๆ เช่น ผู้นำเข้าส่งออก สถาบันการเงิน นักลงทุนต่างชาติ และกองทุนต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนของเงินสกุลต่าง ๆ ที่ซื้อขายกันในตลาดโลก ก็จะส่งผ่านมาสู่อัตราแลกเปลี่ยนที่เราซื้อขายเงินสกุลต่าง ๆ กับธนาคารพาณิชย์หรือผู้ให้บริการแลกเงินนั่นเอง
อัตราแลกเปลี่ยนส่งผลต่อชีวิตประจำวันของเราอย่างไร ?
อัตราแลกเปลี่ยนจะส่งผลต่อเราอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่าเราเป็นใคร
หากเราเป็นคนที่ต้องการแลกเงินเพื่อไปเที่ยวต่างประเทศ เมื่อเงินบาทแข็งค่า เราจะแลกเงินตราต่างประเทศได้มากขึ้นด้วยจำนวนเงินบาทเท่าเดิม แปลว่ายิ่งเงินบาทแข็งค่า การซื้อของในต่างประเทศของเราจะยิ่งถูกลง
หากเราเป็นประชาชนทั่วไปที่ต้องบริโภคสินค้าที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เมื่อเงินบาทแข็งค่าขึ้น สินค้าที่ต้องนำเข้า เช่น น้ำมัน โทรศัพท์สมาร์ทโฟน จะมีราคาถูกลง
ธุรกิจได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเช่นเดียวกัน โดยบริษัทที่เป็นผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต จะได้รับผลดีเมื่อเงินบาทแข็งค่า เพราะวัตถุดิบที่ต้องนำเข้าจะมีราคาถูกลงเมื่อคิดเป็นมูลค่าเงินบาท
แต่บริษัทที่เป็นผู้ส่งออกนั้นได้รับผลเสียเมื่อเงินบาทแข็งค่า เพราะเงินที่ได้จากขายสินค้าให้ชาวต่างชาติเมื่อแลกกลับมาเป็นเงินบาทจะมีมูลค่าลดลง
ในทางกลับกัน เมื่อเงินบาทอ่อนค่า กลุ่มผู้ที่ได้รับผลดีและผลเสียก็จะสลับกัน ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนจะมีผู้ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์เสมอ
ธุรกิจที่ไม่ต้องการได้รับผลเสียจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน สามารถใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ โดยสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
ธปท. กับนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน
แม้ว่า ธปท. ไม่ได้ใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนคงที่เหมือนในอดีต แต่ไม่ได้หมายความว่า ธปท. ไม่ได้บริหารจัดการเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเลย
ปัจจุบัน ธปท. ใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวแบบมีการจัดการ (managed float) โดยค่าเงินบาทถูกกำหนดโดยกลไกตลาด และ ธปท. จะเข้าดูแลในกรณีที่ค่าเงินบาทผันผวนมากเกินไป
เนื่องจากการที่เงินบาทแข็งค่าหรืออ่อนค่าเร็วเกินไป หรือเคลื่อนไหวไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจนั้น จะส่งผลกระทบให้ภาคเอกชนปรับตัวไม่ทัน รวมถึงกระทบต่อการวางแผนใช้จ่ายและลงทุนของธุรกิจ
อ่านเพิ่มเติม ‘ฮาวทู ดูแลค่าเงิน’
นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวแบบมีการจัดการ
ในการดำเนินนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวแบบมีการจัดการนั้น ธปท. จะดูแลอัตราแลกเปลี่ยนภายใต้เงื่อนไข ดังนี้
- ดูแลความผันผวนของค่าเงินให้อยู่ในระดับที่ประชาชนและธุรกิจสามารถปรับตัวได้ นั่นคือค่าเงินบาทไม่แข็งค่าหรืออ่อนค่าเร็วเกินไปในเวลาสั้น ๆ
- ไม่ขัดกับปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทย
อ่านเพิ่มเติม
คนไทยได้อะไรจากการปรับ FX Ecosystem ใหม่