• EN
    • EN
  • เกี่ยวกับ ธปท.
    • บทบาทหน้าที่และประวัติ
    • การกำกับดูแลกิจการที่ดี
    • ธปท. กับบทบาทการพัฒนาอย่างยั่งยืน
    • ความร่วมมือระหว่างประเทศ
    • กฎหมาย/กฎเกณฑ์
    • ผังโครงสร้างองค์กร
    • คณะกรรมการ
    • รายงานทางการเงิน
    • รายงานประจำปี ธปท.
    • ธนบัตร
    • มูลนิธิ 50 ปี ธปท.
    • สมัครงานและทุน
    • พิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้
    • ศคง. 1213
    • งานและกิจกรรม
  • นโยบายการเงิน
    • คณะกรรมการ กนง.
    • เป้าหมายของนโยบายการเงิน
    • กำหนดการประชุม
    • ผลการประชุม กนง.
    • เอกสารเผยแพร่ของ กนง.
    • ความรู้เรื่องนโยบายการเงิน
    • ภาวะเศรษฐกิจไทย
    • เศรษฐกิจภูมิภาค
    • งานวิจัยและสัมมนาวิชาการ
  • สถาบันการเงิน
    • คณะกรรมการ กนส.
    • โครงสร้างระบบ สง. ไทย
    • บทบาทของ ธปท. ด้าน สง.
    • การกำหนดนโยบาย สง.
    • การกำกับตรวจสอบ สง.
    • ความร่วมมือกับผู้กำกับดูแลอื่น
    • ธุรกิจการเงินที่ ธปท. กำกับดูแล​​​​
    • มุมสถาบันการเงิน
    • การธนาคารเพื่อความยั่งยืน
    • โครงการพัฒนา Digital Factoring Ecosystem
    • โครงการ API Standard
  • ตลาดการเงิน
    • การดำเนินนโยบายการเงิน
    • การบริหารเงินสำรอง
    • การพัฒนาตลาดการเงิน
    • ตลาดเงินตราต่างประเทศ
    • หลักเกณฑ์การแลกเปลี่ยนเงิน
    • การลงทุนโดยตรง ตปท.
    • อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงและแนวทางรองรับการยุติการใช้ LIBOR
    • โครงการลงทะเบียนแสดงตัวตนของผู้ลงทุนตราสารหนี้ในประเทศไทย (BIR)
  • ระบบการชำระเงิน
    • คณะกรรมการ กรช.
    • นโยบายการชำระเงิน
    • การกำกับดูแลระบบการชำระเงิน
    • การกำกับตาม พ.ร.บ. ระบบการชำระเงิน 2560
    • บริการระบบการชำระเงิน
    • แนวนโยบาย/แนวปฏิบัติ /มาตรฐานระบบการชำระเงิน
    • ระเบียบ/ประกาศระบบการชำระเงิน
    • เทคโนโลยีทางการเงิน
    • การกำกับและตรวจสอบความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
    • การชำระเงินกับต่างประเทศ
  • วิจัยและสัมมนา
    • งานวิจัย
    • งานสัมมนา
    • สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย ​อึ๊งภากรณ์
  • สถิติ
    • สถิติตลาดการเงิน
    • สถิติเศรษฐกิจการเงิน
    • สถิติสถาบันการเงิน
    • สถิติระบบการชำระเงิน
    • สถิติเศรษฐกิจการเงินภูมิภาค
    • เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจสำคัญ
    • แผนภูมิข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ
    • การรับส่งข้อมูลกับ ธปท.
    • บทความและเอกสารเผยแพร่ด้านสถิติ
    • คู่มือประชาชนด้านสถิติ
    • บริการข้อมูล BOT API

  • ประชาชน
  • กลุ่มสถาบันการเงิน
  • ผู้ประกอบการ
  • นักวิชาการ
  • สื่อมวลชน
  • นักเรียน นักศึกษา
​การเปิดรับฟังความคิดเห็นร่างกฎเกณฑ์/แนวนโยบาย ธปท.
​     
     เพื่อให้การออกกฎหมายและกฎเกณฑ์ ของ ธปท. เป็นไปโดยละเอียดรอบคอบ มีการรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่สร้างภาระแก่ภาคธุรกิจและประชาชนเกินความจำเป็น ขณะที่ยังสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของการออกกฎหมายและกฎเกณฑ์ 
     ธปท. จึงขอรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562

         ธนาคารแห่งประเทศไทย.....

    ค้นหา
    รายละเอียด เอกสารประกอบ ช่วงการเปิดรับฟัง ผลการรับฟังฯ

    (ร่าง) หลักเกณฑ์อสังหาริมทรัพย์รอการขาย และแบบรายงานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์รอการขาย

    ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์อสังหาริมทรัพย์รอการขาย เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน สอดคล้องตามเจตนารมณ์ในการกำกับดูแลและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งเพิ่มความยืดหยุ่นสำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่มีอุปสรรคที่เข้าเงื่อนไขตามที่กำหนดในหลักเกณฑ์ฉบับนี้ และรองรับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 อันเป็นอุปสรรคในการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์รอการขายและมีแนวโน้มที่ต้องรับโอนอสังหาริมทรัพย์รอการขายเข้ามามากขึ้น

    ในการนี้ ธปท. ขอรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อ (ร่าง) หลักเกณฑ์อสังหาริมทรัพย์รอการขาย และแบบรายงานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์รอการขาย โดยโปรดแจ้งความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อ (ร่าง) หลักเกณฑ์และแบบรายงานดังกล่าวตามแบบฟอร์มรับฟังความคิดเห็น และส่งกลับมาที่งานนโยบายด้านเครดิต 2 ฝ่ายนโยบายและกำกับสถาบันการเงิน 2 ทาง E-mail: CP2-RPD2@bot.or.th ภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 

    18/05/2022 - 02/06/2022

    การเปิดรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563

    สืบเนื่องจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในช่วงตั้งแต่ต้นปี 2563 ได้ขยายวงกว้าง ยืดเยื้อ และมีแนวโน้มรุนแรงมากยิ่งขึ้น ประกอบกับผลกระทบจากมาตรการที่รัฐกำหนดให้ประชาชนต้องปฏิบัติอันเป็นการระงับ ยับยั้ง หรือแก้ไขปัญหาอันเกิดจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสดังกล่าว จึงจำเป็นต้องมีมาตรการเร่งด่วนในการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ผู้ประกอบวิสาหกิจ) ซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและเป็นแหล่งจ้างงานที่สำคัญของระบบเศรษฐกิจ  โดยครอบคลุมทั้งมาตรการเสริมสภาพคล่องและมาตรการชะลอการชำระหนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ประกอบวิสาหกิจที่คาดว่าจะลดลงอย่างรุนแรง โดยได้มีการตราพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 (พ.ร.ก. soft loan) เพื่อป้องกันมิให้ภาคธุรกิจเกิดสภาวะการขาดสภาพคล่องหรือผิดนัดชำระหนี้ อันจะส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินและการทำหน้าที่ด้านสินเชื่อของสถาบันการเงิน และอาจกระทบต่อเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งจะทำให้ปัญหาทวีความรุนแรงและลุกลาม ยากต่อการแก้ไขในภายหลัง โดย ธปท. ได้ให้สินเชื่อ soft loan เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบวิสาหกิจผ่านสถาบันการเงินต่างๆ เป็นระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 12 เมษายน 2564

    ถึงแม้ว่า พ.ร.ก. soft loan จะสิ้นระยะเวลาการอนุมัติสินเชื่อ soft loan แล้วก็ตาม ธปท. ประสงค์ที่จะประเมินว่าการบังคับใช้กฎหมายบรรลุวัตถุประสงค์และมีผลกระทบต่อรัฐและประชาชนอย่างไร ตามที่กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562

    ธปท. จึงจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการประเมินผลสัมฤทธิ์กฎหมายดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถร่วมแสดงความคิดเห็นได้ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2565 – 6 พฤษภาคม 2565 ผ่านช่องทาง ดังต่อไปนี้

    1. ระบบกลางทางกฎหมาย (คลิก)

    2. ส่งแบบฟอร์มแสดงความคิดเห็นมาที่ ฝ่ายตรวจสอบ 2  สายกำกับสถาบันการเงิน 1 ธนาคารแห่งประเทศไทย ทางอีเมล onsite_examination_d@bot.or.th ภายในวันที่ 6 พฤษภาคม 2565 โดยท่านสามารถดาวโหลดแบบฟอร์มแสดงความคิดเห็นได้จากไฟล์เอกสารทางด้านขวามือ

    21/04/2022 - 07/05/2022
    การเปิดรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อมาตรการกองทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ (Corporate Bond Stabilization Fund: BSF) 

    ในปี 2563 การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ส่งผลกระทบตั้งแต่กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก ภาคเอกชนขาดสภาพคล่องในการชำระคืนตราสารหนี้ที่จะครบกำหนด ต่อเนื่องถึงปัญหาขาดสภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนและอาจลุกลามเป็นการผิดนัดชำระหนี้ในวงกว้าง กระทั่งเป็นปัญหาต่อระบบการเงินโดยรวม กระทรวงการคลังร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงเสนอให้ตราพระราชกำหนดการรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ. 2563 ให้จัดตั้งกองทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ (Corporate Bond Stabilization Fund: กองทุน BSF) โดย ธปท. ประสงค์ที่จะประเมินว่าการบังคับใช้กฎหมายบรรลุวัตถุประสงค์และมีผลกระทบต่อรัฐและประชาชนอย่างไร ตามที่กำหนดไว้ในตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562

    ธปท. จึงจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการประเมินผลสัมฤทธิ์กฎหมายดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถร่วมแสดงความคิดเห็นได้ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 เมษายน 2565 ผ่านช่องทาง ดังต่อไปนี้

    1. เว็บไซต์ ธปท. (คลิก) 
    2. ระบบกลางทางกฎหมาย (คลิก)
    3. ส่งแบบฟอร์มแสดงความคิดเห็นมาที่ ส่วนวิเคราะห์ตลาดการเงิน สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ทางอีเมล fmd-marketintelligencedivision@bot.or.th โดยท่านสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มแสดงความคิดเห็นได้จากไฟล์เอกสารทางด้านขวามือ
    01/04/2022 - 30/04/2022

    (ร่าง) แนวปฏิบัติการใช้เทคโนโลยี Application Programming Interface (API) ในการให้บริการทางการเงิน

    ด้วยเทคโนโลยี Application Programming Interface (API) เข้ามามีบทบาทสำคัญในการให้บริการทางการเงินในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่ช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างระบบ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและบริการระหว่างผู้ให้บริการทางการเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรที่จำเป็นร่วมกัน ลดเวลาและต้นทุนในการพัฒนาระบบ รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาบริการที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการแก่ผู้ใช้บริการทางการเงินได้ดีขึ้น ทั้งนี้ นอกจากประโยชน์ที่ได้รับการนำ API มาใช้ในการให้บริการทางการเงินอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจกระทบต่อการดำเนินงานหรือการให้บริการของผู้ให้บริการทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ  จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่การใช้เทคโนโลยี API ในการให้บริการทางการเงินจะต้องดำเนินการพัฒนาและให้บริการภายใต้กรอบการควบคุมดูแลและการบริหารจัดการที่ดี สอดคล้องตามมาตรฐานสากล เพื่อให้ลดผลกระทบที่อาจเกิดจากความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น

    ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับ ศูนย์ประสานงานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศภาคการธนาคาร (TB-CERT) ได้ร่วมกันจัดทำร่างแนวปฏิบัติการใช้เทคโนโลยี Application Programming Interface (API) ในการให้บริการทางการเงิน ฉบับนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นมาตรฐานขั้นต่ำให้ API ได้รับการบริหารจัดการที่ดี มีความปลอดภัย ตามมาตรฐานสากล สร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการต่อยอดนวัตกรรมทางการเงินผ่าน API รวมทั้ง คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงินในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ API ธปท. และ TB-CERT จึงขอเชิญชวนร่วมแสดงความคิดเห็นต่อร่างแนวปฏิบัติ ดังกล่าว ผ่านแบบแสดงความคิดเห็นได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 4 เมษายน 2565

    03/03/2022 - 05/04/2022

    การเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อแนวนโยบายภูมิทัศน์ใหม่ภาคการเงินไทย เพื่อเศรษฐกิจดิจิทัลและการเติบโตอย่างยั่งยืน  (BOT’s Consultation Paper on Financial Landscape)

    กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งเรื่องดิจิทัลและความยั่งยืนโดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม เกิดขึ้นเร็วและรุนแรงขึ้น ส่งผลต่อทุกภาคส่วนรวมถึงภาคการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตระหนักถึงความสำคัญของกระแสการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจึงได้จัดทำแนวนโยบายภูมิทัศน์ใหม่ภาคการเงินไทยเพื่อเศรษฐกิจดิจิทัลและการเติบโตอย่างยั่งยืน (consultation paper) เพื่อสื่อสารหลักการ ทิศทางสำคัญ และแนวนโยบายการปรับภูมิทัศน์ภาคการเงินไทยของ ธปท. โดยเปิดรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละภาคส่วนได้เหมาะสมและเป็นรูปธรรม

    ผู้ที่สนใจสามารถร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ผ่านช่องทาง เว็บไซต์ ธปท. หรือ อีเมล finlandscape@bot.or.th โดย ธปท. จะสรุปประเด็นความเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อนำไปปรับปรุงแนวนโยบายการปรับภูมิทัศน์ภาคการเงินไทยต่อไป

    01/02/2022 - 01/03/2022 คลิก

    (ร่าง) หลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจระบบโอนเงินรายย่อยระหว่างผู้ใช้บริการของระบบที่ให้บริการระบบการหักบัญชีเช็คด้วยภาพเช็ค

    ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้จัดทำ (ร่าง) หลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจระบบโอนเงินรายย่อยระหว่างผู้ใช้บริการของระบบที่ให้บริการระบบการหักบัญชีเช็คด้วยภาพเช็ค เพื่อให้การกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจที่ให้บริการระบบการหักบัญชีเช็คด้วยภาพเช็คบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสมและเพียงพอ มีระบบงานที่เกี่ยวข้องรองรับการดำเนินการระบบการหักบัญชีเช็คด้วยภาพเช็ค ตลอดจนดูแลและจัดให้ผู้ใช้บริการของระบบถือปฏิบัติตามมาตรฐานเช็ค มาตรฐานภาพเช็ค มาตรฐานใบแทน มาตรฐานใบแจ้งแก้ไขคลาดเคลื่อน มาตรฐานตั๋วแลกเงินและตั๋วสัญญาใช้เงิน และมาตรฐานการจัดทำสิ่งพิมพ์ออกจากระบบการจัดเก็บภาพเช็ค

    ธปท. จึงขอเชิญผู้ที่สนใจร่วมแสดงความคิดเห็นต่อร่างหลักเกณฑ์ ดังกล่าวและส่งแบบแสดงความคิดเห็นได้ที่ e-mail : OversightDivisionPSD@bot.or.th  ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2564  

    26/11/2021 - 16/12/2021

    ​การรับฟังความคิดเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยบริษัทบริหารสินทรัพย์

    ตามที่ ธปท. ได้เริ่มดำเนินการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายว่าด้วยบริษัทบริหารสินทรัพย์ เพื่อประเมินว่าการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวได้ผลตรงตามวัตถุประสงค์ของการมีกฎหมายมากน้อยเพียงใด คุ้มค่ากับภาระที่เกิดขึ้นแก่ภาครัฐและประชาชนหรือไม่ ตลอดจนมีผลกระทบอื่นซึ่งก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมแก่ประชาชนหรือไม่ เพียงใด โดย ธปท. ได้นำเอาความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากการประเมินผลสัมฤทธิ์ดังกล่าวมาพิจารณาศึกษาและกำหนดกรอบหลักการในการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ระบบเศรษฐกิจการเงินโดยรวม และสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของกฎหมายมีกฎหมายฉบับนี้มากยิ่งขึ้น 

    ธปท. จึงจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายดังกล่าว

    ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถร่วมแสดงความคิดเห็นต่อการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายดังกล่าวผ่านช่องทาง ดังนี้

    1. เว็บไซต์ ธปท. (คลิก) 

    2. ระบบกลางทางกฎหมาย (คลิก) 

    3. ส่งแบบฟอร์มแสดงความคิดเห็นมาที่ งานพัฒนานโยบายเพื่อผลสัมฤทธิ์ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ทางอีเมล DP-RPD2@bot.or.th ภายในวันที่ 21 ธันวาคม 2564 โดยท่านสามารถดาวโหลดแบบฟอร์มแสดงความคิดเห็นได้จากไฟล์เอกสารทางด้านขวามือ

    22/11/2021 - 21/12/2021

    (ร่าง) กรอบการประเมินความพร้อมด้าน cyber resilience (cyber resilience assessment framework) สำหรับสถาบันการเงินและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ

    ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจและบริการทางการเงินของสถาบันการเงินและและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ในขณะเดียวกันก็มีการเผชิญกับความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Threats) มากขึ้น สถาบันการเงินและสถาบันการเงินเฉพาะกิจจึงควรมีการรักษาความมั่นคงปลอดภัยต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เข้มงวด รัดกุม และเพียงพอตามระดับความเสี่ยงที่มี เพื่อให้มีความพร้อมในการรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ 

    จากการพัฒนาของเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด รวมทั้งการปรับตัวของสถาบันการเงินในการเข้าสู่โลกธุรกิจดิจิตอลมากขึ้น ปรับรูปแบบการทำงานทั้งการ work from anywhere และการปรับปรุงกระบวนการพัฒนาระบบ IT ให้เกิดความคล่องตัวเท่าทันกับการแข่งขันบริการทางธุรกิจแบบ agile process ตลอดจนถึงการยกระดับมาตรฐานบริหารจัดการความเสี่ยงด้านไซเบอร์ตามมาตรฐานสากล ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงเห็นความจำเป็นในการปรับปรุงกรอบการประเมินความพร้อมด้าน cyber resilience (cyber resilience assessment framework) เพื่อให้เท่าทันกับความเสี่ยงใหม่ สถาบันการเงินและสถาบันการเงินเฉพาะกิจมีกรอบการกำกับดูแล การบริหารจัดการความเสี่ยง ทั้งด้านบุคลากร กระบวนการ และเครื่องมือหรือเทคโนโลยี เพื่อลดผลกระทบต่อลูกค้า สถาบันการเงิน และต่อระบบโดยรวม  ธปท. จึงขอเชิญร่วมแสดงความคิดเห็นต่อร่างประกาศดังกล่าว ผ่านแบบแสดงความคิดเห็นออนไลน์ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564

    08/11/2021 - 30/11/2021

    (ร่าง) หลักเกณฑ์การกำกับดูแลความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology Risk) สำหรับสถาบันการเงินและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ

    ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IT) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจเพื่อรองรับการให้บริการทางการเงินและเพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของสถาบันการเงินและสถาบันการเงินเฉพาะกิจมากขึ้น โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ ลดต้นทุนในการดำเนินงาน และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน นอกจากนี้ เทคโนโลยีสารสนเทศยังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างทั่วถึง และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่ต้องการผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

    จากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีซึ่งมีผลต่อการปรับตัวของสถาบันการเงินและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงเห็นความจำเป็นในการปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำกับดูแลความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้รองรับรูปแบบทางธุรกิจและสอดคล้องกับนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อให้สถาบันการเงินและสถาบันการเงินเฉพาะกิจให้มีธรรมาภิบาลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่ดี มีการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และมีการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ธปท. จึงขอเชิญร่วมแสดงความคิดเห็นต่อร่างประกาศดังกล่าว ผ่านแบบแสดงความคิดเห็นออนไลน์ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564

    08/11/2021 - 30/11/2021

    ​(ร่าง) หลักเกณฑ์การปฏิบัติและการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับดอกเบี้ย ค่าบริการ และเบี้ยปรับ สำหรับผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน

    ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดทำ (ร่าง) หลักเกณฑ์การปฏิบัติและการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับดอกเบี้ย ค่าบริการ และเบี้ยปรับ สำหรับผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งมีสาระสำคัญคือ กำหนดกรอบหลักการ (guiding principles) ในการกำหนดราคา ค่าบริการ และเบี้ยปรับ ที่เป็นมาตรฐาน สะท้อนมิติของมุมมองเรื่องความเป็นธรรมอย่างชัดเจน และนำมาใช้บังคับกับผู้ให้บริการทางการเงินทุกประเภท ซึ่งกรอบหลักการดังกล่าวจะกำหนดในลักษณะ principle-based เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น สามารถนำไปใช้บังคับให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของผู้ให้บริการทางการเงินแต่ละประเภทได้ 

    ธปท. จึงขอเชิญชวนร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อ (ร่าง) หลักเกณฑ์การปฏิบัติและการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับดอกเบี้ย ค่าบริการ และเบี้ยปรับ สำหรับผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน โดยโปรดให้ความเห็นในแบบฟอร์มแสดงความคิดเห็นและส่งกลับมาที่ งานนโยบายการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ฝ่ายคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. ทางอีเมล MC-Policy-FCD@bot.or.th ภายในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564

    05/11/2021 - 24/11/2021
    1 - 10

    ค้นหา
    รายละเอียด แบบฟอร์มแสดงความคิดเห็น ช่วงการเปิดรับฟัง เอกสารประกอบ

    ​(ร่าง) หลักเกณฑ์ธรรมาภิบาลและการควบคุมภายในของสถาบันการเงินและกลุ่มธุรกิจทางการเงิน

    การกำกับดูแลกิจการที่ดีหรือการมีธรรมาภิบาลที่ดี (Good Corporate Governance) เป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนให้สถาบันการเงินและกลุ่มธุรกิจทางการเงินทำหน้าที่ตัวกลางทางการเงินในระบบเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน และดูแลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียได้อย่างเหมาะสม โดยองค์ประกอบสำคัญของการมีธรรมาภิบาลที่ดี คือ การมีคณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูงที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและทำหน้าที่ในการกำกับดูแลและบริหารจัดการงานต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง การมีกลไกการควบคุม กำกับ และถ่วงดุลที่เหมาะสม รวมถึงระบบการควบคุมภายใน และการตรวจสอบภายในที่ดี ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของสถาบันการเงินและกลุ่มธุรกิจทางการเงินให้เป็นไปอย่างเรียบร้อยและสามารถรองรับความความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ 

    ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงได้ปรับหลักเกณฑ์ธรรมาภิบาลและการควบคุมภายในของสถาบันการเงินและกลุ่มธุรกิจทางการเงิน รวม 6 ฉบับ ดังนี้

    1. (ร่าง) หลักเกณฑ์ธรรมาภิบาลของสถาบันการเงินและกลุ่มธุรกิจทางการเงิน

    2. (ร่าง) หลักเกณฑ์บทบาทหน้าที่และองค์ประกอบของคณะกรรมการสถาบันการเงินและบริษัทแม่ของกลุ่มธุรกิจทางการเงิน

    3. (ร่าง) หลักเกณฑ์คณะกรรมการชุดย่อยและผู้บริหารระดับสูงของสถาบันการเงิน และบริษัทแม่ของกลุ่มธุรกิจทางการเงิน

    4. (ร่าง) หลักเกณฑ์กลไกการกำกับดูแลกิจการของสถาบันการเงิน และกลุ่มธุรกิจทางการเงิน

    5. (ร่าง) หลักเกณฑ์การกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ (Compliance) ของสถาบันการเงิน และกลุ่มธุรกิจทางการเงิน

    6. (ร่าง) หลักเกณฑ์การปฏิบัติงานตรวจสอบภายใน (Internal Audit) ของสถาบันการเงิน และกลุ่มธุรกิจทางการเงิน

    จึงขอเชิญชวนเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะต่อร่างหลักเกณฑ์ฯ ดังกล่าว โดยสามารถดาวน์โหลดและส่งแบบแสดงความคิดเห็นกลับมาที่งานธรรมาภิบาล 1 และงานธรรมาภิบาล 2 สายนโยบายสถาบันการเงิน ทาง E-mail: : CG1-RPD2@bot.or.th และ CG2-RPD2@bot.or.th ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน ถึง 31 กรกฎาคม 2565 

    24/06/2022 - 31/07/2022
    1 - 1
    Share
    Tweet
    Share
    Tweet
    เกี่ยวกับ ธปท.
    • บทบาทหน้าที่และประวัติ
    • การกำกับดูแลกิจการที่ดี
    • ธปท. กับบทบาทการพัฒนาอย่างยั่งยืน
    • ความร่วมมือระหว่างประเทศ
    • กฎหมาย/กฎเกณฑ์
    • ผังโครงสร้างองค์กร
    • คณะกรรมการ
    • รายงานทางการเงิน
    • รายงานประจำปี ธปท.
    • ธนบัตร
    • มูลนิธิ 50 ปี ธปท.
    • สมัครงานและทุน
    • พิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้
    • ศคง. 1213
    • งานและกิจกรรม
    นโยบายการเงิน
    • คณะกรรมการ กนง.
    • เป้าหมายของนโยบายการเงิน
    • กำหนดการประชุม
    • ผลการประชุม กนง.
    • เอกสารเผยแพร่ของ กนง.
    • ความรู้เรื่องนโยบายการเงิน
    • ภาวะเศรษฐกิจไทย
    • เศรษฐกิจภูมิภาค
    • งานวิจัยและสัมมนาวิชาการ
    สถาบันการเงิน
    • คณะกรรมการ กนส.
    • โครงสร้างระบบ สง. ไทย
    • บทบาทของ ธปท. ด้าน สง.
    • การกำหนดนโยบาย สง.
    • การกำกับตรวจสอบ สง.
    • ความร่วมมือกับผู้กำกับดูแลอื่น
    • ธุรกิจการเงินที่ ธปท. กำกับดูแล​​​​
    • มุมสถาบันการเงิน
    • การธนาคารเพื่อความยั่งยืน
    • โครงการพัฒนา Digital Factoring Ecosystem
    • โครงการ API Standard
    ตลาดการเงิน
    • การดำเนินนโยบายการเงิน
    • การบริหารเงินสำรอง
    • การพัฒนาตลาดการเงิน
    • ตลาดเงินตราต่างประเทศ
    • หลักเกณฑ์การแลกเปลี่ยนเงิน
    • การลงทุนโดยตรง ตปท.
    • อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงและแนวทางรองรับการยุติการใช้ LIBOR
    • โครงการลงทะเบียนแสดงตัวตนของผู้ลงทุนตราสารหนี้ในประเทศไทย (BIR)
    ระบบการชำระเงิน
    • คณะกรรมการ กรช.
    • นโยบายการชำระเงิน
    • การกำกับดูแลระบบการชำระเงิน
    • การกำกับตาม พ.ร.บ. ระบบการชำระเงิน 2560
    • บริการระบบการชำระเงิน
    • แนวนโยบาย/แนวปฏิบัติ /มาตรฐานระบบการชำระเงิน
    • ระเบียบ/ประกาศระบบการชำระเงิน
    • เทคโนโลยีทางการเงิน
    • การกำกับและตรวจสอบความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
    • การชำระเงินกับต่างประเทศ
    สถิติ
    • สถิติตลาดการเงิน
    • สถิติเศรษฐกิจการเงิน
    • สถิติสถาบันการเงิน
    • สถิติระบบการชำระเงิน
    • สถิติเศรษฐกิจการเงินภูมิภาค
    • เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจสำคัญ
    • แผนภูมิข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ
    • การรับส่งข้อมูลกับ ธปท.
    • บทความและเอกสารเผยแพร่ด้านสถิติ
    • คู่มือประชาชนด้านสถิติ
    • บริการข้อมูล BOT API
    ตารางเวลาเผยแพร่
    เงื่อนไขการให้บริการ
    นโยบายคุ้มครอง
    ข้อมูลส่วนบุคคล
    เชื่อมโยง
    คำถามถามบ่อย
    ติดต่อ ธปท.

    ©2015 Bank of Thailand. All rights reserved.   ( เว็บไซต์นี้รับชมได้ดี ด้วยเว็บเบราว์เซอร์ Chrome, Safari, Firefox หรือ IE 10 ขึ้นไป )
    สอบถาม/ข้อเสนอแนะ/ร้องเรียน
    ลงทะเบียนรับข้อมูล/ข่าวสาร

    ©2015 Bank of Thailand. All rights reserved.