มาตรการแก้หนี้ยั่งยืน

#แก้หนี้ยั่งยืน เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางต่อเนื่อง ผ่านทั้งมาตรการเดิมและเพิ่มเติมมาตรการใหม่ ให้ครอบคลุมไปถึงการแก้หนี้เรื้อรัง และการคิดค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยที่เป็นธรรมยิ่งขึ้น

*ยกเว้นสินเชื่อบ้าน ที่เจ้าหนี้ยังสามารถเรียกเก็บค่าปรับรีไฟแนนซ์ได้ในช่วง 3 ปีแรกนับจากวันทำสัญญา เพื่อให้ลูกหนี้มีโอกาสได้ดอกเบี้ยต่ำ

.

title-restructure
  • 1.

    ขอปรับโครงสร้างหนี้ ตั้งแต่ยังไม่เป็นหนี้เสีย

• ครอบคลุมทั้งลูกหนี้รายย่อย และ SMEs เช่น สินเชื่อบ้าน บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพ (Nano finance) สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ

• ขอปรับโครงสร้างหนี้ได้ทั้งก่อนเป็นหนี้เสีย (non-NPL) และหลังเป็นหนี้เสีย (NPL)

• หากเป็น NPL มีเวลาให้พิจารณาแผนปรับโครงสร้างหนี้ อย่างน้อย 60 วัน ก่อนถูกโอนขายหนี้

• วิธีปรับโครงสร้างหนี้ เช่น ขยายระยะเวลาผ่อน ลดอัตราผ่อนจ่ายช่วงแรก จะพิจารณาโดยเจ้าหนี้ ตามความสามารถชำระหนี้และเงินคงเหลือดำรงชีวิต สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่

>> ช่องทางติดต่อเจ้าหน้าที่

ขอปรับโครงสร้างหนี้ ตั้งแต่ยังไม่เป็นหนี้เสีย
  • 2.

    เข้าโครงการคลินิกแก้หนี้

• แก้หนี้เสีย บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคล ที่ค้างชำระเกิน 120 วัน

• รวมแก้หนี้ในครั้งเดียวได้ หากมีเจ้าหนี้หลายแห่ง ยอดหนี้รวมไม่เกิน 2 ล้านบาท

• ลดดอกเบี้ย เหลือ 3%-5% ต่อปี และเปลี่ยนเป็นผ่อนจ่ายรายงวด สูงสุด 10 ปี

• ลูกหนี้ต้องมีรายได้ อายุไม่เกิน 70 ปี และไม่เป็นบุคคลล้มละลาย

>> ช่องทางเข้าร่วมโครงการ

คลินิกแก้หนี้

.

title-credit

จ่ายดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น นานเกิน 3 ปี

มาตรการแก้หนี้ยั่งยืน

ขอความช่วยเหลือได้ตั้งแต่เริ่มมีสัญญาณหนี้เรื้อรัง

• สามารถปรึกษาเจ้าหนี้เพื่อหาทางจ่ายคืนหนี้เร็วขึ้นได้ โดยไม่ต้องรอให้จ่ายไม่ไหวหรือมองไม่เห็นทางปิดจบหนี้

• เจ้าหนี้จะแจ้งเตือนให้ทราบ เมื่อเริ่มมีสัญญาณหนี้เรื้อรัง ผ่านช่องทางที่ใช้ปกติ เช่น จดหมาย อีเมล SMS mobile application หรือ LINE Official Account

• หากเป็นหนี้เสียแล้วให้เร่งเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ หรือเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ > คลิก

ช่องทางติดต่อเจ้าหน้าที่

จ่ายดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น นานเกิน 5 ปี

เข้าโครงการปิดจบหนี้เรื้อรัง

• เปลี่ยนหนี้บัตรเป็นหนี้ผ่อนจ่ายรายงวด สูงสุด 5 ปี

• ลดดอกเบี้ย เหลือไม่เกิน 15% ต่อปี

• เจ้าหนี้จะแจ้งเตือนให้เข้าร่วมโครงการ ผ่านช่องทางที่ใช้ปกติ เช่น จดหมาย อีเมล SMS mobile application หรือ LINE Official Account

• ต้องยังไม่เป็นหนี้เสีย (non-NPL) และมีรายได้น้อยกว่า 10,000 บาท (กู้ Non-bank) หรือน้อยกว่า 20,000 บาท (กู้ Bank)

• หากเป็นหนี้เสียแล้วหรือไม่เข้าคุณสมบัติ ให้เร่งเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ หรือเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ > คลิก

• ข้อควรรู้การเข้าโครงการปิดจบหนี้เรื้อรัง > คลิก

ช่องทางติดต่อเจ้าหน้าที่
มาตรการแก้หนี้ยั่งยืน เข้าโครงการปิดจบหนี้เรื้อรัง

.

title-fee

ค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยเป็นธรรมขึ้น

ไม่คิดค่า pre-payment

ไม่คิดค่าปรับชำระหนี้ก่อนกำหนด (prepayment fee)

• สำหรับสินเชื่อรายย่อยทุกประเภท เช่น สินเชื่อบ้าน บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพ (Nano finance) สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ

ยกเว้น กรณี refinance สินเชื่อบ้านในช่วงเวลา 3 ปีแรก เพื่อให้ลูกหนี้มีโอกาสได้ดอกเบี้ยต่ำ

ไม่ค่าค่าธรรมเนียมการปรับโครงสร้างหนี้

ไม่คิดค่าธรรมเนียมปรับปรุงโครงสร้างหนี้

• สำหรับสินเชื่อรายย่อย และ SMEs เช่น สินเชื่อบ้าน บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพ (Nano finance) สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ

ยกเว้น กรณีเจ้าหนี้จัดให้ประเมินหลักประกันเพิ่มเพื่อประกอบการกำหนดเงื่อนไขปรับโครงสร้างหนี้

ไม่คิดดอกเบี้ยบนดอกเบี้ย

ไม่คิดดอกเบี้ยบนดอกเบี้ย

• สำหรับสินเชื่อรายย่อยทุกประเภท 

• รวมถึงสินเชื่อ OD (บัญชีเดินสะพัดของสินเชื่อวงเงินกู้เบิกเกินบัญชี : Overdraft)

• มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่ 1 ก.ค. 67

ได้ข้อมูลสำคัญครบถ้วน ถูกต้อง และเปรียบเทียบได้

- เดิม : “ดอกเบี้ย 0%”

- สิ่งที่จะเห็น : “ดอกเบี้ย 0% เมื่อจ่ายเต็มจำนวนภายในวันครบกำหนดชำระ”

- เดิม : "อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด MLR-1%”

- สิ่งที่จะเห็น : “อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 6.05% - 10% ตลอดสัญญา”

- เดิม : "ผ่อนหมื่นละ 10 บาทต่อวัน”

- สิ่งที่จะเห็น : “ผ่อนหมื่นละ 10 บาทต่อวัน”

ตัวอย่างการคำนวณ: กู้ 10,000 บาท ดอกเบี้ย 25% ต่อปี ผ่อนเป็นงวด นาน 5 ปี ดอกเบี้ยรวม 7,200 บาท ค่างวด 300 บาทต่อเดือน (=10 บาทต่อวัน)

- เดิม : -

- สิ่งที่จะเห็น : มีข้อความแจ้งเตือนก่อนถึงกำหนดจ่ายหนี้ (สำหรับลูกหนี้ที่มีความเสี่ยง) และแจ้งเตือนเมื่อมีภาระค่างวด/ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากงวดก่อนหน้า ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น SMS Mobile app.

- เดิม : Mobile app. ตั้งค่าเริ่มต้น (default) ไว้ที่การชำระขั้นต่ำ

- สิ่งที่จะเห็น : Mobile app. ตั้งค่าเริ่มต้น (default) ไว้ที่การชำระเต็มจำนวน และแสดงคำเตือนถึงภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้น หากลูกหนี้เลือกชำระขั้นต่ำ/ไม่เต็มจำนวน