ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยพบสื่อมวลชน (GovernorConnect) 

GovernorConnect | 10 ตุลาคม 2568

งาน GovernorConnect

นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม 2568

นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้พูดคุยกับสื่อมวลชนครั้งแรกหลังรับตำแหน่งเกี่ยวกับแนวทางการทำงานของ ธปท. และทิศทางนโยบายสำคัญในระยะต่อไป สรุปประเด็นหลักดังนี้

แนวทางการทำงานของ ธปท.

  • สานต่อพันธกิจหลักของธนาคารกลาง คือ การรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว

เสถียรภาพทางการเงิน โดยเฉพาะดูแลให้เงินเฟ้อระยะปานกลางอยู่ในระดับต่ำและไม่ผันผวน (low and stable) รวมถึงไม่ให้เกิดภาวะเงินฝืด และให้เงินเฟ้อกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในระยะปานกลาง

เสถียรภาพระบบสถาบันการเงิน โดยสถาบันการเงินเข้มแข็ง มีความมั่นคง สามารถให้บริการลูกหนี้ ประชาชนและธุรกิจได้ต่อเนื่อง และดูแลไม่ให้เกิดจุดเปราะบางในระบบการเงินที่อาจลุกลามกลายเป็นวิกฤตในอนาคต

เสถียรภาพระบบการชำระเงิน ดูแลให้ระบบมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของประชาชน ธุรกิจ และภาครัฐ ทั้งด้านความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และด้วยราคาที่สมเหตุสมผล

 

  • ธปท. จะดำเนินนโยบายด้วยความเป็นอิสระภายใต้กรอบกฎหมาย โดยมีหลายเรื่องที่ต้องทำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนมากขึ้น เพื่อผลักดันนโยบาย ตลอดจนจะเน้นประสานนโยบายการเงินและนโยบายการคลัง (policy coordination) เพื่อช่วยประคับประคองเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ รวมทั้งเอื้อให้เกิดการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างที่จับต้องได้ ซึ่งจะช่วยยกระดับศักยภาพของประเทศ 

ทิศทางนโยบายสำคัญของ ธปท. (policy priorities) ในระยะต่อไป ประกอบด้วย

1) การสานต่อแนวนโยบายการพัฒนาภาคการเงิน โดยเฉพาะการวางรากฐานให้ภาคการเงินพร้อมรองรับกับกระแสโลกใหม่ทั้งด้านดิจิทัลและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม (financial landscape) ได้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น โครงการ Your Data การพัฒนาระบบ digital payment ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ยืดหยุ่น และสนับสนุนให้ภาคเศรษฐกิจจริงเข้าถึงบริการทางการเงินครอบคลุมขึ้น รวมถึงการจัดตั้ง Virtual Bank

 

2) การทำงานของ ธปท. จะใกล้ชิดกับประชาชนและสังคมมากขึ้น ผ่านการรับฟังมุมมอง และข้อเรียกร้องจากสังคมให้รอบด้าน เพื่อให้เข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง และนำมาประกอบการตัดสินนโยบายให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศโดยรวม รวมทั้งสื่อสารให้เข้าถึงประชาชนมากขึ้น ตลอดจนจะมีแนวนโยบายเฉพาะจุดเพื่อช่วยเหลือประชาชนและธุรกิจที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งจะมาช่วยเสริมกับนโยบายการเงินที่ดูแลเศรษฐกิจการเงินในภาพรวม เช่น มาตรการแก้ปัญหาหนี้เสียผ่านกลไก AMC (ปัจจุบัน ธปท. อยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงการคลังและสถาบันการเงินเพื่อออกแบบกลไกให้เหมาะสม ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงต้นปี 2569) การเพิ่มโอกาสให้ SMEs เข้าถึงสินเชื่อในระบบด้วยต้นทุนที่เหมาะสม ผ่านกลไกค้ำประกันเครดิตที่มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นขึ้น รวมทั้งกลไกกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่สมดุลกับความเสี่ยงของผู้กู้ (Risk-Based Pricing: RBP) ตลอดจนการทบทวนค่าธรรมเนียมของบริการทางการเงินให้เหมาะสมและเป็นธรรมขึ้น (fair pricing)

3) การผลักดันงานส่งเสริมทักษะและความรู้ทางการเงินให้แก่ประชาชน (financial literacy) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เกิดผลเป็นรูปธรรมขึ้น เช่น การส่งเสริมการออม การสอนวิธีการใช้เงิน เพื่อให้คนมีวินัยทางการเงินมากขึ้น

 

ธปท. มุ่งหวังว่าการดำเนินงานตามพันธกิจควบคู่กับการออกนโยบายและมาตรการของ ธปท. จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างสมดุลเข้าสู่ศักยภาพ เพื่อให้ประชาชนและประเทศชาติได้รับประโยชน์สูงสุด

quote
quote
quote
quote

Tag ที่เกี่ยวข้อง

GovernorConnect