สรุปสาระสำคัญ

ของ พ.ร.ฎ. เช่าซื้อลีสซิ่งฯ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

บทให้อำนาจ

 

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551

 

 

ผู้ประกอบธุรกิจที่อยู่ภายใต้ พ.ร.ฎ. เช่าซื้อลีสซิ่งฯ

 

นิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อและให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์เป็นทางค้าปกติ ไม่รวมถึงบุคคลธรรมดา ผู้ประกอบธุรกิจที่มีกฎหมายหรือหน่วยงานที่กำกับดูแลเป็นการเฉพาะ เช่น ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และสหกรณ์แท็กซี่

 

 

พ.ร.ฎ. เช่าซื้อลีสซิ่งฯ กำหนดประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ 

 

ได้แก่ รย.1 – รย.12 และ รย.17 – รย.18

  • รย.1 รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน   
  • รย.2 รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน
  • รย.3 รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล  
  • รย.4 รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล
  • รย.5 รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัด   
  • รย.6 รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน
  • รย.7 รถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้าง  
  • รย.8 รถยนต์รับจ้างสามล้อ 
  • รย.9 รถยนต์บริการธุรกิจ
  • รย.10 รถยนต์บริการทัศนาจร  
  • รย.11 รถยนต์บริการให้เช่า  
  • รย.12 รถจักรยานยนต์
  • รย.17 รถจักรยานยนต์สาธารณะ  
  • รย.18 รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

 

 

หน้าที่ของผู้ประกอบธุรกิจที่อยู่ภายใต้ พ.ร.ฎ. เช่าซื้อลีสซิ่งฯ

 

  1. ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ ธปท. กำหนด
  2. รายงานข้อมูลการประกอบธุรกิจ รวมถึงการรายงานตัว และการนำส่งแบบรายงาน ให้ ธปท. รับทราบ

 

 

อำนาจ ธปท.

 

ตรวจสอบกิจการ สินทรัพย์ และหนี้สินของผู้ประกอบธุรกิจและบุคคลที่เกี่ยวข้อง และออกคำสั่งให้แก้ไขการดำเนินงาน หรือระงับการดำเนินการทั้งหมดหรือบางส่วนหากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

 

 

บทลงโทษ

 

ครอบคลุมทั้งผู้ประกอบธุรกิจ รวมถึงกรรมการ ผู้อำนาจในการจัดการ ผู้รับผิดชอบในการดำเนินงาน มีโทษปรับ โทษจำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ เพื่อให้การกำกับดูแลเป็นไปอย่างมีประสิทธิผล