​เศรษฐกิจโลก-ไทยปี 2023 ปีแห่งความไม่แน่นอน: งานไม่ใหญ่แน่นะวิ (ตอน 1)

แนวโน้มเศรษฐกิจโลกปี 2023 มีความไม่แน่นอนสูงและมีโอกาสที่อาจเกิดการถดถอยทางเศรษฐกิจจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์และเงินเฟ้อ (Geopolitical Recession; Inflationary recession) ทั้งจากปัญหาสงครามในยูเครน และอัตราเงินเฟ้อที่ทรงตัวสูงทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป ส่งผลให้หน่วยงานวิจัยเศรษฐกิจหลายแห่งปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกลงอย่างมีนัยสำคัญ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะประโยชน์ต่อผู้อ่านเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นในปีหน้านี้

World map with graph in futuristic concept suitable for financial investment or Economic trends business idea and all art work design. Abstract finance background


เสียงกลองส่งสัญญาณเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและอาจถึงถดถอยเริ่มดังมากขึ้น

ลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส อดีตรัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ เคยให้ความเห็นว่าจากข้อมูล 75 ปีที่ผ่านมาของเศรษฐกิจสหรัฐฯ พบว่า “หากอัตราเงินเฟ้อสูงเกิน 4% และอัตราการว่างงานต่ำกว่า 5% เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยภายในสองปีข้างหน้า” ซึ่งล่าสุดอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 8.2% (ก.ย. 2022) และอัตราการว่างงานลดลงอยู่ที่ 3.7% (ต.ค. 2022) ซึ่งสะท้อนโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยมีเพิ่มขึ้น

อีกสัญญาณจากตลาดการเงิน (Market signals) คือ “ปรากฎการณ์การผกผันของเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Inverted yield curve)” ซึ่ง ณ ก.ค. 2022 ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นอายุ 2ปี (2.97%) ได้เริ่มแซงหน้าพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวอายุ 10 ปี (2.93%) และล่าสุด ณ 27 ก.ย. ปรับขึ้นเป็น 4.3% และ 3.97% ตามลำดับ ในอดีตปรากฏการณ์นี้สามารถทำนายการถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้ถูกต้องเกือบทุกครั้งตั้งแต่ปี 1955 โดยกรอบเวลาเฉลี่ยที่จะเกิดภาวะถดถอยหลังจากเส้นอัตราผลตอบแทนผกผันอยู่ระหว่าง 6 ถึง 24 เดือน

ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจด้านเศรษฐกิจโลก (Global Leading Economic Index: Global LEI) (รูป F1) จัดทำโดย The US Conference Board ให้ภาพไปในทิศทางเดียวกันคือ มีแนวโน้มขาลงอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะมีโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้นภายในปี 2023 ในทำนองเดียวกัน ดัชนี LEI ด้านเศรษฐกิจสหรัฐมีอัตราการเติบโตในช่วง 6 เดือน (มี.ค.-ก.ย. 2565) ติดลบหรือหดตัว จากปัจจัยรุมเร้าหลายด้านทั้งปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่สูง ตลาดแรงงานที่ชะลอตัว อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจากที่ Fed เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และสภาวะสินเชื่อที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ทำให้ The US Conference Board (10 Nov 2022) ประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2022 จะอยู่ที่เพียง 1.8% และ 0.0% ในปี 2023



เศรษฐกิจโลกปี 2023 ยังต้องฝ่าคลื่นลมมรสุมความเสี่ยงจากสงคราม เงินเฟ้อ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกนับตั้งแต่ปี 1970 ทำให้เราเรียนรู้ว่า “มักจะเกิดภาวการณ์ชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอย่างมีนัยสำคัญในปีก่อนหน้า” ผลการศึกษาของ World Bank (2022) ชี้ว่าหากเทียบเคียงกับในอดีต ในครั้งนี้เริ่มเห็นสัญญาณคล้ายคลึงกันคือ (1) ดัชนีแสดงกิจกรรมทางเศรษฐกิจของทั่วโลกทยอยปรับตัวลงต่อเนื่องตั้งแต่กลางปี 2021 ประกอบกับสินทรัพย์ต่างประเทศและความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงตั้งแต่ต้นปี 2022 และ (2) การคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มเศรษฐกิจหลักสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และจีนปรับลดลงอย่างมาก

สอดคล้องกับการคาดการณ์ของ IMF จากรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฉบับล่าสุด (ต.ค. 2022) (รูป F2) ระบุว่าเศรษฐกิจโลกปี 2023 ยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนและความเสี่ยงข้างหน้าทั้งจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ วิกฤตราคาพลังงานโดยเฉพาะในยุโรป วิกฤตค่าครองชีพ (Cost of living crisis) จากแรงกดดันเงินเฟ้อที่ขยายวงกว้าง รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและจีน และได้คงประมาณการเศรษฐกิจโลกปี 2022 จะเติบโต 3.2% เท่ากับการคาดการณ์เดิมในเดือน ก.ค. 2022 แต่เศรษฐกิจโลกปี 2023 จะขยายตัวลดลงอยู่ที่ 2.7% ต่ำกว่าการคาดการณ์เดิม เทียบกับก่อนวิกฤตโควิด-19 อยู่ที่ประมาณ 3.0% (เฉลี่ยปี 2017-2019)


นอกจากนี้ คาดว่าในปี 2023 กลุ่มเศรษฐกิจหลักซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 1/3 ของเศรษฐกิจโลกจะชะงักงันหรือแทบจะไม่โตจากปี 2022 กล่าวคือ สหรัฐฯ 1.0% สหภาพยุโรป 0.5% ซึ่งลดลงมากจากระดับ 3.1% ในปี 2022 ขณะที่เศรษฐกิจของกลุ่มตลาดเกิดใหม่และกำลังพัฒนาในเอเชียยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีบทบาทช่วยพยุงเศรษฐกิจโลกในปี 2022 และในปี 2023

ในปี 2023 เศรษฐกิจจีนคาดว่าจะขยายตัว 4.4% เพิ่มขึ้นจาก 3.2% ในปี 2022 แต่ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 6.5% ในช่วงก่อนวิกฤตโควิด-19 (เฉลี่ยปี 2017-2019) ขณะที่อินเดียและ ASEAN-5 (อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย สิงคโปร์) ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยสรุป แรงกระแทกในปี 2022 จะเปิดบาดแผลทางเศรษฐกิจอีกครั้งหลังจากที่เพิ่งฟื้นตัวจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 และในปี 2023เศรษฐกิจโลกยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน เนื่องจากความหวังที่เศรษฐกิจเอเชียจะช่วยพยุงเศรษฐกิจโลกในยามที่ตลาดสำคัญขนาดใหญ่ของโลกกำลังซบเซาก็อาจไม่เป็นดังคาด


ความไม่แน่นอนด้านการค้าโลกมีแนวโน้มสูงขึ้น: ผลกระทบต่อกลุ่มเอเชียไม่มากแน่นะวิ?

ในระยะหลังนี้ สัญญาณความเสี่ยงด้านการค้าโลกแบบตลาดแบ่งแยกกลุ่ม (Trade fragmentation) ชัดเจนขึ้น สะท้อนจากดัชนีความไม่แน่นอนของการค้าโลก (Trade uncertainty index) ปรับตัวสูงขึ้น (รูป F3) เป็นผลจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น (1) การตั้งกำแพงภาษีระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในปี 2018 (2) ความตึงเครียดทางการค้าในช่วงสงครามรัสเซีย-ยูเครนปี 2022 ที่ส่งผลให้ชาติตะวันตกคว่ำบาตรทางการค้ากับรัสเซียทั้งการจำกัดการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญไปยังรัสเซีย และการจำกัดการส่งออกพลังงานของรัสเซีย และ (3) เมื่อเร็วๆ นี้ สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกวงจรรวมและส่วนประกอบและอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการออกแบบและผลิตไปยังจีน เป็นต้น


ผู้เขียนประเมินว่าในสถานการณ์ที่จีนสามารถแซงสหรัฐฯ ก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจเบอร์ 1 ของโลก มีขนาดใหญ่ 19% ของเศรษฐกิจโลก (global GDP, PPP current dollars) เทียบกับสหรัฐ 16% ย่อมสร้างความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองมหาอำนาจ จึงน่าจะยังเห็นสงครามการค้าและการค้าแบบตลาดแบ่งแยกกลุ่มต่อไปในระยะข้างหน้า ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดปัญหาห่วงโซ่อุปทานโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และการคาดหวังที่จะพึ่งพาเศรษฐกิจเอเชียเป็นเครื่องยนต์สำคัญพยุงเศรษฐกิจโลกปี 2023 ก็มีความไม่แน่นอนเช่นกัน เนื่องจากเศรษฐกิจเอเชียพึ่งพาตลาดส่งออกกลุ่มเศรษฐกิจหลักในระดับสูง โดย 1/2 ของการนำเข้าในสหรัฐอเมริกา และ 1/3 ของการนำเข้าในยุโรปมาจากเอเชีย

สรุปสั้นๆ ตอน 1 ได้ว่า ปี 2023 จะเป็นปีแห่งความปกติใหม่แบบ VUCA: มีความผันผวน ความไม่แน่นอนสูง ความซับซ้อนสูง และมีความคลุมเครือ อย่างแท้จริงนะวิ!


ผู้เขียน :
ดร.เสาวณี จันทะพงษ์
ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค

คอลัมน์ "แจงสี่เบี้ย" นสพ. กรุงเทพธุรกิจ
ฉบับที่ 21/2565 วันที่ 16 พ.ย. 2565


บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย


เอกสารอ้างอิง:

- Diego Cerdeiro, Siddharth Kothari,Chris Redl (2022), Asia and the World Face Growing Risks From Economic Fragmentation, IMF Blog, 27 October
- IMF (2022), World Economic Outlook, October
- Justin Damien Guénette, M. Ayhan Kose, and Naotaka Sugawara (2022), Is a Global Recession Imminent?, Equitable Growth, Finance and Institutions (EFI) Policy Note, World Bank, 4 September
- Pierre-Olivier Gourinchas (2022), Policymakers Need Steady Hand as Storm Clouds Gather Over Global Economy, IMF Blog, 11 October 2022
-
Shawn Johnson (2022), Conference Board Leading Economic Index (LEI) for America Declined in September, BusinessNews, 20 October
- The US Conference Board (2022), The Global Forecast Update (November 2022) Executive Summary: 10 November
- The US Conference Board (2022), Monthly Updated Global Economic Outlook (November 2022)
- The US Conference Board (2022), (Global recession-Recession Tracking), retrieved on 12 Nov 2022 GLOBAL RECESSION - RECESSION TRACKING | The Conference Board (conference-board.org)
- Will Daniel (2022), Wall Street is predicting a 2023 recession. Here are the red flags you should know about, April 9, 2022, Fortune.com