“Your Data & NaCGA”… เพิ่มโอกาสคนตัวเล็กเข้าถึงสินเชื่อ

คอลัมน์แจงสี่เบี้ย | 02 กันยายน 2568

แบงก์ชาติมีบทบาทสำคัญในการวางรากฐาน ให้ภาคการเงินสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม จึงได้ออกนโยบายเพื่อส่งเสริมการให้บริการทางการเงิน ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อ โดยเฉพาะกลุ่มคนตัวเล็ก ให้ได้รับบริการที่ดียิ่งขึ้นค่ะ

 

ปัจจุบัน SMEs มีจำนวนประมาณ 3.2 ล้านราย ซึ่งสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศราว 35% ของ GDP แต่มีคนตัวเล็ก SMEs ราว 40% ยังคงประสบปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อในระบบสถาบันการเงิน (สง.) จากหลายปัจจัย เช่น การไม่มีสินทรัพย์ที่สามารถใช้เป็นหลักประกันได้ การมีรายได้ที่ไม่แน่นอน และประวัติข้อมูลทางการเงินที่ไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบและบางส่วนจำเป็นต้องพึ่งพาแหล่งเงินทุนนอกระบบแทน ซึ่งมีต้นทุนทางการเงินที่สูง

data

แบงก์ชาติตระหนักถึงความสำคัญของคนตัวเล็ก จึงได้ออกแบบนโยบายเพื่อแก้ปัญหาการเข้าถึงสินเชื่ออย่างยั่งยืน หนึ่งในนั้น คือ โครงการ “Your Data ข้อมูลของคุณ สู่บริการทางการเงินที่ตอบโจทย์์” ซึ่งแบงก์ชาติเปิดตัวไป เมื่อ ต.ค. 67 ค่ะ โครงการ “Your Data” นี้ มีหลักการว่า “ข้อมูลของเรา เรามีสิทธิใช้ข้อมูลของเราได้” โดยมีกลไกที่ให้ผู้ใช้บริการ ใช้สิทธิส่งข้อมูลได้อย่าง สะดวก และ ปลอดภัย

ประโยชน์จากโครงการ “Your Data” มีทั้งต่อ 1. ผู้ใช้บริการทางการเงิน ที่สามารถขอสินเชื่อได้สะดวกขึ้น โดยส่งข้อมูลของตัวเองจากที่ต่าง ๆ  ผ่านช่องทางดิจิทัล ไปสมัครขอสินเชื่อจากผู้ให้บริการหลายรายพร้อมกันได้ ช่วยให้เปรียบเทียบข้อเสนอได้สะดวกรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังเพิ่มโอกาสเข้าถึงสินเชื่อด้วยต้นทุนเหมาะสม โดยเฉพาะผู้ใช้บริการคนตัวเล็กที่มีประวัติทางการเงินในการขอสินเชื่อไม่มากพอ สามารถใช้ข้อมูลอื่น ๆ ประกอบการขอสินเชื่อได้ค่ะ รวมทั้ง ยังมีประโยชน์ให้ผู้ใช้บริการทางการเงินสามารถวางแผนและบริหารจัดการทางการเงินได้ดีขึ้น โดยสามารถรวมข้อมูลบัญชีทางการเงินไว้ที่เดียว เพื่อต่อยอดไปยังบริการอื่น และ 2. ผู้ให้บริการทางการเงิน โครงการ “Your Data” ช่วยลดต้นทุนการตรวจสอบความถูกต้องและประมวลผลข้อมูล จากการรับข้อมูลของผู้ใช้บริการทางดิจิทัล รวมทั้งผู้ให้บริการสามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนานวัตกรรมและต่อยอดบริการ สร้างโอกาสทางธุรกิจได้

 

นอกจากโครงการ “Your Data” แล้ว แบงก์ชาติยังได้ร่วมกับกระทรวงการคลัง พัฒนาหลักการของแนวคิดจัดตั้งสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ (National Credit Guarantee Agency หรือ NaCGA) โดย ครม. มีมติเห็นชอบ เมื่อ 13 ส.ค. 67 เพื่อยกระดับกลไกการค้ำประกันเครดิตของไทยให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น มีความยั่งยืนทางการคลัง และสามารถส่งเสริมให้ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หลากหลายได้ด้วยต้นทุนทางการเงินที่เหมาะสมและสอดคล้องกับระดับความเสี่ยง (Risk-based Pricing) มากยิ่งขึ้น

 

ล่าสุด เมื่อ 19 ส.ค. 2568 ครม. มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.สถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ พ.ศ. …. เพื่อก่อตั้งสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ (NaCGA) ให้เป็นกลไกสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ SMEs โดยจะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่างต่อไป ทั้งนี้ ร่างกฎหมายได้กำหนดให้ หน่วยงานต่างๆ ของรัฐและเอกชน นำส่งข้อมูลต่าง ๆ ให้ NaCGA เพื่อจัดทำแบบจำลองเครดิต ทำให้เกิดเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่รวบรวมข้อมูลของภาคธุรกิจในประเทศ

 

แหล่งทุนของ NaCGA ประกอบด้วย (1) เงินอุดหนุนจากรัฐบาล (2) ค่าธรรมเนียมการค้ำประกันจากผู้ประกอบการ (3) เงินสมทบจาก สง. คิดเป็นสัดส่วนตามเงื่อนไข ทำให้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพางบประมาณภาครัฐเพียงอย่างเดียว

 

NaCGA มีฐานะหน่วยงานของรัฐ จะทำหน้าที่ในการ “ประเมินความเสี่ยงและค้ำประกันเครดิต” ให้ประชาชนที่ขอสินเชื่อกับ ธพ. สง. เฉพาะกิจ (SFIs) และ Non-Bank โดยผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อ ติดต่อ NaCGA ก่อน และ NaCGA จะเป็นผู้ประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตรายบุคคลและค้ำประกันตามระดับความเสี่ยง (Risk-Based Pricing) เฉพาะราย โดยใช้ฐานข้อมูลและแบบจำลองความเสี่ยงด้านเครดิตที่ NaCGA จัดทำขึ้น จากนั้น NaCGA จะออก “ใบค้ำประกันเครดิต” แก่ผู้ขอกู้ เพื่อนำไปยื่นขอสินเชื่อ ซึ่ง สง.จะพิจารณาการปล่อยสินเชื่อ โดยมี NaCGA เป็นผู้รับประกันความเสี่ยงด้านเครดิตแทนบางส่วนหรือทั้งหมดตามเงื่อนไข

NaCGA จะช่วยแก้ไขข้อจำกัดที่กลไกการค้ำประกันปัจจุบันประสบอยู่ โดยกลไกค้ำประกันที่มีอยู่ 1) ไม่มีการคำนวณค่าธรรมเนียมการค้ำประกันสินเชื่อตามระดับความเสี่ยง (Risk-based Pricing) และ 2) ขาดฐานข้อมูลในการวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านเครดิตและความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ประกอบการได้อย่างเป็นรูปธรรม ทำให้รูปแบบปัจจุบันเป็นการค้ำประกันสินเชื่อแบบรวมกลุ่ม (Portfolio Guarantee Scheme: PGS) เป็นหลัก และยังมีการคิดค่าธรรมเนียมการค้ำประกันในอัตราเดียวกันทั้งกลุ่ม จึงทำให้ต้นทุนการค้ำประกันสินเชื่อของลูกหนี้บางกลุ่มอาจสูงกว่าความเสี่ยงที่แท้จริง นอกจากนี้ กลไกปัจจุบันยังไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการด้านสภาพคล่องของผู้ประกอบการที่หลากหลาย เพราะค้ำประกันได้เฉพาะสินเชื่อจาก สง. เท่านั้น จึงยังไม่ครอบคลุมการกู้ยืมจากแหล่งอื่น เช่น สินเชื่อจาก Non-bank

 

ในภาพรวม ทั้งโครงการ “Your Data” และ NaCGA มีส่วนสำคัญในการช่วยเพิ่มโอกาส และ ลดข้อจำกัดการเข้าถึงสินเชื่อของคนตัวเล็ก ที่มีรายได้ไม่แน่นอน หรือ ผู้ขอกู้รายใหม่ ที่ไม่มีประวัติทางการเงิน โดย NaCGA สามารถใช้ข้อมูลที่จะได้รับจาก “Your Data” ร่วมกับข้อมูลอื่น ๆ มาช่วยประเมินความเสี่ยงรายบุคคล ได้แม่นยำขึ้น ก่อนการออกใบค้ำประกันเครดิต โดยคิดค่าธรรมเนียมที่สะท้อนระดับความเสี่ยงของผู้ขอสินเชื่อเป็นรายบุคคล ทำให้ช่วยลดต้นทุนทางการเงินในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ขอกู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ รวมทั้งยังเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินที่หลากหลายขึ้น ไม่จำกัดเฉพาะ ธพ. ค่ะ

 

ท้ายนี้ ผู้เขียนขอประชาสัมพันธ์ “โครงการ “คุณสู้ เราช่วย เฟส 2” สำหรับท่านที่สนใจลงทะเบียน สามารถดำเนินการได้ ภายในสิ้นเดือน ก.ย. นี้ นะคะ

 

** บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของหน่วยงานที่สังกัด **

ผู้เขียน

pornpen photo








ดร.พรเพ็ญ สดศรีชัย
ธนาคารแห่งประเทศไทย
คอลัมน์ "แจงสี่เบี้ย"
ฉบับวันที่ 2 กันยายน 2568 

Your Data บทความ