ผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐอเมริกาต่ออุตสาหกรรมยางพาราไทย
ณิชมล ปัญญาวชิโรกุล | ภาวนิศร์ ชัววัลลี | เอกนุช นวลศรี | ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้
01 ต.ค. 2568
ผลิตภัณฑ์ยางเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกที่มีความเชื่อมโยงกับตลาดสหรัฐอเมริกาสูง และใช้วัตถุดิบภายในประเทศ (local content) เป็นหลัก โดยไทยส่งออกยางล้อและถุงมือยางไปตลาดสหรัฐฯ เป็นอันดับ 1 รวมถึงไทยยังเป็นผู้ส่งออกวัตถุดิบยางพาราให้กับประเทศอื่นในการผลิตผลิตภัณฑ์ยางเพื่อส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ เช่นกัน ทำให้มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย ผู้ประกอบการ แรงงาน และเกี่ยวเนื่องกับเกษตรกรเกือบ 2 ล้านคน
นโยบายภาษีของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบที่แตกต่างกันในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาง โดยอุตสาหกรรมยางล้อคาดว่าได้รับผลกระทบไม่มาก เนื่องจากถูกเก็บภาษีเท่ากับคู่แข่งหลายประเทศ และได้เปรียบจากราคาขายที่ต่ำกว่า ทำให้ความสามารถในการแข่งขันไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะ รวมถึงยังไม่เห็นสัญญาณการย้ายคำสั่งซื้อหรือย้ายฐานการผลิต ขณะที่อุตสาหกรรมยางแท่งและน้ำยางข้น ได้รับการยกเว้นจากภาษีในทุกประเทศ ทำให้ความสามารถในการแข่งขันไม่เปลี่ยนแปลง รวมถึงไทยส่งออกไปสหรัฐฯ ไม่มาก อย่างไรก็ตาม ความกังวลจากภาษีส่งผลให้ราคายางลดลง ซึ่งมีผลต่อเนื่องถึงเกษตรกร สำหรับอุตสาหกรรมถุงมือยางคาดว่าได้รับผลกระทบมากกว่า แม้ว่าถุงมือยางไทยจะมีโอกาสได้ส่วนแบ่งในตลาดสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น จากอัตราภาษีที่เท่ากับมาเลเซียและต่ำกว่าจีน (คู่แข่งหลัก) แต่อาจไม่สามารถชดเชยตลาดภูมิภาคอื่น (Non-US) ที่ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันของถุงมือยางจีนที่รุนแรงขึ้น (China flooding) รวมถึงเริ่มเห็นสัญญาณการย้ายฐานการผลิตของโรงงานถุงมือยางจีนไปยังเวียดนามและอินโดนีเซียเพื่อลดภาระภาษี ทำให้มีแนวโน้มเผชิญความท้าทายที่มากขึ้นในอนาคต
ปัจจุบัน ผู้ประกอบการปรับตัวโดยการปรับรูปแบบการซื้อขายให้ส่งมอบได้เร็วขึ้น ปรับชั่วโมงการทำงานแทนการลดพนักงาน และชะลอแผนการลงทุนใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะตลาดที่ผันผวน นอกจากนี้ ยังมีแผนปรับตัวหาตลาดที่มีมูลค่าสูงขึ้น อาทิ สินค้าตามมาตรฐาน EUDR ถุงมือยางอุตสาหกรรม รวมถึงลดต้นทุนด้านพลังงาน อาทิ ปรับใช้ Solar cell เพื่อรักษาอัตรากำไรและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระยะต่อไป ทั้งนี้ นโยบายทางการค้าของสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผลกระทบจากอุปสงค์ที่อาจลดลงจากภาระภาษีที่เพิ่มขึ้น การแข่งขันของสินค้าจีน (China flooding) ในตลาดภูมิภาคอื่น และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว รวมถึงความเสี่ยงจากภาษีในรูปแบบอื่น ๆ อาทิ ภาษี Transshipment ภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-dumping: AD) และภาษีตอบโต้การอุดหนุน (Countervailing duties: CVD) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของไทยในอนาคต
บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งไม่จำเป็นสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย