พัฒนาการความเป็นเมืองของภาคใต้ ความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของคน

ณิชมล ปัญญาวชิโรกุล I สุรเชษฐ์ ศรีภูริรักษ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้

06 มี.ค. 2568

บทสรุปผู้บริหาร

ความเป็นเมือง หรือ Urbanization เป็นหนึ่งใน Megatrend ของโลก โดย UN คาดการณ์ว่าในปี 2593 จะมีประชากรโลกอยู่ในเขตเมืองเพิ่มขึ้นถึง 68% ของประชากรทั้งหมด ส่งผลให้ทั่วโลกก้าวเข้าสู่ยุคของคนเมืองอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งประเทศไทยเองก็มีการขยายตัวของประชากรในเขตเมืองเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับกระแสโลกเช่นกัน อีกทั้งในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมา เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดในต่างจังหวัด โดยเฉพาะเมืองหลักของภูมิภาคต่าง ๆ อาทิ เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา ภูเก็ต และชลบุรี ส่งผลให้เมืองเหล่านี้มีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยมากขึ้น และช่วยลดปัญหาจากการกระจุกตัวในกรุงเทพเพียงแห่งเดียว

 

สำหรับความเป็นเมืองในระดับภูมิภาค พบว่า ภาคใต้มีพัฒนาการของความเป็นเมืองและมีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สูงกว่าภาคเหนือและภาคอีสาน แต่เศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของคนกลับเติบโตได้ช้ากว่าความเป็นเมืองที่เพิ่มขึ้น ซึ่งข้อเท็จจริงในลักษณะนี้อาจไม่สอดคล้องกับความเข้าใจของคนทั่วไปที่มักคิดว่า พื้นที่ใดที่มีความเป็นเมืองสูง หรือมีความเป็นเมืองเพิ่มขึ้น พื้นที่นั้นควรมีเศรษฐกิจที่เติบโตได้ดีและผู้คนมีความเป็นอยู่ที่ดี

 

ในการยกระดับเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของคนในภาคใต้อาจต้องมองลึกลงไประดับจังหวัด เพราะในแต่ละพื้นที่มีทรัพยากรพื้นฐานและพัฒนาการความเป็นมาที่แตกต่างกัน ซึ่งในรายงานฉบับนี้ได้หยิบยกเรื่องราวของจังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช และพัทลุงมาบอกเล่า และแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ทำให้พอสรุปได้ว่า ในเรื่องของการพัฒนาเมืองนั้น ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว หรือไม่มี One-size-fits-all สิ่งสำคัญคือ ต้องเข้าใจพื้นฐานของเมือง และจัดลำดับความสำคัญในการพัฒนา หากเมืองใดมีประเด็นที่อาจยังเป็นอุปสรรคอยู่ ก็ต้องไม่ลืมที่จะพัฒนาจุดนั้นก่อน เพื่อไม่ให้ฉุดรั้งการก้าวไปข้างหน้าของเมือง สุดท้ายแล้ว หากเมืองต่าง ๆ ในภูมิภาคของไทยสามารถพัฒนาเมืองไปพร้อมกับยกระดับเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของคนได้มากขึ้น ก็จะช่วยสร้างสมดุลให้กับเศรษฐกิจไทย และสนับสนุนให้ประเทศไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน

Southern Urbanization


Disclaimer: งานศึกษานี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย