การเข้ามาของสินค้าและการลงทุนทำธุรกิจของต่างชาติที่เปลี่ยนไป
พรวลี พิลาวรรณ I รสสุคนธ์ ศึกษานภาพัฒน์ I ณัคนางค์ กุลนาถศิริ I จิรัฐ เจนพึ่งพร I อภิชญา ผู้อุตส่าห์ ธนาคารแห่งประเทศไทย
27 ก.ย. 2568
การเข้ามาของสินค้าและการลงทุนจากต่างชาติไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ บริบทของโลกที่เชื่อมโยงขึ้น การทำแบบเดิม อาทิ กลยุทธ์การทำธุรกิจ และมาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงอาจไม่เพียงพอ เราจึงต้อง “มองเห็น” และ “เข้าใจ” สิ่งที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลง โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไทยเผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้าง การไหลเข้ามาของสินค้าและเม็ดเงินจากต่างชาติ จึงส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะจีนที่เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่สะท้อนบริบทของโลกที่เชื่อมโยงกันมากขึ้น
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ไทยนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว เพราะผู้บริโภคและธุรกิจได้ประโยชน์จากสินค้าราคาถูกกว่า และหลากหลายกว่า ขณะที่สินค้าที่นำเข้าจากประเทศอื่นเพิ่มขึ้น 20% อย่างไรก็ตาม ในอีกมุมหนึ่ง ผู้ผลิตไทยโดยเฉพาะ SMEs ที่ผลิตสินค้าเดียวกับสินค้าที่นำเข้าจากจีนซึ่งมีกว่า 2 แสนราย แรงงานกว่า 2 ล้านคน ต้องเร่งปรับตัว นอกจากนี้ หลายฝ่ายยังมีความกังวลกรณีสินค้าที่นำเข้าโดยไม่ผ่านการตรวจสอบโดยเฉพาะด้านมาตรฐาน มองไปข้างหน้าสินค้านำเข้าที่จะเข้ามาในไทยยังมีแนวโน้มมากขึ้น
ด้านการลงทุนตั้งแต่ปี 2566 จีนเป็นประเทศที่ลงทุนในไทยมากที่สุด และเข้ามาในรูปแบบถือหุ้นร่วมกับชาวไทย โดยพบมากในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การค้า และการผลิต ทั้งนี้ การลงทุนของธุรกิจต่างชาติยังกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่เศรษฐกิจหลัก ผลดีที่เห็นได้ชัดคือธุรกิจต่างชาติมีส่วนช่วยเพิ่มผลประกอบการให้กับธุรกิจไทยที่ถือหุ้นร่วมด้วย แต่ในภาพรวมไทยอาจได้รับประโยชน์ไม่เต็มที่เพราะธุรกิจต่างชาติส่วนใหญ่ใช้ local content ในไทยไม่มาก รวมทั้งแรงงานไทยที่มีทักษะตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรมยังไม่เพียงพอ
ข้อเสนอเชิงนโยบายจึงเน้นการกำกับมาตรฐานสินค้านำเข้า ทบทวนแนวทางสิทธิประโยชน์การลงทุน และขยายตลาดเพื่อกระจายสินค้า ผ่าน FTA เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้แก่ของธุรกิจไทย
Disclaimer: งานศึกษานี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย