อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง (Internet Banking)
Internet Banking เป็นธนาคารออนไลน์ที่ใช้งานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยผู้ใช้บริการสามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่นเดียวกับการทำธุรกรรมที่ธนาคาร รวมถึงชำระค่าสินค้าและบริการ
- เพิ่มความสะดวกสบายและเพิ่มช่องทางในการชำระเงินผ่านเว็บไซต์ให้กับร้านค้าและผู้ซื้อสินค้า
- ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมการชำระเงิน
- ใช้บริการที่ไหนก็ได้ที่สามารถใช้ระบบอินเทอร์เน็ตได้ ไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง
- ไม่ควรใช้เครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะในการทำธุรกรรม
- หลีกเลี่ยงการตั้ง Password ที่ง่ายต่อการคาดเดา และไม่บอก User ID และ Password แก่ผู้อื่น พร้อมทั้งเปลี่ยน Password อย่างน้อยทุก 3 เดือน
- หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ใด ๆ ที่แนบมาพร้อมกับอีเมล
- อย่าหลงเชื่อตอบหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลสำคัญทางการเงิน เช่น Username, Password, ATM PIN และหมายเลขบัตรเครดิต/บัตรเดบิต ไม่ว่าจะถามทางอีเมล โทรศัพท์ โทรสาร หรือจดหมาย ก็ตาม อย่าลืมว่าสถาบันผู้ออกบัตรมีข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้ว และระลึกไว้เสมอว่าผู้ถามอาจจะเป็นมิจฉาชีพ
- ควรติดตั้งและปรับปรุงโปรแกรมเพื่อการรักษาความปลอดภัยที่เครื่องคอมพิวเตอร์ และ/หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงที่ใช้เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมให้ทันสมัย เช่น โปรแกรม Scan Virus และโปรแกรม Personal Firewall
- ไม่ควรดาวน์โหลด ติดตั้งโปรแกรมที่ไม่น่าเชื่อถือ โปรแกรมที่ไม่ทราบแหล่งที่มา และกรณีไม่ได้ใช้งานควรปิด Bluetooth และ Wireless
- ทุกครั้งที่ใช้บริการเสร็จ ควรคลิก "ออกจากระบบ" (Log off, Log out, Sign off) ทันที เพื่อป้องกันมิให้ผู้อื่นสามารถทำรายการจากบัญชีของท่านได้
- การซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตควรพิจารณาเรื่องความปลอดภัยของทั้งร้านค้าออนไลน์และผู้ให้บริการชำระเงิน ร้านค้าออนไลน์ที่เชื่อถือได้จะได้รับใบรับรองดิจิตอล (Digital Certificate) ซึ่งส่วนใหญ่จะมีระบบความปลอดภัยของข้อมูลโดยการเข้ารหัสก่อนส่งทุกครั้ง โดยมีเครื่องหมายรับรองความปลอดภัยของการส่งผ่านข้อมูลแบบ SSL (Secure Socket Layer) ซึ่งแสดงว่าเว็บไซต์นี้ได้รับการรับรองความปลอดภัยในการส่งผ่านข้อมูลระหว่างกัน หรือร้านค้าออนไลน์บางแห่งอาจมีการใช้ระบบลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) ด้วย