เคยเป็นไหม...? เงินเดือนออกต้นเดือน ใช้ไปใช้มาแค่ไม่กี่วัน อ้าว! เงินหมด เกิดคำถามขึ้นมากมาย คิดวนไปวนมาเพื่อหาคำตอบว่า เงินที่ได้มานั้นหายไปไหน ถ้าอยากรู้ว่าเงินหายไปไหน ลองมาทำตามขั้นตอนนี้กัน
เงินหายไปไหน
เคยเป็นไหม...? เงินเดือนออกต้นเดือน ใช้ไปใช้มาแค่ไม่กี่วัน อ้าว! เงินหมด เกิดคำถามขึ้นมากมาย คิดวนไปวนมาเพื่อหาคำตอบว่า เงินที่ได้มานั้นหายไปไหน ถ้าอยากรู้ว่าเงินหายไปไหน ลองมาทำตามขั้นตอนนี้กัน
1. ทำความรู้จักกับรายจ่าย
ก่อนจะหาว่าเงินหายไปไหน เราต้องทำความรู้จักกับรายจ่ายก่อน รายจ่ายของเราแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ
1) รายจ่ายจำเป็น เป็นรายจ่ายที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ถ้าไม่จ่ายอาจกระทบถึงสุขภาพหรือคุณภาพชีวิต เช่น อาหาร ยารักษาโรค รายจ่ายประเภทนี้ตัดไม่ได้แต่ลดได้ เช่น แทนที่จะกินอาหารมื้อหรู ก็เลือกกินอาหารราคาธรรมดาที่มีสารอาหารครบ
2) รายจ่ายไม่จำเป็น เป็นรายจ่ายที่ไม่กระทบต่อการดำรงชีวิตหากไม่จ่าย แต่อาจทำให้มีความสุขน้อยลงบ้าง รายจ่ายประเภทนี้สามารถตัดหรือลดได้ เช่น ลดค่ากาแฟ เลิกเหล้า เลิกบุหรี่ เลิกซื้อหวย
แต่ความจำเป็นของคนเราแตกต่างกัน เราไม่อาจตัดสินแทนใครได้ว่า สิ่งไหนจำเป็น สิ่งไหนไม่จำเป็น เพราะรายจ่ายบางรายการ อาจจำเป็นสำหรับคนหนึ่ง แต่อาจไม่จำเป็นสำหรับคนอีกคน
ตัวอย่างเช่น รถยนต์อาจเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนที่มีอาชีพขับรถแท็กซี่ หรือตัวแทนขายสินค้า แต่อาจไม่จำเป็นต่อคนที่ทำงานในบริษัทใกล้บ้าน หรือเครื่องสำอางอาจเป็นรายจ่ายจำเป็นสำหรับผู้ชายและผู้หญิงหลายคน แต่ก็อาจเป็นของไม่จำเป็นสำหรับคนอีกหลายคน
2. ตามหาเงินที่หายไป
เมื่อรู้จักประเภทของรายจ่ายแล้ว เราก็มาตามหาเงินที่หายไปกัน โดยกรอกรายจ่ายที่ไม่จำเป็นในตารางด้านล่าง หรือดาวน์โหลด worksheet เงินหายไปไหน มาคำนวณก็ได้ หากไม่รู้จะกรอกยังไง ลองอ่านวิธีการกรอกตามด้านล่าง
ความถี่ในการซื้อ | * ตัวเลขที่ใช้คูณ เป็นความถี่ต่อปี |
ทุกวัน | 365 |
ทุกวันที่มาทำงาน | 260 |
ทุกสัปดาห์ | 52 |
เดือนละ 2 ครั้ง | 24 |
ทุกเดือน | 12 |
3. ตัดใจจากรายจ่ายไม่จำเป็น
ถ้าเรามีเงินพอ เก็บออมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องตัดรายจ่ายไม่จำเป็นเหล่านี้ แต่เมื่อไหร่ที่เราเริ่มมีเงินไม่พอใช้ หรืออยากมีเงินไว้ใช้ทำอย่างอื่น ก็คงต้องลองตัดใจจากรายจ่ายไม่จำเป็น แต่จะมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละคน
แต่ถ้าเรายังทำใจตัดไม่ได้ ก็อาจลดจำนวนครั้งในการซื้อ หรือซื้อของที่มีประโยชน์คล้ายกันแต่ในราคาที่ถูกลง เช่น กาแฟ จากเดิมที่ซื้อแบบแพงทุกวันที่ไปทำงาน อาจเปลี่ยนเป็นซื้อแบบแพง 2 วันแล้วซื้อแบบที่ราคาถูกลงมาหน่อยอีก 3 วัน
เราสามารถทำแบบนี้กับรายจ่ายไม่จำเป็นทุกรายการเพื่อดูว่า ในแต่ละปีเราใช้จ่ายไปกับของไม่จำเป็นเหล่านี้เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ ใครจะไปรู้ เราเจอเงินที่หายไปจากรายจ่ายไม่จำเป็นนี้เยอะเลยก็ได้