ข้อดี
- 1. ค่างวดที่ต่ำในช่วงแรก ช่วยลดภาระการผ่อนชำระ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน
- 2. เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคต ช่วยให้ผู้กู้สามารถวางแผนการเงินได้ง่ายขึ้น เมื่อรายได้เพิ่มขึ้น
การผ่อนชำระค่างวดแบบขั้นบันได
(step up)
การผ่อนชำระแบบขั้นบันได (step up) คืออะไร
สัญญาผ่อนชำระแบบขั้นบันได (step up) คือสัญญาที่กำหนดให้ผู้กู้ผ่อนชำระค่างวดเป็นลำดับขั้น โดยช่วงแรกผู้กู้สามารถเริ่มต้นผ่อนชำระด้วยค่างวดที่ต่ำ และจะทยอยจ่ายค่างวดเพิ่มขึ้นตามช่วงเวลาที่ระบุไว้ในสัญญา เช่น ในช่วง 3 ปีแรกค่างวดจะต่ำกว่าช่วง 3 ปีถัดไป และค่างวดจะเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของสัญญา ซึ่งจะแตกต่างจากสัญญาผ่อนชำระแบบคงที่ (fixed rate) ซึ่งกำหนดให้ชำระค่างวดเท่ากันตลอดอายุสัญญา
การผ่อนชำระแบบขั้นบันไดนี้ จะช่วยให้ผู้กู้สามารถเริ่มต้นผ่อนชำระด้วยภาระที่น้อยลงในช่วงแรก ซึ่งอาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน หรือมีรายได้ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม ผู้กู้จะต้องเตรียมตัวรับมือกับค่างวดที่เพิ่มขึ้นในอนาคต และควรศึกษาข้อมูลและรายละเอียดของสัญญาจากหลายๆธนาคารเพื่อเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจ
การคำนวณค่าระหว่างสัญญาผ่อนชำระแบบขั้นบันไดและสัญญาผ่อนชำระแบบคงที่
ตัวอย่าง
นาย ก. กู้เงิน 5,000,000 บาท ระยะเวลา 20 ปี อัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี
สัญญาผ่อนชำระแบบขั้นบันได: ค่างวดในช่วง 3 ปีแรก ลดลง 20% จากค่างวดปกติ*
ค่างวดปีที่ 1-3: 14,544 บาท/เดือน
ค่างวดปีที่ 4-20: 19,118 บาท/เดือน
สัญญาผ่อนชำระแบบคงที่: ค่างวดคงที่ตลอดระยะเวลา 20 ปี
ค่างวดปีที่ 1-20 18,179.41 บาท/เดือน
สังเกตว่าในช่วง 3 ปีแรก นาย ก. จะมีภาระค่างวดที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับสัญญาผ่อนชำระแบบคงที่ แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงปีที่ 4-20 นาย ก. จะต้องชำระค่างวดที่สูงกว่า อย่างไรก็ดี ในการคำนวณดอกเบี้ย ค่างวดและระยะเวลาการผ่อนที่ถูกต้อง ผู้กู้ควรปรึกษากับผู้ให้สินเชื่อ
*ค่างวดปกติ หมายความว่า อัตราการผ่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นรายเดือน จำนวนเท่า ๆ กันตลอดอายุสัญญากู้ โดยใช้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดของสัญญามาคำนวณ
หมายเหตุ: อย่าสับสนกับการคิดดอกเบี้ยแบบ step up ที่หมายถึงการมีดอกเบี้ยหลายอัตราแต่ผู้กู้ชำระค่างวดเท่าเดิม โดยในสัญญาจะระบุอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ เช่น
- ปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี
- ปีที่ 2-3 อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี
- ปีต่อไปจนครบสัญญา อัตราดอกเบี้ย 7% ต่อปี