ดำเนินการภายใต้หลักการสำคัญ 5 ข้อ
1. ตรงจุด เน้นให้สินเชื่อใหม่กับธุรกิจ SMEs ในธุรกิจเป้าหมาย หรือผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพ เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า โดยครอบคลุมทั้งสินเชื่อระยะยาว (term loan) และสินเชื่อหมุนเวียน (working capital ซึ่งไม่รวม overdraft) ที่วัตถุประสงค์สอดคล้องกับโครงการ
2. มี impact ช่วยให้มีเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยไม่ช้า (ชดเชยสินเชื่อปล่อยใหม่ภายใน 2 ปีนับจากวันเริ่มโครงการ) ครอบคลุมระยะเวลาค้ำประกันยาวเพียงพอ (ไม่เกิน 7 ปีนับจากวันที่ปล่อยสินเชื่อ) และชดเชยในอัตราที่เพียงพอรองรับความเสี่ยง (ในช่วง 15-30% ขึ้นกับขนาดของธุรกิจ) ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้เกิดการปล่อยสินเชื่อใหม่ประมาณ 5 เท่าของวงเงินชดเชย
3. กระจายตัว เน้นช่วย SMEs และกระจายความช่วยเหลือให้ธุรกิจอย่างทั่วถึงโดยกำหนดวงเงินสินเชื่อรวมทุกธนาคารพาณิชย์สูงสุดต่อรายไม่เกิน 100 ล้านบาท สำหรับ SMEs และไม่เกิน 150 ล้านบาท สำหรับธุรกิจรายใหญ่
4. คล่องตัว ธนาคารพาณิชย์บริหารจัดการสินเชื่อได้คล่องตัว เพราะทราบโควตาวงเงินชดเชยที่ได้รับจัดสรรชัดเจน ณ วันปล่อยสินเชื่อ และบริหารจัดการการขอรับเงินชดเชยภายในโควตาได้สะดวกจากกระบวนการขอรับเงินชดเชยที่ไม่ซับซ้อนและไม่ต้องรองบประมาณภาครัฐ
5. ป้องกัน moral hazard ธนาคารพาณิชย์พิจารณาสินเชื่ออย่างรัดกุมและบริหารจัดการหนี้ก่อนมาขอรับเงินชดเชย ซึ่งหากปล่อยสินเชื่อแล้วเป็นหนี้เสียเร็ว จะไม่สามารถขอรับเงินชดเชยได้ และหากเป็นหนี้เสียแล้ว ต้องปรับโครงสร้างหนี้อย่างน้อย 1 ครั้งก่อนมาขอรับการชดเชย