การเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การรู้จักลูกค้า (Know Your Customer: KYC) สำหรับการเปิดบัญชีเงินฝากของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ

8 วัน

Public hearing

สรุปสาระสำคัญ

ธนาคารแห่งประเทศไทยขอเชิญร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อ (ร่าง) หลักเกณฑ์การรู้จักลูกค้า (Know Your Customer: KYC) สำหรับการเปิดบัญชีเงินฝากของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ผ่านหน้าเว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย และระบบกลางทางกฎหมาย

ช่วงเวลาในการเปิดรับฟังความคิดเห็น

 

ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2568 จนถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2568

 

วัตถุประสงค์/หลักการ/เหตุผล

 

            ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดหลักเกณฑ์การรู้จักลูกค้า (Know Your Customer: KYC) สำหรับการเปิดบัญชีเงินฝากของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เนื่องจากการเปิดบัญชีเงินฝากถือเป็นจุดเริ่มต้นในการให้บริการทางการเงินต่าง ๆ กับลูกค้าต่อไป ซึ่งประกอบด้วย 2 ขั้นตอนสำคัญ ได้แก่ (1) การแสดงตนของลูกค้า (identification) และ (2) การพิสูจน์ตัวตนลูกค้า (verification) เพื่อให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจมีกระบวนการ KYC ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันการทุจริตจากการปลอมแปลงข้อมูลบุคคลหรือการใช้ข้อมูลบุคคลอื่นในการทำธุรกรรมทางการเงิน

            อย่างไรก็ดี เนื่องด้วยพัฒนาการของเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้น สามารถนำมาใช้ในกระบวนการ KYC สำหรับการเปิดบัญชีเงินฝากได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เทคโนโลยีเปรียบเทียบข้อมูลชีวมิติของลูกค้า (biometric comparison) และระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล ธปท. จึงปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจมีกระบวนการ KYC ที่มีประสิทธิภาพและสามารถดำเนินการได้อย่างคล่องตัว โดยสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

            1. ปรับปรุงหลักเกณฑ์การแสดงตนของลูกค้า (identification) โดยให้ถือปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดโดยหน่วยงานกำกับดูแลอื่น

            2. เพิ่มความยืดหยุ่นในการพิสูจน์ตัวตนลูกค้า (verification) แบบไม่พบเห็นลูกค้าต่อหน้า (non face-to-face) โดยให้สามารถใช้ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลที่ได้มาตรฐานในการพิสูจน์ตัวตนลูกค้าเพียงขั้นตอนเดียวได้ เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกในการเปิดบัญชีเงินฝากที่สะดวกสอดรับกับพัฒนาการของเทคโนโลยี และช่วยให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจมีต้นทุนการดำเนินการที่เหมาะสม

            3. เพิ่มทางเลือกให้สามารถใช้กระบวนการอื่นตามระดับความเสี่ยงของลูกค้าและช่องทางการให้บริการที่สอดคล้องกับการบริหารความเสี่ยงของสถาบันการเงินเฉพาะกิจได้ สำหรับการเปิดบัญชีเงินฝากในครั้งต่อไปให้กับลูกค้าปัจจุบันที่เคยผ่านกระบวนการ KYC แล้ว โดยการเพิ่มทางเลือกดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่สถาบันการเงินเฉพาะกิจในการให้บริการลูกค้าที่เคยผ่านการ KYC มาแล้ว โดยยังมีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม

            4. เพิ่มความยืดหยุ่นให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจสามารถขออนุญาตต่อ ธปท. ได้เพิ่มเติมหากประสงค์จะใช้กระบวนการอื่นในการรู้จักลูกค้าเพื่อเปิดบัญชีเงินฝาก หรือกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดได้ โดยการเพิ่มแนวทางการขออนุญาตนี้จะช่วยสร้างความยืดหยุ่นในการดำเนินการของสถาบันการเงินเฉพาะกิจและสนับสนุนนวัตกรรมของกระบวนการ KYC สำหรับการเปิดบัญชีเงินฝาก

ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติม

งานนโยบายด้านปฏิบัติการ ฝ่ายนโยบายการกำกับสถาบันการเงิน

e-mail: FIOP-RPD@bot.or.th

โทรศัพท์ 0 2283 5856, 0 2283 6851

* ธปท. จะเก็บรักษาความลับและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ในการแสดงความคิดเห็นต่อกฎหมายดังกล่าวเท่านั้น ทุกความคิดเห็นที่มีต่อกฎหมายดังกล่าวจะไม่มีผลทางกฎหมาย *