MPC ค่าสะท้อนพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนในภูมิภาค

พันธวิศ กิตติสุวรรณ

04 พ.ย. 2568

 

บทสรุปผู้บริหาร

เคยสังเกตไหมว่า คนเรา “ใช้เงินไม่เหมือนกัน”


บางคนได้เงินเพิ่มมาก็เลือกใช้ทันที ส่วนบางคนแทบไม่ได้แตะเลย คนรายได้น้อยมักใช้รายได้ส่วนเพิ่มไปกับของจำเป็นในชีวิตประจำวัน — อาหาร เสื้อผ้า หรือค่ารักษาพยาบาล ส่วนคนรายได้สูงกลับเลือกเก็บออม หรือนำไปใช้ในรูปแบบอื่นแทน รายได้เพิ่มขึ้นเท่ากัน แต่ผลของมันกลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง

และถ้ามองให้ลึกลงไปอีก “ภูมิภาคที่เราอยู่” ก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กัน คนอีสานอาจใช้เงินส่วนเพิ่มเพื่อจ่ายค่าครองชีพหรือดูแลครอบครัว ส่วนคนกรุงเทพฯ อาจใช้ไปกับความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันหรือการเดินทาง คนเหนือกับคนใต้ก็มีรูปแบบการใช้จ่ายที่ต่างกันตามโครงสร้างรายได้ ค่าครองชีพ และวิถีชีวิตของพื้นที่นั้น ๆ ความต่างเหล่านี้ไม่ได้สะท้อนแค่ฐานะทางการเงิน แต่ยังสะท้อน “ความจริงของชีวิต” ในแต่ละภูมิภาค

 

แนวคิดทางเศรษฐศาสตร์เรียกสิ่งนี้ว่า MPC (Marginal Propensity to Consume) — ค่าที่บอกว่า เมื่อรายได้ของคนเพิ่มขึ้น 1 หน่วย พวกเขาจะใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเท่าไร การรู้ค่า MPC ของแต่ละกลุ่มรายได้และแต่ละภูมิภาค จึงช่วยให้เราเข้าใจ “นิสัยการใช้จ่ายของคนไทย” ได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น ว่าฐานชีวิตที่ต่างกัน ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้จ่ายอย่างไร

 

เพราะในความเป็นจริง คนที่มีรายได้น้อยมักมีค่า MPC สูง — เมื่อรายได้เพิ่มขึ้นก็จำเป็นต้องใช้เพื่อเติมเต็มสิ่งที่ขาด ขณะที่คนรายได้สูงมีค่า MPC ต่ำกว่า เพราะรายได้ที่มีอยู่เพียงพอแล้วต่อการดำรงชีวิต การเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้จึงมีความสำคัญต่อการออกแบบ มาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย ให้ “ตรงจุด” มากขึ้น ไม่ใช่แค่ในเชิงตัวเงิน แต่ในเชิงพฤติกรรมของผู้คน

 

การจัดทำค่า MPC ในระดับภูมิภาคจึงไม่ใช่เพียงเรื่องของตัวเลขทางเศรษฐศาสตร์ แต่เป็นการสะท้อนภาพจริงของชีวิตผู้คนในแต่ละพื้นที่ ว่าพวกเขาตอบสนองต่อรายได้ที่เปลี่ยนแปลงอย่างไร ข้อมูลนี้สามารถใช้เป็นเครื่องมือช่วยให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตาม ประเมิน และออกแบบมาตรการช่วยเหลือหรือกระตุ้นการใช้จ่ายได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น สอดคล้องกับลักษณะของรายได้ ค่าครองชีพ และพฤติกรรมของประชาชนในแต่ละภูมิภาคอย่างแท้จริง

regional_mpc_and_spending_behavior_in_thailand


Disclaimer: งานศึกษานี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย