มาตรการแก้หนี้ยั่งยืน

--- คำเกริ่นนำ ---

 

ประเภทสินเชื่อ

 

___________

 

แนวทางการช่วยเหลือ

แก้หนี้ก่อนและหลังเป็นหนี้เสีย
       
โครงการคลินิกแก้หนี้    

แก้หนี้บัตรกดเงินสด

(เริ่ม 1 เม.ย. 67)

      
ไม่คิดค่าปรับชำระหนี้ก่อนกำหนด (prepayment fee)      
ไม่คิดค่าธรรมเนียมปรับปรุงโครงสร้างหนี้      
ไม่คิดดอกเบี้ยบนดอกเบี้ย (เริ่ม 1 ก.ค. 67)      
ได้รับข้อมูลสำคัญครบถ้วนเปรียบเทียบได้      

การแก้หนี้ยั่งยืน

เจ้าหนี้ต้องเสนอแผนปรับโครงสร้างหนี้ ทั้งก่อนและหลังลูกหนี้เป็น NPL อย่างน้อย 1 ครั้ง

1. ปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้เกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible lending)

แนวทางการช่วยเหลือ

• เจ้าหนี้เสนอแผนปรับโครงสร้างหนี้ 

- ก่อนเป็น NPL* อย่างน้อย 1 ครั้ง และ

- หลังเป็น NPL อย่างน้อย 1 ครั้ง ก่อนถูกฟ้องดำเนินคดี โอนขายหนี้ หรือยึดทรัพย์

*สำหรับลูกหนี้ที่ไม่เคยได้รับการปรับโครงสร้างหนี้

•สถาบันการเงินจะไม่โอนขายหนี้ในช่วง 60 วัน หลังเสนอแผนปรับโครงสร้างหนี้

ลูกหนี้ที่เข้าเงื่อนไข

• ประเภทสินเชื่อ: สินเชื่อรายย่อยทุกประเภท เช่น สินเชื่อบ้าน บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพ (Nano finance) สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และสินเชื่อ SMEs

• สถานะหนี้: ทุกสถานะ (หนี้ปกติ หนี้เริ่มค้างชำระ และหนี้เสีย)

วันที่มีผลบังคับใช้

1 ม.ค. 67 เป็นต้นไป

ช่องทางการติดต่อ

ติดต่อเจ้าหนี้ ผ่านช่องทาง ดังนี้ > คลิก

การเตรียมตัว

• สำรวจสถานะ รายรับ-รายจ่าย ประเมินความสามารถในการชำระหนี้

• เตรียมเอกสาร/ข้อมูลให้พร้อม เช่น สลิปเงินเดือน เอกสารแสดงรายรับ-รายจ่าย

• พิจารณาทางเลือกปรับโครงสร้างหนี้ที่เหมาะสมกับตนเอง เพื่อไปเจรจากับเจ้าหนี้

• วิธีปรับโครงสร้างหนี้มีอะไรบ้าง > คลิก

  

2. คลินิกแก้หนี้

แนวทางการช่วยเหลือ

• รวมหนี้เสียจากทุกเจ้าหนี้ที่เข้าร่วมโครงการไว้ในที่เดียว

• ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3 – 5% ต่อปี 

• สำหรับดอกเบี้ยและค่าปรับค้างชำระเดิมก่อนเข้าโครงการ เจ้าหนี้จะยกให้เมื่อลูกหนี้ชำระได้ครบถ้วนตามสัญญา

ลูกหนี้ที่เข้าเงื่อนไข

• เป็นหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน

• มีรายได้ อายุไม่เกิน 70 ปี ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย

• เป็นหนี้เสีย (NPL) ที่ค้างชำระมากกว่า 120 วัน

• มียอดหนี้ไม่เกิน 2 ล้านบาท

1. หนี้เรื้อรังกลุ่มเปราะบาง

ปิดจบหนี้เรื้อรังกลุ่มเปราะบาง (Severe Persistent Debt)

แนวทางการช่วยเหลือ

• จะได้รับการแจ้งเตือนให้เข้าร่วมมาตรการ 

• เปลี่ยนเงื่อนไขสัญญาเป็นสินเชื่อที่ผ่อนชำระเป็นงวด (installment loan) ให้ปิดจบหนี้ภายใน 5 ปี 

• ได้ลดอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง ไม่เกิน 15% ต่อปี

ลูกหนี้ที่เข้าเงื่อนไข

• เป็นหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลประเภทวงเงินหมุนเวียน

• จ่ายดอกเบี้ยรวมมากกว่าเงินต้นรวม 5 ปีที่ผ่านมา

- มีรายได้ต่อเดือนน้อยกว่า 20,000 บาท สำหรับลูกหนี้ธนาคารพาณิชย์ หรือ Non-bank ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 

- มีรายได้ต่อเดือนน้อยกว่า 10,000 บาท สำหรับลูกหนี้ Non-bank ที่ไม่อยู่ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 

ดูรายชื่อสถาบันการเงิน และ Non-bank ที่อยู่ภายใต้กำกับของ ธปท. > คลิก

วันที่มีผลบังคับใช้

1 เม.ย. 67 เป็นต้นไป

ช่องทางการติดต่อ

ติดต่อเจ้าหนี้ ผ่านช่องทาง ดังนี้ > คลิก

  

2. หนี้ที่เริ่มมีสัญญาณปัญหาหนี้เรื้อรัง

กระตุกเตือนหนี้ที่เริ่มมีสัญญาณปัญหาหนี้เรื้อรัง (General Persistent Debt)

แนวทางการช่วยเหลือ

จะได้รับการแจ้งเตือนเพื่อกระตุกพฤติกรรม และสามารถขอความช่วยเหลือให้ชำระหนี้ได้เร็วขึ้น ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น จดหมาย อีเมล SMS mobile application หรือ LINE Official Account

ลูกหนี้ที่เข้าเงื่อนไข

• เป็นหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลประเภทวงเงินหมุนเวียน

• จ่ายดอกเบี้ยรวมมากกว่าเงินต้นรวม 3 – 5 ปีที่ผ่านมา

1. ค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยให้เป็นธรรม

ปรับปรุงการคิดค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยให้เป็นธรรมขึ้น

ห้ามคิดค่าปรับชำระหนี้ก่อนกำหนด (prepayment fee)

• ประเภทสินเชื่อ : สินเชื่อส่วนบุคคลทุกประเภท 
ไม่รวมกรณี refinance สินเชื่อบ้านในช่วงเวลา 3 ปีแรก เพื่อให้ลูกหนี้มีโอกาสได้ดอกเบี้ยต่ำ

• วันที่มีผลบังคับใช้ : 1 ม.ค. 67

ห้ามคิดค่าธรรมเนียมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้

• ประเภทสินเชื่อ : สินเชื่อทุกประเภท

ยกเว้นกรณี สถาบันการเงิน จัดให้ประเมินหลักประกันเพิ่มเพื่อประกอบการกำหนดเงื่อนไขปรับโครงสร้างหนี้

• วันที่มีผลบังคับใช้ : 1 ม.ค. 67

ห้ามคิดดอกเบี้ยบนดอกเบี้ย

• ประเภทสินเชื่อ : สินเชื่อรายย่อย รวมกรณีบัญชีเดินสะพัดของสินเชื่อวงเงินกู้เบิกเกินบัญชี (overdraft)

• วันที่มีผลบังคับใช้  : 1 ก.ค. 67

  

2. หนี้ที่เริ่มมีสัญญาณปัญหาหนี้เรื้อรัง

โฆษณาและเสนอขาย โดยแสดงข้อมูลสำคัญถูกต้อง ชัดเจนครบถ้วน และไม่กระตุ้นให้ลูกหนี้ก่อหนี้เกินควร

“เตือน” และ “กระตุก” ให้ชำระหนี้อย่างมีวินัย

ตัวอย่าง

 

 

เดิมสิ่งที่จะเห็น
แสดงเงื่อนไขผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจน“ดอกเบี้ย 0%”

ดอกเบี้ย 0% เมื่อจ่ายเต็มจำนวนภายในวันครบกำหนดชำระ

แสดงอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Effective Interest Rate: EIR) ทั้งต่ำสุดและสูงสุด

“อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด MLR-1%”

“อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 6.05 - 10% ตลอดสัญญา”

แสดงวิธีการคิดค่างวด เช่น เงินต้น ภาระดอกเบี้ยทั้งสัญญา และระยะเวลาผ่อนชำระ“ผ่อนหมื่นละ 10 บาทต่อวัน”

“ผ่อนหมื่นละ 10 บาทต่อวัน

ตัวอย่างการคำนวณ: กู้ 10,000 บาท ดอกเบี้ย 25% ต่อปี ผ่อนเป็นงวด นาน 5 ปี ดอกเบี้ยรวม 7,200 บาท ค่างวด 300 บาทต่อเดือน (=10 บาทต่อวัน)”

แจ้งเตือนการจ่ายชำระหนี้ - มีข้อความแจ้งเตือน ก่อนถึงกำหนดจ่ายหนี้ (กลุ่มเสี่ยง) และเมื่อมีภาระค่างวด/ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากงวดก่อนหน้าผ่านช่องทางต่างๆ เช่น SMS mobile app.
กระตุกพฤติกรรมจ่ายขั้นต่ำMobile app. ตั้งค่าเริ่มต้น (default) ไว้ที่ การชำระขั้นต่ำMobile app. ตั้งค่าเริ่มต้น (default) ไว้ที่การชำระเต็มจำนวน และแสดงคำเตือนถึงภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้น หากลูกหนี้เลือกชำระขั้นต่ำ/ไม่เต็มจำนวน

หากได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือได้รับบริการที่ไม่เป็นธรรมติดต่อร้องเรียนได้ที่ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน โทร. 1213