สรุปภาพรวมธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 1 ปี 2566

สรุปภาพรวมธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 1 ปี 2566 | 22 พฤษภาคม 2566

สรุปสาระสำคัญ
  • ระบบธนาคารพาณิชย์มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยมีเงินกองทุน เงินสำรอง และสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง สามารถทำหน้าที่สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง
  • ยังต้องติดตามความสามารถในการชำระหนี้ของกลุ่มครัวเรือนเปราะบางที่รายได้ฟื้นตัวช้าและมีหนี้สูง และการฟื้นตัวของธุรกิจบางกลุ่ม

ระบบธนาคารพาณิชย์มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยมีเงินกองทุน เงินสำรอง และสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง สามารถทำหน้าที่สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ ในไตรมาส 1 ปี 2566 ขยายตัวที่ร้อยละ 0.51/ ชะลอลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน จากการชำระคืนหนี้ของภาครัฐ ธุรกิจขนาดใหญ่ และ Soft loans รวมทั้งการบริหารจัดการคุณภาพหนี้ โดยธุรกิจขนาดใหญ่ ส่วนหนึ่งระดมทุนผ่านตราสารหนี้ อย่างไรก็ดี สินเชื่อยังขยายตัวได้จากธุรกิจรายใหญ่ในภาคการเงินและพาณิชย์ รวมทั้งสินเชื่อรายย่อยพอร์ตที่อยู่อาศัย และสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นสำคัญ ด้านคุณภาพสินเชื่อ ธนาคารพาณิชย์มีการบริหารจัดการคุณภาพหนี้และให้ความช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่องด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ ส่งผลให้ยอดคงค้างสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Non-Performing Loan: NPL หรือ stage 3) ณ ไตรมาส 1 ปี 2566 ลดลงมาอยู่ที่ 498.0 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมที่ร้อยละ 2.68 สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2566 ปรับดีขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน ผลจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของสินเชื่อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น สุทธิกับต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินรับฝากและ FIDF Fee กลับสู่ระดับปกติ ประกอบกับกำไร FVTPL จากตราสารอนุพันธ์เป็นสำคัญ แม้ค่าใช้จ่ายดำเนินงานและค่าใช้จ่ายสำรองจะเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ หากเทียบไตรมาสก่อนกำไรสุทธิลดลงร้อยละ 4.0 จากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับไตรมาสก่อนมีรายได้พิเศษจากการขายและโอนพอร์ตสินเชื่อรายย่อย แม้ค่าใช้จ่ายสำรองและค่าใช้จ่ายดำเนินงานจะปรับลดลง

 

อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามความสามารถในการชำระหนี้ของกลุ่มครัวเรือนเปราะบางที่รายได้ฟื้นตัวช้าและมีหนี้สูง และการฟื้นตัวของธุรกิจบางกลุ่ม โดยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ทรงตัวจากไตรมาสก่อน ขณะที่ภาคธุรกิจ สัดส่วนหนี้สินภาคธุรกิจต่อ GDP ปรับลดลงต่อเนื่อง ด้านความสามารถในการทำกำไรปรับลดลง แต่ฐานะการเงินโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยยังต้องติดตามผลกระทบจากอุปสงค์ในตลาดโลกที่ชะลอลง และบางธุรกิจที่อ่อนไหวต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาสถาบันการเงินยังให้ความช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับความสามารถ
ในการชำระหนี้ของกลุ่มเปราะบาง

 

 


1/ สินเชื่อรวมขยายตัวร้อยละ 1.3 เมื่อบวกกลับผลจากการโอนธุรกิจสินเชื่อบัตรเครดิตและส่วนบุคคลไปยังบริษัทลูกของ ธพ. แห่งหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตาม

ความสามารถในการชำระหนี้ของกลุ่มครัวเรือนเปราะบาง

ที่รายได้ฟื้นตัวช้าและมีหนี้สูง

และการฟื้นตัวของธุรกิจบางกลุ่ม 

คาดการณ์โดย ธนาคารแห่งประเทศไทย

ข้อมูลเพิ่มเติม

ส่วนวิเคราะห์ความเสี่ยงสถาบันการเงิน

+66 0 2283 5980 0 2356 7796

BRAD@bot.or.th

info