ธปท.กับธนบัตร
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ขยายตัวมายังทวีปเอเชียจนกลายเป็นสงครามมหาเอเชียบูรพา ญี่ปุ่นได้ยกกองทัพเข้ามาในประเทศไทยเพื่ออาศัยเป็นฐานทัพในการสู้รบและยึดครองประเทศข้างเคียงซึ่งเป็นอาณานิคมของประเทศคู่สงคราม ประเทศไทยตกอยู่ในภาวะจำยอมต้องทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับญี่ปุ่น และถูกยื่นข้อเสนอให้จัดตั้งธนาคารกลางโดยมีที่ปรึกษาและหัวหน้าหน่วยงานเป็นชาวญี่ปุ่น ดังนั้น เพื่อรักษาอิสรภาพและเสถียรภาพทางการเงินของประเทศมิให้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของชนต่างชาติ รัฐบาลไทยจึงเร่งจัดตั้งธนาคารกลางขึ้นอย่างรีบด่วน โดยประกาศใช้พระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย พุทธศักราช 2485 เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2485 พร้อมทั้งจัดตั้งธนาคารแห่งประเทศไทยขึ้นทำหน้าที่ในฐานะธนาคารกลางของประเทศ และได้ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2485
มาตรา 5 "ให้จัดตั้งธนาคารกลางขึ้น เรียกว่า 'ธนาคารแห่งประเทศไทย' เพื่อรับมอบการออกธนบัตรจากกระทรวงการคลัง และประกอบธุรกิจอันพึงเป็นงานธนาคารกลางตามบทแห่งพระราชบัญญัตินี้และพระราชกฤษฎีกาออกตามความในพระราชบัญญัตินี้"
ดังนั้น กิจการทั้งปวงและอำนาจในการดำเนินการเกี่ยวกับธนบัตร ซึ่งเดิมเป็นงานในหน้าที่ของกองเงินตรา กรมคลัง กระทรวงการคลัง จึงได้โอนมาอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นับแต่นั้นมา
ต่อมาในพุทธศักราช 2551 เพื่อให้ ธปท. ดำเนินภารกิจอันพึงเป็นงานของธนาคารกลาง ในการดำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพทางการเงิน ทันต่อเหตุการณ์และสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจทางการเงินของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงได้พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยตรา พระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 ขึ้น มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2551
พระราชบัญญัติฉบับนี้ กำหนดอำนาจหน้าที่ของ ธปท. ที่เกี่ยวข้องกับธนบัตรและบัตรธนาคารไว้ ดังนี้
มาตรา 7 ธปท. มีวัตถุประสงค์ในการดำเนินภารกิจอันพึงเป็นงานของธนาคารกลาง เพื่อดำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพทางการเงิน และเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงินและระบบการชำระเงิน
มาตรา 8 ให้ ธปท. มีอำนาจกระทำกิจการต่างๆ เพื่อบรรลุซึ่งวัตถุประสงค์ตามมาตรา ๗ และอำนาจเช่นว่านี้ให้รวมถึงการดำเนินการดังต่อไปนี้ด้วย
(1) การออกและจัดการธนบัตรของรัฐบาลและบัตรธนาคาร
มาตรา 9 ห้าม ธปท. กระทำการดังต่อไปนี้
(5) รับจ้างพิมพ์ธนบัตร บัตรธนาคาร พันธบัตร อากรแสตมป์ หรือสิ่งพิมพ์อื่นใดที่มีระบบป้องการการปลอมแปลง ตลอดจนจำหน่ายหมึกพิมพ์หรืออุปกรณ์อันเกี่ยวเนื่องกับการพิมพ์สิ่งพิมพ์ดังกล่าว เว้นแต่เป็นกรณีที่ได้กระทำกับรัฐบาลไทย รัฐบาลต่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศ สถาบันการเงิน หรือนิติบุคคลที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น และโดยได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ ธปท.
มาตรา 30 ให้ ธปท. เป็นผู้ออกธนบัตรของรัฐบาล โดยอยู่ภายใต้บังคับแห่งบทบัญญัติของกฎหมายว่าด้วยเงินตรา
มาตรา 31 ให้ ธปท. มีสิทธิแต่ผู้เดียวที่จะออกบัตรธนาคารในราชอาณาจักร ให้ถือว่าบัตรธนาคารที่ ธปท. ออกตามวรรคหนึ่ง เป็นธนบัตรตามกฎหมายว่าด้วยเงินตรา และให้การออกและจัดการบัตรธนาคารอยู่ภายใต้บังคับแห่งบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวด้วย
มาตรา 32 ให้ถือว่าบัตรธนาคารเป็นเงินตราตามประมวลกฎหมายอาญา