​ไขปริศนาเงินเฟ้อต่ำด้วยราคาสินค้าออนไลน์และออฟไลน์

นางสาวพิม มโนพิโมกษ์
นางสาววรดา ลิ้มเจริญรัตน์
นายอัครพัชร์ เจริญพานิช
นายชนกานต์ ฤทธินนท์
สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์

ทราบกันหรือไม่ว่า ปัญหาเงินเฟ้อต่ำกำลังเป็นปัญหาสำคัญของโลกและประเทศไทย

นางเจเน็ต เยลเลน อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางของสหรัฐได้กล่าวไว้เมื่อปีที่แล้วว่า “สิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดสาหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ คือ อัตราเงินเฟ้อ” นั่นเป็นเพราะพลวัตเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และหลายประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยกำลังเปลี่ยนไป ในช่วงที่ผ่านมา เงินเฟ้อของประเทศไทยอยู่ในระดับที่ต่ำต่อเนื่อง ค่าเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2010 อยู่เพียง 0.6 เปอร์เซนต์ ซึ่งต่ำกว่าในช่วงทศวรรษก่อนหน้าถึง 2 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งแล้ว เงินเฟ้อก็ยังคงต่ำต่อเนื่อง จึงกลายเป็นปริศนาว่า เพราะเหตุใดอัตราเงินเฟ้อจึงไม่สูงตามการขยายตัวด้านเศรษฐกิจของประเทศ

อัตราเงินเฟ้อต่ำ เป็นปรากฏการณ์ที่ท้าทายต่อการดำเนินนโยบายการเงิน เพราะการที่เงินเฟ้อต่ำอย่างต่อเนื่อง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดสภาวะเงินฝืด หรือสภาวะเศรษฐกิจซบเซาอย่างที่ประเทศญี่ปุ่นได้เผชิญมาเป็นเวลานานนับตั้งแต่ช่วงปี 1990 นอกจากนี้ การที่ดูเสมือนว่าเงินเฟ้อจะไม่ตอบสนองกับสภาพเศรษฐกิจที่กาลังขยายตัวในช่วงนี้ ทำให้ผู้ดำเนินนโยบายต้องคิดหนักว่าจะยังสามารถใช้เครื่องมืออัตราดอกเบี้ยนโยบายกระตุ้นหรือชะลอการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจได้เหมือนในอดีตหรือไม่

ภาวะเงินเฟ้อต่ำทั่วโลก เป็นผลของการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของระบบเศรษฐกิจในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต การค้นพบแหล่งพลังงานใหม่จากหินน้ำมัน (shale oil) หรือการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นจากการที่ตลาดโลกมีความเชื่อมโยงกันผ่านการเปิดเสรีทางการค้า งานวิจัยที่ผ่านมา มักวิเคราะห์ผลกระทบของปัจจัยเชิงโครงสร้างเหล่านี้ต่อเงินเฟ้อโดยการประมาณค่าแรงกดดันด้านราคาที่แท้จริง (underlying price pressure) จากการตัดหมวดสินค้าที่มีความผันผวนระยะสั้นสูงออกจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไป เช่น ราคาอาหารสด และพลังงาน แต่การวัดแรงกดดันด้านราคาที่แท้จริงด้วยวิธีนี้อาจไม่แม่นยำเสมอไป โดยเฉพาะถ้าสาเหตุหลักที่ทาให้เงินเฟ้อต่ำในช่วงที่ผ่านมาคือการลดลงอย่างต่อเนื่องของราคาน้ามันโลก

คณะผู้วิจัยขอนำเสนอวิธีใหม่เพื่อวิเคราะห์แรงกดดันที่แท้จริงของประเทศไทย โดยการนำราคาสินค้าและบริการรายย่อยหลายร้อยรายการที่กระทรวงพาณิชย์เก็บรวบรวมมาจากร้านค้าขายปลีกทั่วประเทศ (คณะผู้วิจัยเรียกข้อมูลในส่วนนี้ว่าข้อมูลออฟไลน์) มาแยกส่วนความเคลื่อนไหวของราคาด้วยวิธีทางเศรษฐมิติ เพื่อ "สกัด" เอาส่วนที่เป็นตัวสะท้อนแรงกดดันด้านราคาที่แท้จริงของประเทศ ซึ่งการใช้ข้อมูลราคาสินค้ารายย่อยจานวนมากเพื่อศึกษาปัจจัยขับเคลื่อนเงินเฟ้อ ย่อมนำไปสู่ความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อต่ำได้ในมิติที่ลึกและครอบคลุมยิ่งขึ้น

แล้วเงินเฟ้อไทยในอนาคตจะยังต่ำต่อไปหรือไม่? สาเหตุหนึ่งที่อาจส่งผลให้เงินเฟ้อไทยต่ำต่อไปในโลกอนาคตอันใกล้ คือการที่พาณิชย์อิเล็กโทรนิกส์ (e-commerce) กาลังมีบทบาทมากขึ้นอย่างรวดเร็ว การพัฒนาการค้าผ่าน electronic platform อาจพลิกโฉมรูปแบบของตลาดการค้าขายปลีกและส่งผลกระทบต่อพลวัติเงินเฟ้อ



ปัจจัยใดส่งผลให้เงินเฟ้อไทยต่ำ? และทิศทางเงินเฟ้อในอนาคตจะเปลี่ยนไปหรือไม่? คณะผู้วิจัยขอเชิญชวนเข้ารับฟังการนาเสนอผลงานวิจัยฉบับเต็มเรื่อง “Decoding the Low Inflation Conundrum with Online and Offline Price Data” ได้ในงานสัมมนาวิชาการธนาคารแห่งประเทศไทย ประจาปี 2561 ในหัวข้อ “สู่ยุคใหม่ ของระบบการเงินและธนาคารกลาง” วันที่ 24-25 กันยายน 2561 ณ โรงแรม Centara Grand at Central World (รายละเอียดที่ www.bot.or.th/BOTSymposium2018)

บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย