​กล้า ตั้งสุวรรณ ชนะเกมธุรกิจด้วย BIG DATA

กล้า ตั้งสุวรรณ

 

          ด้วยความเชื่อที่ว่า “โลกนี้จะดีขึ้นถ้าเราเข้าใจกัน และการจะเข้าใจกันได้ต้องมีข้อมูลเป็นสื่อกลาง” กลายเป็น “คุณค่า” ที่ผลักดันให้ไวซ์ไซท์ก้าวมาสู่การเป็นผู้นำธุรกิจด้านวิเคราะห์ข้อมูลอันดับหนึ่งในประเทศไทยและกำลังทะยานแรงไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง

 

          มีคำกล่าวว่า “Data is king” ทั้งยังเป็น “คุณค่า” ที่สร้าง “มูลค่า” ได้ ธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูลสื่อออนไลน์แห่งหนึ่งจึงเกิดขึ้นในนาม Thoth Media ก่อนจะเปลี่ยนเป็น Thoth Zocial และ Wisesight ในปี 2561 และเมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัทก็เพิ่งปิดรอบการลงทุนซีรีส์ B ที่สามารถระดมทุนได้กว่า 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐจาก 2 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ Krungsri Finnovate และ TechMatrix ของญี่ปุ่น นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายศักยภาพของบริษัทในอนาคต โดยชื่อ “Wisesight” นอกจากบ่งบอกถึงตำแหน่งทางธุรกิจในการเป็นผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลแบบ “เจาะลึก” แล้ว ก็ยังสะท้อนถึงเป้าหมายการให้บริการที่ช่วยให้ลูกค้ามี “สายตาแห่งปัญญา” บนพื้นฐานของข้อมูลที่ชัดเจนและเชื่อถือได้ นำไปสู่การตัดสินใจหรือการวางกลยุทธ์การสื่อสารและการตลาดที่ชาญฉลาด

 

 

นวัตกรรมสร้างคุณค่า


 

          คุณกล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกเล่าถึงความเป็นมาว่า เขาเชื่อในพลังของข้อมูล เมื่อจับจังหวะการมาถึงของสื่อสังคมออนไลน์มารวมกับทักษะด้านโปรแกรมเมอร์ พร้อมทั้งประสบการณ์การทำงานในสำนักข่าวระดับโลกอย่างรอยเตอร์ส ที่เขาพบแก่นธุรกิจว่าแท้จริงแล้วคือข้อมูลสามารถสร้างมูลค่าได้ จึงเป็นแรงบันดาลใจในการก่อตั้งธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับองค์กรที่ปัจจุบันรีแบรนด์เป็นไวซ์ไซท์ โดยมีนวัตกรรมหลักในการบริการลูกค้า 4 เครื่องมือด้วยกัน คือ

 

                1. ZOCIAL EYE แพลตฟอร์มสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์ (social listening)

 

                2. WARROOM เครื่องมือที่ช่วยตอบคำถามหรือช่วยแก้ปัญหาด้วยการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์

 

                3. RESEARCH บริการวิเคราะห์ข้อมูลโซเชียลในเชิงลึกโดยนักวิเคราะห์มืออาชีพ

 

                4. ENGAGE บริการที่ช่วยให้เกิดการสื่อสารที่ถูกต้องและสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้า

 

          นอกจากนี้ ไวซ์ไซท์ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ ๆ ออกมาตอบโจทย์ตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ Online PR Score Calculator ที่จะวัดและประมวลผลการประชาสัมพันธ์ออนไลน์ได้ถูกต้อง แม่นยำ น่าเชื่อถือ คล้ายกับการคำนวณ PR Value แบบเดิม แต่ได้พัฒนาขึ้นเพื่อการประชาสัมพันธ์ออนไลน์โดยเฉพาะ และ Influencer Directory ที่จะช่วยให้องค์กรเฟ้นหาอินฟลูเอนเซอร์ได้ตรงจุดมากขึ้น

 

          “ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่จะมีการเชื่อมโยงกับฟังก์ชันของธุรกิจมากขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น ที่สำคัญลูกค้า SMEsสามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องใช้งบประมาณสูงเพื่อจ้างเอเจนซีดำเนินการ”

 

​กล้า ตั้งสุวรรณ ยืนเอ็ค

 

ชัยชนะที่ยั่งยืน


 

 ซีอีโอไวซ์ไซท์เปิดเผยว่า ลูกค้าของบริษัทมี 4 กลุ่มหลักคือ กลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ กลุ่มเอเจนซี กลุ่มหน่วยงานภาครัฐ และกลุ่มโครงการรวมระบบจัดเก็บข้อมูล (System Integration: SI) ต่าง ๆ แต่ในปีหน้า ไวซ์ไซท์จะขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มSMEs ซึ่งเป็นฐานรากสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย

          คุณกล้ายังบอกด้วยว่า ระบบหลังบ้านของไวซ์ไซท์เต็มไปด้วยการใช้เทคโนโลยีและข้อมูลมหาศาลที่บริษัทใช้เวลาเก็บจากสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ มากว่า 5 - 6 ปี จนเป็น big data ที่ช่วยลูกค้าในการวิเคราะห์ข้อมูลได้มากกว่า 1.5 หมื่นล้านข้อความ นวัตกรรมจึงนับเป็นจุดเด่นหลักของบริษัท และการให้บริการของไวซ์ไซท์ก็เหมือนการผลิตหนังสือดี ๆ เล่มหนึ่งที่อ่านซ้ำได้เรื่อย ๆ ยิ่งอ่านก็ยิ่งเข้าใจผู้บริโภค เข้าใจสังคม เข้าใจตลาดมากขึ้น

          “ผมเป็นคนสายเทคโนโลยี ดังนั้นสำหรับผม ซอฟต์แวร์ที่ดีคือเปิดมาแล้วต้องใช้ได้ทุกครั้ง ไม่ล่ม ไม่เจ๊ง ไม่มีบั๊ก จุดเด่นเราจึงเป็นความน่าเชื่อถือ (reliability) และความไว้วางใจของลูกค้า (trust) เราให้คุณค่า 2 เรื่องนี้สูงมาก ถ้าเปรียบกับทีมฟุตบอล นวัตกรรมเปรียบเหมือนกองหน้าที่ทำให้เราชนะในเกม แต่การจะเป็นแชมป์หรือเป็นเบอร์หนึ่งตลอดกาลได้มันอยู่ที่กองหลัง ซึ่งก็คือ trust กับ reliability ที่เราหย่อนยานไม่ได้”

          เมื่อถูกถามถึง goal หรือประตูชัยในเกมต่อไปของไวซ์ไซท์คืออะไร คุณกล้าบอกว่า หลังปิดรอบการลงทุนซีรีส์ B ไปเมื่อไตรมาส 3 ทำให้ไวซ์ไซท์สามารถยกระดับการพัฒนานวัตกรรมได้มากขึ้น ซึ่งนอกเหนือจาก 2 เครื่องมือใหม่ที่กล่าวถึงก่อนหน้า ก็ยังมีระบบปฏิบัติการที่ถือเป็นพระเอกตัวใหม่ของบริษัทคือ Kirin Engine โดยชื่อ “Kirin” นั้นแผลงมาจากกิเลน สัตว์ในตำนานที่มีสติปัญญาปราดเปรื่อง

          “การเติบโตของไวซ์ไซท์นอกจากการเป็นผู้นำด้านการวิเคราะห์ข้อมูลโซเชียลแล้ว การผนึกกำลังร่วมกับพาร์ตเนอร์ที่แข็งแกร่งยังเป็นรากฐานที่ดีให้บริษัทเทคสตาร์ทอัปสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนในระดับองค์กรใหญ่ เราชนะในเกมพอสมควรและยังต้องชนะในเกมต่อไป แต่การจะเติบโตต่อไปได้ เราต้องเข้าไปมีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผมจึงมองกระดานใหม่ไปที่ตลาด SMEs พร้อมทั้งหาพันธมิตรเพิ่มเพื่อต่อยอดธุรกิจออกไป”

 

 

ปลาเร็วในโลกดิจิทัล


 

อกระแสการพัฒนาเทคโนโลยีที่ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) เข้ามามีบทบาทขับเคลื่อนธุรกิจมากขึ้น จนกล่าวได้ว่าเรากำลังก้าวสู่ยุคทองของ AI ซึ่งทรงอิทธิพลแห่งยุคสมัย คุณกล้าบอกว่าความจริงแล้ว AI ถูกนำมาใช้นานแล้ว และถึงที่สุด AI ก็ไม่สามารถเข้ามาแทนที่คนได้ เพราะ AI ต้องพึ่งพาสติปัญญาของมนุษย์

          ขณะเดียวกัน เมื่อพัฒนาการทางเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนโลกก้าวเข้าสู่การเป็นชุมชนเสมือนจริง (metaverse) ไวซ์ไซท์เองก็ได้จับตาดูความเคลื่อนไหวของเทรนด์ที่จะดำเนินไปอยู่ตลอดเวลา โดยมองว่าระยะสั้นอาจยังไม่มีผลกระทบรุนแรงต่อบริษัทมากนัก แต่ในระยะยาวรูปแบบข้อมูลที่จะนำมาใช้วิเคราะห์ย่อมเปลี่ยนแปลงไป

          “ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่าโลกดิจิทัลเปลี่ยนแปลงเร็วมาก แม้เรายังไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่เราก็ต้องพร้อมปรับตัวไปกับมัน เราไม่สามารถหยุดความเปลี่ยนแปลงได้ ผู้ประกอบการจึงห้ามหยุดอยู่กับที่ เราอาจเหนื่อยเพราะไม่สามารถหยุดอะไรได้ แต่ไม่มีใครเก่งจริงไปตลอดกาล ดังนั้น ใครเรียนรู้ได้เร็วกว่าคนนั้นก็จะเป็นคนเก่งกว่าในที่สุด และแนวคิดนี้ก็จะเป็นสิ่งที่ทำให้ไวซ์ไซท์เติบโตได้”

          คุณกล้าได้ยกตัวอย่างถึงวิธีการปรับตัวของไวซ์ไซท์ว่า เขาและทีมงานจะบินไปซิลิคอนวัลเลย์ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางสตาร์ทอัปของโลกและใช้เวลารวมอยู่ที่นั่นประมาณ 1 เดือนต่อปี เพื่อดูว่าบริษัทที่เป็นผู้นำของโลกทำอะไรกันอยู่ แล้วเอามา “ปรุงรส” ให้เข้ากับบริบทที่คนไทยทำได้

          “ถ้าโลกเปลี่ยนมันจะเปลี่ยนที่นั่นก่อน เราเห็นก่อนจะปรับตัวได้ก่อน เรามีการปรับองค์กรเพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานของคนรุ่นใหม่ เพราะหน้าที่ของเราคือออกแบบสภาพแวดล้อมให้น้อง ๆ สามารถใช้พลังงานของเขาได้เต็มที่เพื่อขับเคลื่อนองค์กรเรา”

          ซีอีโอไวซ์ไซท์กล่าวต่อไปว่า ทุกวันนี้งานทางด้าน big data, data analytics หรือ data science ในระดับโลกถือว่าเป็นงานที่เซ็กซี่ที่สุดของศตวรรษที่ 21 จึงมีผู้สนใจเข้ามาทำงานเป็นจำนวนมาก แต่งานเหล่านี้ต้องผ่านการฝึกฝน แม้จะไม่ง่าย แต่ใครที่เข้ามาก็นับว่ามาถูกทาง และมีอนาคตสดใส ซึ่งส่วนตัวคิดว่าไวซ์ไซท์มีระบบบ่มเพาะพนักงานใหม่ค่อนข้างดี ขอเพียงแสดง passion และโชว์ทักษะให้เห็นว่าสามารถที่จะใช้ความเก่งนั้นได้ บริษัทก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่

          หลังการสนทนาเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของไวซ์ไซท์เสร็จสิ้น เราก็ได้ขอให้คุณกล้าเผยถึงเทรนด์ผู้บริโภคเพื่อเป็นไอเดียในการวางกลยุทธ์ของผู้ประกอบการ คำตอบที่ได้รับคือมุมมองในทิศทางที่ว่า จากผลกระทบของสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ในปีนี้ ทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกเกิดความลังเลในทุก ๆ เรื่อง ทุกการกระทำของผู้บริโภคจึงมีเป้าหมายในระยะสั้นเป็นหลัก ทุกอย่างต้องรวดเร็ว ผู้ประกอบการจึงต้องมีความรวดเร็วตามไปด้วย 

          “ตอนนี้คนที่ผมไม่ค่อยห่วง คือ corporate เพราะมีทุนพอสมควร สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ และใช้ data ในการขับเคลื่อนหมด ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคและการแข่งขันกับคู่แข่งตลอดเวลา เพราะฉะนั้นจึงสามารถปรับเปลี่ยนได้รวดเร็ว แต่คนที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ SMEs เพราะข้อมูลประกอบการตัดสินใจของ SMEs มีน้อย และตอนนี้บ้านเราไม่ค่อยมีนโยบายที่จะปกป้องไม่ให้ corporate ไปไล่กินพื้นที่ของ SMEs”

 

กล้า ตั้งสุวรรณ

 

เคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูล


 

ในโอกาสครบรอบ 80 ปีของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในปีหน้านี้ คุณกล้าก็ได้แสดงทัศนะต่อการดำเนินงานของ ธปท. ด้วยว่า ธปท. ได้ผลักดันหลายสิ่งหลายอย่างออกมารวดเร็วมากเมื่อเปรียบเทียบกับหลายประเทศ อย่างเช่น การทำให้เกิด QR code ในประเทศไทย และการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) ซึ่งเขาก็หวังว่า ธปท. จะมีการปรับตัวที่รวดเร็วอีกในหลาย ๆ เรื่อง

          นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนองค์กรให้เป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (data-driven organization) ก็มีความสำคัญอย่างมากในการช่วยให้ ธปท. สามารถสร้างความเข้าใจและการสื่อสารที่ถูกต้องระหว่างประชาชนกับสถาบันการเงิน รวมถึง ธปท. เอง และยังมีประโยชน์ในการนำข้อมูลมาใช้เป็นเครื่องมือในการวางกลยุทธ์ด้านการสื่อสาร ซึ่งขณะนี้ไวซ์ไซท์ก็มีความร่วมมือกับ ธปท. ในการพัฒนาเรื่องดังกล่าวด้วย

          “การปรับองค์กรให้เป็น data-driven organization มีความสำคัญอย่างมาก เพราะการมีข้อมูลที่ดีจะช่วยให้เกิดการตัดสินใจที่ชัดเจน ถูกต้อง ซึ่งเราก็มีความยินดีที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้แบงก์ชาติเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมากขึ้น” คุณกล้ากล่าวทิ้งท้าย