สัมมนาเชิงปฏิบัติการประจำปี 2568 ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ หัวข้อ “สร้างโอกาสธุรกิจ SMEs ภายใต้ทิศทางของโลกยุคใหม่”
ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ (ธปท. สภน.) จัดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการประจำปี 2568 หัวข้อ “สร้างโอกาสธุรกิจ SMEs ภายใต้ทิศทางของโลกยุคใหม่” ในวันอังคารที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 9.00-12.00 น. ณ อาคารอเนกประสงค์ ธปท. สภน. จ.เชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจ SMEs สถาบันการเงิน สถาบันการศึกษา หน่วยงานราชการ และประชาชนในภาคเหนือ ได้รับทราบทิศทางภูมิทัศน์ภาคการเงินที่ ธปท. อยู่ระหว่างดำเนินการ ฉายภาพอนาคตธุรกิจ SMEs และแลกเปลี่ยนมุมมองจากการถอดบทเรียนคลินิกเสริมแกร่งการเงิน SMEs ที่ได้ขยายผลในพื้นที่ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นเพื่อนำไปสู่การปรับนโยบายที่ตอบโจทย์ โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาประมาณ 250 คน
กำหนดการ | |
09.00 น. | กล่าวเปิดงานสัมมนา โดย ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) |
09.15 น. | Talk “SMEs จะปรับตัวอย่างไรในโลกการเงินดิจิทัล” โดย แซม ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตันสกุล โฮลดิ้งค์ จำกัด |
09.45 น. | Talk “การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคการเงินดิจิทัลและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สำหรับ SMEs” โดย ชนานันท์ สุภาดุลย์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธปท. |
10.10 น. | พักรับประทานอาหารว่าง |
10.30 น. | “คลินิกเสริมแกร่งการเงิน SMEs” โดย - ณิชนาฏ ภูลสนอง รองผู้อำนวยการ ธปท. สำนักงานภาคเหนือ - ศรันยา อิรนพไพบูลย์ ผู้วิเคราะห์อาวุโส ธปท. สำนักงานภาคเหนือ |
10.50 น. | แลกเปลี่ยนความคิดเห็น “จากคลินิกเสริมแกร่งการเงิน SMEs สู่การขยายผล” - สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ ผู้อำนวยการ ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs บสย. F.A. Center - ชลิดา ธนินกุลภรณ์ หัวหน้าส่วนจัดการทรัพย์สินทางปัญญาและนวัตกรรม สถาบันวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง - วิน ศรีนวกุล ผู้ก่อตั้ง Khao-SŌ-i ข้าวโซอิ ชวนคุย โดย พรวิภา ตั้งเจริญมั่นคง ผู้อำนวยการอาวุโส ธปท. สำนักงานภาคเหนือ |
11.50 น. | กล่าวสรุปและปิดงานสัมมนา โดย พรวิภา ตั้งเจริญมั่นคง ผู้อำนวยการอาวุโส ธปท. สำนักงานภาคเหนือ |
ได้รับเกียรติจาก คุณชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ ธปท. กล่าวเปิดงาน โดยเน้นว่างานสัมมนาเชิงปฏิบัติการของสำนักงานภาคเหนือในปีนี้เป็นการสานต่อเจตนารมณ์จากปีก่อน เพื่อใช้เวทีนี้เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหาทางออกสำหรับโจทย์สำคัญในพื้นที่ โดยเฉพาะการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ SMEs ที่ปีนี้เผชิญความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ทั้งจากภัยธรรมชาติ การค้าโลก และกระแสดิจิทัลและความยั่งยืน ซึ่ง ธปท. ได้ขับเคลื่อนแนวทางปรับภูมิทัศน์ใหม่ทางการเงินผ่านมาตรการสำคัญ ทั้งการเพิ่มผู้เล่นผ่าน Virtual Bank, การใช้ประโยชน์ข้อมูลการเงินผ่าน Your Data, การยกระดับกลไกค้ำประกันสินเชื่อ ตลอดจนการสนับสนุนการเงินเพื่อความยั่งยืน (Financing the Transition) พร้อมถอดบทเรียนจากการลงมือทำจริงในพื้นที่ในโครงการคลินิกเสริมแกร่งการเงิน SMEs ซึ่งได้ขยายผลสู่ศูนย์ช่วยเพื่อน SMEs ในจังหวัดเชียงรายและน่าน เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจ SMEs เติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ ธปท. สภน. จะยังคงร่วมมือกับพันธมิตรในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ธุรกิจ SMEs เติบโตได้อย่างยั่งยืน
คลิป VDO วิดีโอ ผู้ช่วยผู้ว่าการฯ กล่าวเปิดงาน
เป็นการบรรยาย “ทิศทางของโลกธุรกิจยุคใหม่” ใน 2 หัวข้อ ประกอบด้วย (1) “SMEs จะปรับตัวอย่างไรในโลกการเงินดิจิทัล” โดยคุณแซม ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตันสกุล โฮลดิ้งค์ จำกัด ได้ฉายภาพในปี 2030 โลกจะถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี mega trend สำคัญ ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์, คอมพิวเตอร์ควอนตัม, เทคโนโลยีชีวภาพ, เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม, การประมวลผลและการเชื่อมต่อยุคใหม่, การใช้งานเมตาเวิร์ส, ระบบอัตโนมัติ, วัสดุอัจฉริยะและนาโนเทคโนโลยี รวมถึงระบบความปลอดภัยไซเบอร์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะพลิกโฉมเศรษฐกิจ สังคม และวิถีชีวิตอย่างลึกซึ้ง ธุรกิจที่สามารถปรับตัวและนำเทคโนโลยีมาใช้ได้รวดเร็วจะได้เปรียบในการแข่งขัน โดยเฉพาะ SMEs ที่ในปี 2026 ควรเร่งนำเครื่องมือดิจิทัลมาใช้ ได้แก่ ระบบบริหารธุรกิจ, ระบบขายออนไลน์, การจัดการงานและทีม, ระบบบริหารลูกค้าสัมพันธ์, การตลาดดิจิทัล, การใช้ AI และระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ รวมถึงระบบการชำระเงิน เพื่อช่วยลดต้นทุน ขยายตลาด และสร้างความยั่งยืนในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่วนหัวข้อที่ (2) “การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคการเงินดิจิทัลและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สำหรับ SMEs” โดยคุณชนานันท์ สุภาดุลย์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธปท. ชี้ให้เห็นบทบาทของ ธปท. ในการสนับสนุนและสร้างโอกาสทางธุรกิจในยุคที่โลกกำลังขับเคลื่อนด้วยกระแสดิจิทัลและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้ประโยชน์จากข้อมูลและ digital footprint มาปรับกระบวนการทางธุรกิจให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะที่สถาบันการเงินยังมีข้อจำกัดในการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากขาดข้อมูลที่เพียงพอ ทำให้ต้นทุนและความเสี่ยงสูง โดย ธปท. ได้พัฒนาแนวทางและปรับกฎเกณฑ์ให้ SMEs สามารถลดต้นทุนและเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น พร้อมทั้งส่งเสริมให้สถาบันการเงินให้คำปรึกษาแนะนำให้ภาคธุรกิจปรับตัวเปลี่ยนผ่านได้อย่างยั่งยืน
คลิป VDO session “SMEs จะปรับตัวอย่างไรในโลกการเงินดิจิทัล”
คลิป VDO session “การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคการเงินดิจิทัลและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สำหรับ SMEs”
เอกสารบรรยาย : 2030 Mega-Trend Technologies:
เอกสารบรรยาย : เทคโนโลยีที่ SME ไทยต้องใช้ในปี 2026
เอกสารบรรยาย : การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคการเงินดิจิทัลและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สาหรับ SMEs
"ถอดบทเรียนคลินิกเสริมแกร่งการเงิน SMEs สู่การขยายผลปฏิบัติจริง” ส่วนแรกเป็นหัวข้อ “คลินิกเสริมแกร่งการเงิน SMEs” โดยคุณณิชนาฏ ภูลสนอง รองผู้อำนวยการ และคุณศรันยา อิรนพไพบูลย์ ผู้วิเคราะห์อาวุโส ธปท. สภน. ที่ได้เน้นข้อจำกัดสำคัญที่ผู้ประกอบการ SMEs ต้องเผชิญในปัจจุบัน คือ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งโครงการ “คลินิกเสริมแกร่งการเงิน SMEs” ได้ชี้ให้เห็นความสำคัญของการเข้าใจธุรกิจของตนเอง การบริหารจัดการที่ดี และการปิดจุดอ่อนของธุรกิจก่อนตัดสินใจยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน ซึ่งจะเป็นเส้นทางที่ให้ผลลัพธ์ยั่งยืนกว่าแก่ธุรกิจ SMEs โดยโครงการนี้ได้ออกแบบเส้นทางเตรียมความพร้อมด้านการเงินสำหรับ SMEs ไว้ 3 ระยะ ได้แก่ รู้จักธุรกิจ เสริมจุดอ่อน และลงมือทำจริง โดยมีเครื่องมือช่วยเหลือในแต่ละขั้นตอน ทั้งแบบประเมินโอกาสในการขอกู้ ที่ปรึกษาทางการเงิน หลักสูตรออนไลน์ และเทคโนโลยีที่ช่วยในการจัดการธุรกิจ โดยมีตัวอย่างจริงจากผู้ประกอบการที่สามารถปรับธุรกิจให้แข็งแกร่งขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาสินเชื่อ และล่าสุดได้ขยายผลแนวทางนี้สู่ “ศูนย์ช่วยเพื่อน SMEs” ร่วมกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม จัดตั้งที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย และที่หอการค้าจังหวัดน่าน เพื่อให้ SMEs ทั่วประเทศเข้าถึงที่ปรึกษาทางการเงินและเครื่องมือได้สะดวกขึ้น จุดประกายให้ผู้ประกอบการไทยกล้าคิด กล้าปรับ และกล้าก้าวสู่อนาคตด้วยความมั่นใจและยั่งยืน
คลิป VDO session “คลินิกเสริมแกร่งการเงิน SMEs”
เอกสารบรรยาย : คลินิกเสริมแกร่งการเงิน SMEs
ส่วนที่สอง เป็นการเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหัวข้อ “จากคลินิกเสริมแกร่ง SMEs สู่การขยายผล” ดำเนินรายการโดย คุณพรวิภา ตั้งเจริญมั่นคง ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานภาคเหนือ ชวนคิดชวนคุยการถอดบทเรียนจากห้องทดลองคลินิกเสริมแกร่งการเงิน SMEs ที่ดำเนินการร่วมกับพันธมิตร โดย คุณสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ ผู้อำนวยการ ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs (บสย. F.A.Center) ชี้ให้เห็นว่า SMEs มีวัฏจักร “เกิด โต เจ็บ” แต่มีทางออก หากเข้าใจหลักการการเงินอย่างถูกต้องใน 3 ด้าน ได้แก่ ความรู้ทางการเงิน การบัญชี และภาษี พร้อมแนะนำให้บริหารเงินสดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยแยกเงินจากยอดขายเป็น 4 ส่วน ได้แก่ ส่วนต้นทุน ค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร ค่าชำระหนี้ และเงินเก็บสำหรับลงทุนต่อยอดธุรกิจ ทั้งนี้ การขอสินเชื่อควรทำเมื่อธุรกิจแข็งแรง ไม่ใช่ตอนมีปัญหา และต้องมั่นใจว่าได้ใช้กำไรชำระหนี้ โดยไม่ใช้ส่วนของต้นทุน พร้อมเตือนว่าการเก็บสต็อกมากเกินไป หรือการนำเงินออกจากกิจการไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ เป็นสาเหตุหลักที่ธนาคารไม่อนุมัติสินเชื่อ คุณชลิดา ธนินกุลภรณ์ หัวหน้าส่วนจัดการทรัพย์สินทางปัญญาและนวัตกรรม สถาบันวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มีโครงการสนับสนุน SMEs ผ่านศูนย์ MFii (Mae Fah Luang Intellectual Property Management and Innovation Division) ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2548 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของ SMEs โดยเน้นการบ่มเพาะธุรกิจ ผ่านงานวิจัยและนวัตกรรมที่ธุรกิจสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง พร้อมเป็นที่ปรึกษาแก่ธุรกิจ SMEs อย่างครบวงจร ตั้งแต่การบริหารองค์กร นวัตกรรมการผลิต รวมไปถึงการตลาดและการเงิน นอกจากนี้ MFii ร่วมกับ ธปท. และ บสย. มีการจัดตั้ง “ศูนย์ช่วยเพื่อน SMEs” สำหรับให้คำปรึกษาด้านการเงิน การแก้หนี้ การขอสินเชื่อ และการพัฒนาธุรกิจ เพื่อก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง ยั่งยืน และสามารถแข่งขันในตลาดได้ และ คุณวิน ศรีนวกุล ผู้ก่อตั้งข้าวโซอิ เล่าถึงจุดเริ่มต้น “ข้าวซอยแบรนด์ข้าวโซอิ” ด้วยเงินทุนส่วนตัว โดยเช่าร้านเล็ก ๆ และใช้อุปกรณ์มือสอง พร้อมบริหารเองทุกขั้นตอน ด้วยแนวคิดไม่ทำอะไรเกินตัว และใช้ data วิเคราะห์ลูกค้า ได้ปรับสูตรข้าวซอยให้ถูกใจคนรุ่นใหม่ ทั้งใช้เส้นสดและไม่มีน้ำมันลอยหน้า เมื่อธุรกิจเติบโตจึงลงทุนซื้อที่ดินร้านเดิม พร้อมตั้งเป้าพยายามจ่ายหนี้ให้หมดภายใน 2 ปี ปัจจุบันร่วมทุนกับ Potato Corner ที่มีทั้งทีมงานมืออาชีพ และระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) รองรับการเติบโต ขยายสาขาสู่กรุงเทพฯ นิวยอร์ก และเตรียมเปิดที่ลอนดอน โดยยังคงเน้นว่าธุรกิจต้องไม่ลงทุนเกินตัว และควรมีเงินสำรองเพื่อคว้าโอกาสสำคัญ รวมทั้ง“skill” คือสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องพัฒนาอยู่เสมอไม่ว่าจะทำอาชีพใด
คลิป VDO session “จากคลินิกเสริมแกร่งการเงิน SMEs สู่การขยายผล”
คุณพรวิภา ตั้งเจริญมั่นคง ผู้อำนวยการอาวุโส ธปท. สภน. ได้กล่าวสรุปโดยเน้นย้ำถึงความสำคัญที่ผู้ประกอบการ SMEs ต้องพร้อมปรับตัวรับกระแสการเปลี่ยนแปลง ซึ่ง ธปท. มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของภูมิทัศน์ทางการเงินและกระแสความยั่งยืน เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อผู้ประกอบการ และสนับสนุนธุรกิจให้ดำเนินกิจการได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ ธปท. สภน. ให้ความสำคัญกับ SMEs ซึ่งเป็นกลไกหลักของเศรษฐกิจภูมิภาค โดยได้ดำเนินโครงการส่งเสริม SMEs มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการเสริมแกร่ง SMEs การศึกษาการเข้าถึงสินเชื่อ คลินิกเสริมแกร่งการเงิน SMEs และการจัดตั้งศูนย์ช่วยเพื่อน SMEs โดยมีแผนต่อยอดความร่วมมือกับพันธมิตรในระยะต่อไป เพื่อสนับสนุนการปรับตัวของผู้ประกอบการให้สามารถรับมือกับบริบทใหม่ของโลกธุรกิจได้อย่างมั่นใจและยั่งยืน พร้อมขอบคุณวิทยากร ผู้ร่วมวงเสวนา และแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสร้างแรงบันดาลใจร่วมกันในงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการครั้งนี้