​​​​​​​​​​​​​​​​​​เครดิตบูโร หรือบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด เป็นสถาบันที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการจัดเก็บข้อมูลบัญชีสินเชื่อและประวัติการชำระสินเชื่อทุกประเภทของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล​ซึ่งส่งมาจากสถ​าบันการเงินและบริษัทที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโร

 

โดยข้อมูลเครดิตที่จัดเก็บหรือรายงานในเครดิตบูโรแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ

ความสำคัญของข้อมูลเครดิต

 

ข้อมูลเครดิตเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาสินเชื่อ โดยจะแสดงถึงภาระหนี้และการชำระหนี้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคนคนนั้นมีพฤติกรรมการเป็นหนี้อย่างไร มีความตั้งใจในการชำระหนี้และความน่าเชื่อถือเพียงใด หรือที่เรียกกันว่า มี “เครดิต” ดีหรือไม่ นั่นเอง ทำให้มีความสำคัญต่อการทำธุรกรรมต่าง ๆ กับสถาบันการเงิน โดยเฉพาะการขอกู้เงิน  การขอสินเชื่อ และบัตรเครดิต ซึ่งสมาชิกจะเรียกดูข้อมูลเครดิตจากเครดิตบูโร เพื่อนำไปพิจารณาร่วมกับข้อมูลอื่น ๆ  เช่น รายได้ ความสามารถในการชำระหนี้ อาชีพ อายุ และหลักประกัน เป็นต้น 

 

ดังนั้น ย่อมกล่าวได้ว่าผู้ที่มีประวัติการชำระหนี้ดีย่อมมีโอกาสได้รับสินเชื่อในอัตราที่เหมาะสม  

check

การขอตรวจเครดิตบูโรเมื่อถูกปฏิเสธสินเชื่อ

 

กรณีผู้ขอสินเชื่อได้รับหนังสือแจ้งปฏิเสธการให้สินเชื่อจากสถาบันการเงินหรือบริษัทที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโรโดยมีสาเหตุจากข้อมูลในเครดิตบูโร ผู้ขอสินเชื่อสามารถยื่นคำขอตรวจเครดิตบูโรกรณีถูกปฏิเสธสินเชื่อได้ที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร ภายใน 30 วันนับจากวันที่ในหนังสือแจ้งปฏิเสธสินเชื่อ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

การขอแก้ไขกรณีข้อมูลเครดิตไม่ถูกต้อง

 

หากพบว่าข้อมูลเครดิตของตนเองไม่ถูกต้อง หรือมีการรายงานข้อมูลเครดิตผิดพลาด ควรแจ้งให้สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ของเราทราบ นอกจากนี้ ตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ. 2545 ลูกหนี้ยังมีสิทธิที่จะยื่นคำขอตรวจสอบ และขอแก้ไขข้อมูลของตนกับเครดิตบูโรได้ โดยติดต่อได้ที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร

 

เมื่อได้รับแจ้งผลการตรวจสอบแล้ว หากเจ้าของข้อมูลไม่เห็นด้วยกับผลตรวจสอบ และมีข้อโต้แย้งที่ไม่อาจหาข้อยุติได้ สามารถยื่นคำขอใช้สิทธิบันทึกข้อโต้แย้งไว้ในระบบฐานข้อมูลของเครดิตบูโรได้ และมีสิทธิในการยื่นอุทธรณ์ข้อโต้แย้งต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิตได้ ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งสิทธิ

 

ทั้งนี้ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด