ภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
25 มกราคม 2566 ใช้เวลาอ่าน 999 นาที
แถลงข่าวภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไตรมาส 1 ปี 2565
การอุปโภคบริโภค หดตัวน้อยลง
ตามการใช้จ่ายสินค้าในชีวิตประจำวันและการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ เนื่องจากการระบาดไม่รุนแรงเท่ารอบก่อน สำหรับการใช้จ่ายด้านท่องเที่ยวปรับดีขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
การลงทุนภาคเอกชน ขยายตัวต่อเนื่อง
ทั้งการลงทุนด้านก่อสร้างและการลงทุนด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์ จากการนำเข้าสินค้าทุนของธุรกิจที่ผลิตเพื่อการส่งออกตามเศรษฐกิจโลกที่ทยอยฟื้นตัว
การใช้จ่ายภาครัฐ ขยายตัวเร่งขึ้น
ตามรายจ่ายลงทุนของกรมทางหลวงชนบทและกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นประกอบกับรายจ่ายประจำขยายตัวต่อเนื่องจากการเบิกจ่ายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
การค้าผ่านด่านศุลกากร
การส่งออก กลับมาหดตัวสูง ตามการส่งออกชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ และผลไม้ไปจีนที่ลดลง จากผลกระทบนโยบาย Zero-COVID และมาตรการล็อกดาวน์ของจีน
การนำเข้า กลับมาหดตัว ตามการนำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์จากจีนที่ลดลง จากผลกระทบนโยบาย Zero-COVID และมาตรการล็อกดาวน์ของจีน
รายได้เกษตรกร ขยายตัว
ผลผลิตขยายตัว ตามผลผลิตอ้อย จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย และราคาขยายตัว ตามราคาปศุสัตว์จากต้นทุนอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น ราคามันสำปะหลังและยางพาราจากความต้องการของจีน และราคาอ้อยตามราคาน้ำตาลในตลาดโลก
ภาคอุตสาหกรรม ขยายตัว
ตามการผลิตน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นจากปริมาณอ้อยเข้าหีบ การผลิตสิ่งทอและเครื่องแต่งกายที่เพิ่มขึ้นหลังสามารถผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น และการผลิตเครื่องดื่มที่เริ่มปรับดีขึ้น
อัตราเงินเฟ้อ สูงขึ้น จากราคาพลังงานและอาหารเป็นสำคัญ
การจ้างงาน ปรับดีขึ้น แต่ความเชื่อมั่นการจ้างงานยังอยู่ในระดับต่ำ สะท้อนตลาดแรงงานยังคงเปราะบาง
ภาคการเงิน
เงินฝาก ชะลอตัว ตามมาตรการประกันรายได้เกษตรกรที่ทยอยหมดลง
สินเชื่อ ชะลอตัว ตามความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนของธุรกิจ
แนวโน้มเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เศรษฐกิจไตรมาส 2 ปี 2565 คาดว่า ทรงตัวจากไตรมาสก่อน โดยภาวะราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นยังคงเป็นปัจจัยกดดันการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน ประกอบกับกำลังซื้อเดิมที่ยังอ่อนแอ และมาตรการสนับสนุนการบริโภคจากภาครัฐที่หมดลงเป็นปัจจัยกดดันการฟื้นตัวของการบริโภค อย่างไรก็ดี ภาคการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกคาดว่ายังได้รับอานิสงค์จากอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่มีต่อเนื่อง แต่ยังมีความเสี่ยงจากภาวะต้นทุนขนส่งที่สูงขึ้นตามราคาน้ำมัน รวมถึงผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน อาจทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง
ธนาคารแห่งประเทศไทย
6 พฤษภาคม 2565
ข้อมูลเพิ่มเติม : ส่วนเศรษฐกิจการเงิน 1-3 ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โทรศัพท์ : 0 4391 3532
E-mail : Neo-econ-div@bot.or.th