ประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

(Northeastern GRP Forecast)

04 ส.ค. 2568

ประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปี 68-69

ประมาณการ ณ เดือนสิงหาคม 2568

เศรษฐกิจอีสาน ปี 68 ขยายตัวเล็กน้อยในช่วง 0.5 ถึง 1.5% ขณะที่ปี 69 ทรงตัวในช่วง -0.6 ถึง 0.4%

อัตราการเติบโตรายปี 2566-69

ปี 68 ขยายตัวเล็กน้อย จากสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวย ส่งผลให้ผลผลิตเกษตรขยายตัวในเกือบทุกพืชสำคัญ สอดคล้องกับภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัว ตามหมวดการผลิตเพื่อการส่งออกและหมวดอาหาร ด้านภาคก่อสร้างขยายตัว จากการลงทุนก่อสร้างภาครัฐ ขณะที่ภาคการค้าหดตัว จากรายได้เกษตรกรที่ลดลงตามปัจจัยด้านราคา และกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนแอ เช่นเดียวกับภาคอสังหาริมทรัพย์ที่หดตัวจากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวช้าและภาระหนี้ที่อยู่ในระดับสูง

 

ปี 69 ทรงตัว โดยผลผลิตเกษตรขยายตัวชะลอลงในเกือบทุกพืชสำคัญ จากสภาพอากาศที่ใกล้เคียงปีก่อน ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรที่ลดลงลดแรงจูงใจในการขยายพื้นที่เพาะปลูก ด้านภาคอุตสาหกรรมหดตัวตามการผลิตเพื่อการส่งออก จากอุปสงค์คู่ค้าที่มีแนวโน้มลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก เช่นเดียวกับภาคการค้าที่หดตัวจากกำลังซื้อที่ยังอ่อนแอ ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น สอดคล้องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ที่หดตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ภาคก่อสร้างขยายตัวเล็กน้อย จากการก่อสร้างภาครัฐเป็นสำคัญ ตามงบลงทุนที่มีการเบิกจ่ายต่อเนื่องจากปีก่อน

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคอีสาน (GRP)

กราฟแสดงผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคอีสาน

รายละเอียดทิศทางการเติบโตของกิจกรรมสำคัญ

(เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน)

 

เกษตร เพิ่มขึ้น

  • ปี 68 ขยายตัว จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ทำให้ผลผลิตขยายตัวต่อเนื่องจากปีก่อนในพืชหลัก ได้แก่ ข้าว ยางพารา และอ้อย อย่างไรก็ตาม ผลผลิตมันสำปะหลังหดตัว จากราคาที่ลดลงทำให้เกษตรกรปรับพื้นที่ไปปลูกพืชแข่งขันอื่น เช่น อ้อย และสถานการณ์โรคใบด่างที่ยังไม่คลี่คลาย
  • ปี 69 ขยายตัวเล็กน้อย จากสภาพอากาศที่ใกล้เคียงปีก่อน อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าเกษตรโดยรวมที่มีแนวโน้มลดลง ทำให้เกษตรกรลดการขยายพื้นที่เพาะปลูก

 

อุตสาหกรรม ลดลง

  • ปี 68 ขยายตัว จากการผลิตเพื่อส่งออก ได้แก่ หมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ที่เร่งไปในช่วงครึ่งแรกของปี ก่อนการบังคับใช้นโยบายภาษีของสหรัฐฯ รวมทั้งการผลิตหมวดอาหารที่ขยายตัวตามผลผลิตเกษตรที่เพิ่มขึ้น ตามปัจจัยสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย
  • ปี 69 หดตัว จากการผลิตหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่หดตัว จากอุปสงค์คู่ค้าที่มีแนวโน้มลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก ประกอบกับได้มีการเร่งส่งออกไปในปีก่อน ทำให้ประเทศคู่ค้ายังมีสต็อกสินค้าในระดับสูง

 

การค้า ลดลง

  • ปี 68 หดตัว จากกำลังซื้อที่อ่อนแรงลง ตามรายได้เกษตรกรที่หดตัวจากปัจจัยด้านราคา หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และมาตรการกระตุ้นการบริโภคที่ลดลงจากปีก่อน ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น สะท้อนจากยอดซื้อต่อครั้ง และการบริโภคสินค้าไม่จำเป็นที่ลดลง สอดคล้องกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง
  • ปี 69 หดตัว จากกำลังซื้อที่ยังอ่อนแอ และภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย

 

ก่อสร้าง เพิ่มขึ้น

  • ปี 68 ขยายตัว จากการลงทุนก่อสร้างภาครัฐประเภทโครงสร้างพื้นฐาน ตามงบประมาณปี 68 ที่เบิกจ่ายได้ต่อเนื่อง รวมถึงเม็ดเงินเบิกจ่ายเหลื่อมปีจากปี 67 อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างภาคเอกชนหดตัว โดยเฉพาะการก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่ลดลง ตามภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่หดตัว
  • ปี 69 ขยายตัวเล็กน้อย จากการก่อสร้างภาครัฐที่ขยายตัว ตามงบลงทุนที่คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ต่อเนื่อง ขณะที่การก่อสร้างภาคเอกชนยังคงหดตัวต่อเนื่อง ตามภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังหดตัว

 

อสังหาริมทรัพย์ ลดลง

  • ปี 68 หดตัว จากผู้บริโภคฐานรากที่เป็นกลุ่มใหญ่ยังประสบปัญหาด้านกำลังซื้อ ภาระหนี้และคุณภาพของสินเชื่อที่ด้อยลง ขณะที่ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและการเมืองส่งผลให้ผู้บริโภคกลุ่มรายได้สูงบางส่วนชะลอการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ออกไปก่อน
  • ปี 69 หดตัว จากภาระหนี้ที่ยังอยู่ในระดับสูง และความกังวลในสภาพเศรษฐกิจ ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย และชะลอการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ด้านผู้ประกอบการยังคงชะลอการเปิดโครงการใหม่ตามอุปสงค์ที่ฟื้นตัวช้า

หมายเหตุ :

  1) โครงสร้างเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปี 66 ประกอบด้วย เกษตร 21% อุตสาหกรรม 17% การค้า 13% ก่อสร้าง 4% อสังหาฯ 4% และอื่นๆ 41%
  2) ภายใต้สมมติฐานที่ไทยถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ (reciprocal tariff) 18% (ครึ่งหนึ่งที่สหรัฐฯ ประกาศ ณ วันที่ 2 เมษายน 2568) และจีนถูกเรียกเก็บ 30% ขณะที่ประเทศอื่นถูกเรียกเก็บ 10% 
  3) กำหนดเผยแพร่ประมาณการผลิตภัณฑ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งต่อไป ในเดือนกุมภาพันธ์ 2569


ที่มา : สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, สำนักงานสถิติแห่งชาติ, สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, สำนักงานประกันสังคม, กรมศุลกากร, กรมสรรพสามิต, กรมสรรพากร, กรมการขนส่งทางบก, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, กรมธุรกิจพลังงาน, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กรมท่าอากาศยาน, ท่าอากาศยานไทย, GFMIS, กรมการปกครอง, กรมที่ดิน, The Nielsen Company, ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ คำนวณโดย ธปท.

ข้อมูลเพิ่มเติม

ส่วนเศรษฐกิจการเงิน 1-3 สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

โทร 0 4391 3532

Neo-econ-div@bot.or.th