ภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

30 สิงหาคม 2567

แถลงข่าวภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เดือนกรกฎาคม 2567

สรุปสาระสำคัญ
  • เศรษฐกิจภาคอีสานกลับมาขยายตัว จากเดือนก่อน
  • ในเดือนก่อน การใช้จ่ายในสินค้าอุปโภคบริโภคที่หดตัวจากค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูงทำให้กลุ่มครัวเรือนฐานรากระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น และภาคบริการท่องเที่ยวที่หดตัวหลังหมดแรงส่งของเทศกาล วันหยุดยาว ขณะที่รายได้เกษตรกรและการผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่อง ตามความต้องการทั้งจากภายในและต่างประเทศ 
  • เดือนนี้ ปัจจัยพิเศษวันหยุดยาวสนับสนุนการบริโภคภาคเอกชนให้ขยายตัวในทุกหมวด สอดคล้องกับภาคบริการท่องเที่ยวที่ขยายตัวตามการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีขนาดใหญ่และผู้ร่วมงานมากขึ้น ด้านรายได้เกษตรและการผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัว จากความต้องการทั้งภายในและต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูง ยังคงส่งผลกระทบต่อการบริโภคของกลุ่มครัวเรือนฐานราก

ภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้ว)
 

รายได้เกษตรกร ขยายตัวต่อเนื่อง (เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน)

ตามราคาข้าวเปลือกเจ้าที่ขยายตัว จากความต้องการบริโภคทั้งภายในและต่างประเทศที่ยังมีต่อเนื่อง และราคาไข่ไก่ที่ขยายตัวจากผลกระทบของสภาพอากาศแปรปรวน ทำให้ ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง และต้นทุนอาหารสัตว์ที่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ผลผลิตโดยรวมทรงตัว

 

การผลิตภาคอุตสาหกรรม ขยายตัวต่อเนื่อง

ตามการผลิตเพื่อการส่งออกเป็นสำคัญ การผลิตน้ำตาลทรายขยายตัวตามการส่งออกน้ำตาลไปยังสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มขึ้น และการผลิตยางพาราแปรรูปขยายตัวตามคำสั่งซื้อของจีนที่เพิ่มขึ้นหลังจากชะลอการสั่งซื้อในช่วงก่อนหน้า ขณะที่การผลิตในหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์หดตัวตามรอบการผลิต

 

ภาคบริการท่องเที่ยว กลับมาขยายตัว

ทั้งผู้เยี่ยมเยือนคนไทยและต่างชาติที่กลับมาขยายตัว จากปัจจัยพิเศษวันหยุดยาวหลายช่วง และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีขนาดงานใหญ่และผู้ร่วมงานมากขึ้น สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานขาเข้าที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการจัดประชุมสัมมนาภาครัฐเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ ส่งผลให้อัตราการเข้าพักแรมเพิ่มขึ้น

 

การบริโภคภาคเอกชน กลับมาขยายตัว

จากปัจจัยพิเศษวันหยุดยาวที่ทำให้คนในพื้นที่และผู้เยี่ยมเยือนออกมาใช้จ่าย ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในทุกหมวดสินค้าให้กลับมาขยายตัวชั่วคราว สำหรับสินค้าคงทนที่กลับมาขยายตัวชั่วคราว มาจากการส่งมอบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลประเภทรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูง ยังคงส่งผลกระทบต่อการบริโภคของกลุ่มครัวเรือนฐานราก

 

การลงทุนภาคเอกชน กลับมาขยายตัว

ตามการลงทุนด้านก่อสร้างที่กลับมาขยายตัวจากยอดจำหน่ายปูนซีเมนต์เป็นสำคัญที่ได้รับอานิสงส์จากการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐ ขณะที่การลงทุนด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์หดตัวต่อเนื่อง จากยอดการนำเข้าสินค้าทุนและยอดจดทะเบียนรถยนต์เชิงพาณิชย์ อนึ่งหากขจัดผลของปัจจัยพิเศษจากการกลับมาเบิกจ่ายของภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชนจะหดตัวต่อเนื่อง

 

การค้าผ่านด่านศุลกากร หดตัวต่อเนื่อง

ตามการส่งออกที่หดตัว จากจีนเป็นสำคัญ โดยเฉพาะผลผลิตทุเรียนตามฤดูกาลในภาคตะวันออกที่ทยอยหมดลง รวมทั้งชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ในหมวดแผ่นบันทึกข้อมูล
ขณะที่การนำเข้าขยายตัว จากจีนเป็นสำคัญ ในหมวดชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ประเภทฮาร์ดดิส รวมถึงเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้น

 

อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เพิ่มขึ้น (เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน) ตามราคาพลังงาน อาหารสด และเงินเฟ้อพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น ในกลุ่มอาหารสำเร็จรูป

 

ตลาดแรงงาน ทรงตัว ตามการจ้างงานในภาคก่อสร้าง บริการ  และบริหารราชการที่ปรับดีขึ้นหลังการอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ส่วนหนึ่งสะท้อนจากจำนวนผู้ประกันตน ม. 33 ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่การจ้างงานในภาคเกษตรปรับลดลงต่อเนื่อง

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- กำลังซื้อของกลุ่มครัวเรือนฐานราก

- ผลกระทบของสภาพภูมิอากาศต่อผลผลิตในภาคเกษตร

- นโยบายด้านเศรษฐกิจของภาครัฐ

 

 

ธนาคารแห่งประเทศไทย
30 สิงหาคม 2567

 

ข้อมูลเพิ่มเติม : ส่วนเศรษฐกิจการเงิน 1-3 ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โทรศัพท์ : 0 4391 3532
E-mail : Neo-econ-div@bot.or.th

 

หมายเหตุ

สาขาเศรษฐกิจด้านอุปสงค์ที่มีความสำคัญต่อภาคอีสาน ได้แก่ การอุปโภคบริโภค การลงทุนภาคเอกชน การใช้จ่ายภาครัฐ และการค้าผ่านด่านศุลกากร ตามลำดับ