ภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

31 ตุลาคม 2568

แถลงข่าวภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เดือนกันยายน 2568

สรุปสาระสำคัญ
  • เศรษฐกิจภาคอีสานหดตัวต่อเนื่อง จากเดือนก่อน
  • ในเดือนก่อน กิจกรรมทางเศรษฐกิจหดตัว ตามการบริโภคภาคเอกชนที่หดตัวในทุกหมวดสินค้าจากกำลังซื้อที่อ่อนแอ สอดคล้องกับรายได้เกษตรกรที่หดตัวต่อเนื่อง กอปรกับผลของการเร่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในเดือนก่อนหมดลง ด้านภาคบริการท่องเที่ยวหดตัวต่อเนื่องจากกำลังซื้อที่อ่อนแอ รวมถึงความกังวลด้านความปลอดภัยจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ยังมีอยู่ เช่นเดียวกับภาคการผลิตที่หดตัวในเกือบทุกหมวดโดยเฉพาะการผลิตแป้งมันสำปะหลัง จากข้อจำกัดด้านการนำเข้าวัตถุดิบจากประเทศเพื่อนบ้าน
  • เดือนนี้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจหดตัว ตามการบริโภคภาคเอกชนที่ยังหดตัว ในทุกหมวดสินค้า จากกำลังซื้อที่อ่อนแอมากขึ้น สอดคล้องกับรายได้เกษตรกรที่หดตัวต่อเนื่อง ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมกลับมาขยายตัว โดยเฉพาะหมวดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เพื่อรองรับกิจกรรมการท่องเที่ยวในช่วงหลังออกพรรษา และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่กลับมาขยายตัว

ภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้ว)
 

รายได้เกษตรกร หดตัวต่อเนื่อง (เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน)

จากราคายางพาราที่หดตัวมากขึ้นตามผลผลิตที่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ฝนที่ตกน้อยลงช่วยให้กรีดยางได้มากขึ้น และความต้องการของคู่ค้าที่ชะลอลง ราคาข้าวเปลือกหดตัวตามปริมาณผลผลิตในตลาดโลกที่อยู่ในระดับสูง และราคามันสำปะหลังหดตัวตามความต้องการของจีนที่ลดลง ขณะที่ผลผลิตโดยรวมทรงตัว

 

การผลิตภาคอุตสาหกรรม กลับมาขยายตัว

ตามการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อรองรับกิจกรรมการท่องเที่ยวในช่วงหลังออกพรรษา ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์กลับมาขยายตัว หลังจากหดตัวต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า ขณะที่การผลิตแป้งมันสำปะหลังหดตัวต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งจากการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้ไม่สามารถนำเข้าวัตถุดิบเพื่อแปรรูปได้

 

ภาคบริการท่องเที่ยว กลับมาขยายตัวเล็กน้อย

ตามการจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ เช่น การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตระดับนานาชาติหลายรายการใน จ.บุรีรัมย์ และงานเทศกาลไหลเรือไฟ จ.นครพนม ส่งผลให้จำนวนผู้เยี่ยมเยือนทั้งไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้รวมภาคการท่องเที่ยวหดตัวต่อเนื่อง สะท้อนกำลังซื้อที่ยังอ่อนแอ

 

การบริโภคภาคเอกชน หดตัวต่อเนื่อง

ในทุกหมวดสินค้า โดยในหมวดสินค้าอุปโภคบริโภคและหมวดสินค้ากึ่งคงทนหดตัวต่อเนื่อง จากกำลังซื้อที่อ่อนแอมากขึ้น ผู้บริโภคระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น เลือกซื้อเฉพาะอาหารและของใช้จำเป็น หมวดสินค้าคงทนหดตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มรถกระบะเชิงพาณิชย์จากคุณสมบัติผู้กู้ที่ด้อยลง และสถาบันการเงินระมัดระวังในการพิจารณาสินเชื่อ

 

การลงทุนภาคเอกชน กลับมาขยายตัวเล็กน้อย

ตามการลงทุนด้านการก่อสร้างที่ขยายตัวต่อเนื่อง จากพื้นที่ขออนุญาตก่อสร้างและยอดจำหน่ายปูนซีเมนต์ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่การลงทุนด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์หดตัวต่อเนื่อง ทั้งยอดจดทะเบียนรถยนต์เชิงพาณิชย์ ยอดจำหน่ายเครื่องจักรภายในประเทศ และยอดการนำเข้าสินค้าทุนที่ลดลง

 

การค้าผ่านด่านศุลกากร หดตัวต่อเนื่อง

ตามการส่งออกทุเรียนสดไปจีนที่หดตัวเป็นสำคัญ จากผลผลิตทุเรียนของภาคใต้ที่ลดลงต่อเนื่องตามฤดูกาลผลผลิตที่สิ้นสุดเร็วกว่าปกติ
ส่วนการนำเข้าขยายตัวเล็กน้อย จากโทรศัพท์มือถือและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากจีน และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จาก สปป.ลาว

 

อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ติดลบมากขึ้น ตามราคาอาหารสดเป็นสำคัญ

 

ตลาดแรงงาน ปรับลดลงเล็กน้อย ตามการจ้างงานทั้งในและนอกภาคเกษตร โดยเฉพาะภาคก่อสร้างที่ลดลงจากภาวะอสังหาริมทรัพย์ที่ยังชะลอตัว

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐต่อการบริโภคภาคเอกชนและภาคบริการท่องเที่ยว

- รายได้เกษตรกรและกำลังซื้อของครัวเรือน

- ผลกระทบจากนโยบายการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก

 

 

 

ธนาคารแห่งประเทศไทย
31 ตุลาคม 2568

 

หมายเหตุ

สาขาเศรษฐกิจด้านอุปสงค์ที่มีความสำคัญต่อภาคอีสาน ได้แก่ การอุปโภคบริโภค การลงทุนภาคเอกชน การใช้จ่ายภาครัฐ และการค้าผ่านด่านศุลกากร ตามลำดับ

ข้อมูลเพิ่มเติม

ส่วนเศรษฐกิจการเงินภาค สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

043 913 532

Neo-econ-div@bot.or.th