ภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

04 พฤศจิกายน 2568

แถลงข่าวภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุปสาระสำคัญ
  • เศรษฐกิจอีสาน "หดตัวต่อเนื่อง" จากไตรมาสก่อน ตามการบริโภคภาคเอกชนที่หดตัวต่อเนื่องในทุกหมวดสินค้า จากกำลังซื้อที่อ่อนแอมากขึ้น ซึ่งอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี เช่นเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อยู่ในระดับต่ำและมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับภาคบริการท่องเที่ยวที่หดตัวตามกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ลดลงจากความกังวลด้านความปลอดภัย รายได้เกษตรกรหดตัวจากด้านราคา และภาคการผลิตอุตสาหกรรมหดตัว โดยเฉพาะการผลิตแป้งมันสำปะหลัง จากข้อจำกัดด้านการนำเข้าวัตถุดิบจากประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4 ปี 2568 เศรษฐกิจอีสานอาจกลับมาขยายตัวได้เพียงชั่วคราว จากผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐที่จะช่วยพยุงการบริโภคของภาคอีสานในระยะสั้น ทำให้คาดว่าเศรษฐกิจอีสานทั้งปี 2568 ขยายตัวได้เล็กน้อยที่ 0.5 ถึง 1.5%
  • ปัจจัยภายในเศรษฐกิจอีสานที่อ่อนแอและแรงส่งภายนอกที่แผ่วลง ส่งผลให้ภาพรวมทั้งปี 2569 เศรษฐกิจอีสานคาดว่าจะเติบโตเพียง -0.6 ถึง 0.4% ซึ่งเป็นการเติบโตที่ต่ำ โดยภาคเศรษฐกิจและคนส่วนใหญ่ได้รับแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทั้งยังมีความเสี่ยงอีกมากที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอีสาน

ภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เศรษฐกิจอีสานปัจจุบันไตรมาสที่ 3
แรงส่งภายนอกแผ่ว และภายในยิ่งอ่อนแรงมากขึ้น

    เศรษฐกิจอีสานไตรมาสนี้หดตัวต่อเนื่อง ตามแรงส่งภายในที่อ่อนแรงมากขึ้น โดยการบริโภคภาคเอกชนที่หดตัวต่อเนื่องในทุกหมวดสินค้า จากกำลังซื้อที่อ่อนแอมากขึ้น สอดคล้องกับภาคบริการท่องเที่ยวที่หดตัวตามกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ลดลงจากความกังวลด้านความปลอดภัย รายได้เกษตรกรหดตัวจากด้านราคา ขณะเดียวกันแรงส่งภายนอกเริ่มแผ่วลง จากภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่กลับมาหดตัว ทั้งการผลิตแป้งมันสำปะหลัง จากข้อจำกัดด้านการนำเข้าวัตถุดิบจากประเทศเพื่อนบ้าน การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่หดตัวหลังจากการเร่งการผลิตเพื่อส่งออก และการผลิตเครื่องดื่มที่หดตัวตามกำลังซื้อที่อ่อนแรง ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐชะลอตัวหลังจากที่เร่งเบิกจ่ายไปมากในช่วงก่อนหน้า

คนมีเงินขาดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจอีสาน
ส่งผลให้สิ่งไหนงดได้งด ชิ้นไหนไม่จำเป็นชะลอไว้ก่อน

    พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนในไตรมาสนี้ โดยมูลค่าการซื้อสินค้าไม่จำเป็นลดลงเป็นอย่างมาก ในประเภทเครื่องดื่มทั้งที่มีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ ขนมขบเคี้ยว และเครื่องสำอาง ขณะเดียวกันการบริโภคสินค้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องประดับ และเฟอร์นิเจอร์ ล้วนมีทิศทางการบริโภคที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

เศรษฐกิจอีสานน่าเป็นห่วง ติดชะงักอยู่ใน
วังวนเศรษฐกิจที่หาทางออกได้ยาก

    เศรษฐกิจอีสานปัจจุบันอยู่ในวังวนเศรษฐกิจที่มีสาเหตุสำคัญมาจากกำลังซื้อที่อ่อนแอ โดยในไตรมาสนี้เห็นอาการชัด จากการบริโภคภาคเอกชนที่หดตัวต่อเนื่องในทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะการบริโภคสินค้าไม่จำเป็นที่หดตัวมากในหมวดเครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว และเครื่องสำอาง ซึ่งการจับจ่ายที่อ่อนแรงลงนี้ส่งผลให้การผลิตที่พึ่งพากำลังซื้อภายในประเทศหดตัว เช่นเดียวกับการผลิตเพื่อการส่งออกที่กลับมาหดตัวจากความต้องการจากคู่ค้าต่างประเทศที่ลดลง ขณะเดียวกันมุมมองของผู้ประกอบการต่อภาพเศรษฐกิจอีสานยังคงมีกังวล จึงชะลอการลงทุนใหม่ สะท้อนจากทิศทางการจดทะเบียนจัดตั้งโรงงานใหม่ที่ลดลง และแนวโน้มการลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่หดตัวอย่างต่อเนื่อง ด้านรายได้ครัวเรือนมีความเปราะบางมากขึ้นทั้งในและนอกภาคเกษตร โดยรายได้เกษตรกรยังคงหดตัวจากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับลดลงต่อเนื่อง แม้ผลผลิตจะยังขยายตัวดีจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ขณะที่ความเป็นอยู่ของแรงงานนอกภาคเกษตรมีความเสี่ยงมากขึ้น จากตลาดแรงงานที่ตึงตัว ธุรกิจไม่ปลดแรงงาน แต่ก็ไม่จ้างแรงงานใหม่เพิ่ม จากปัจจัยทั้งหมดนี้เกิดเป็นวังวนที่เศรษฐกิจอีสานหาทางออกได้ยาก

มาตรการภาครัฐที่เร่งเติมกำลังซื้อ
จะช่วยให้เงินกลับมาหมุนในระบบได้ในระดับหนึ่ง

   มาตรการคนละครึ่งพลัสในช่วงปลายปีที่กระตุ้นการบริโภคทั้งจากการเพิ่มเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย และการจูงใจให้คนที่มีรายได้จับจ่ายมากขึ้นด้วย คนละครึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะพยุงกำลังซื้อภาคอีสานในระยะสั้น แม้จะยังไม่สร้างผลดีชัดเจนต่อโครงสร้างเศรษฐกิจ แต่เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นการบริโภคของภาคอีสานที่ตกต่ำได้ โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินจากมาตรการต่อภาคอีสานประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท

ทุกครั้งที่เจอวิกฤต เศรษฐกิจอีสานเติบโตชะลอลง
และเศรษฐกิจอีสานไม่เคยกลับไปโตได้ในอัตราที่เท่าเดิม

   เศรษฐกิจอีสานในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมาเผชิญกับวิกฤตทางเศรษฐกิจหลายครั้งด้วยกัน โดยเศรษฐกิจอีสานมีอัตราการเติบโตชะลอลงอย่างต่อเนื่อง จากที่เคยเติบโตเฉลี่ย 4.5% ต่อปีในช่วงปี 2543-2550 แต่ในปัจจุบันหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 เศรษฐกิจอีสานเติบโตเฉลี่ยเพียง 0.7% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำกว่าประเทศ สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างในเศรษฐกิจอีสาน

ข้อมูลเพิ่มเติม

ส่วนเศรษฐกิจการเงินภาค สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

043 913 514

Neo-econ-div@bot.or.th