5 มุมมอง ความเป็นอยู่ของคนใน 3 ภาคของไทย
ฝ่ายเศรษฐกิจการเงินภูมิภาค และสำนักงานภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย
13 ก.ย. 2566
“สวัสดีเจ้า สบายดีบ่ กินข้าวแล้วม้าย”เป็นภาษาถิ่นของภาคเหนือ อีสาน และใต้ ที่ต่างคุ้นหู และด้วยเสน่ห์ของวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ทำให้หลาย ๆ จังหวัดกลายเป็นเป้าหมายการเดินทางของทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เช่น สถานที่ทำงานของกลุ่ม Digital Nomad ไทยติดTop 10 ถึง 3 แห่งของเอเชีย และ 2 ใน 3 แห่งอยู่ใน 3 ภาคนี้ ได้แก่ เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี (อันดับ 1) และจ.เชียงใหม่ (อันดับ 9)1/ บทความนี้จึงขอชวนทุกท่านส่อง
“ความเป็นอยู่ของคนใน 3 ภาค ที่มีมากถึง 43 ล้านคน หรือ 65% ของประชากรไทยทั้งหมด2/ ว่าเป็นอย่างไร” ซึ่งพบ 5 มุมมองที่สำคัญ ดังนี้
ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในแต่ละภูมิภาคมีจุดเด่นแตกต่างกัน คนใต้อยู่ท่ามกลางอากาศที่ดีมาก คนอีสานอุ่นใจด้านความปลอดภัย ทั้ง 3 ภาค เมื่อมีลูกหลานสามารถส่งเรียนในจังหวัดภายในภูมิภาคของตัวเองได้ และที่สำคัญพื้นที่ส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ดังนั้น คงไม่แปลกใจว่า ทำไมแรงงานที่กลับบ้านในช่วงโควิดจำนวนไม่น้อย เลือกที่จะใช้ชีวิตต่อที่บ้านเกิด ไม่กลับไปทำงานที่ในเมือง
หมายเหตุ: * วิเคราะห์ตามกรอบแนวคิดของ OECD ครอบคลุม 6 ด้าน ได้แก่ รายได้และการจ้างงาน การศึกษา สาธารณสุข ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม โครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้ 1. การวิเคราะห์นี้ไม่ได้ใช้เปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน (Benchmark) ของแต่ละด้านว่าดีกว่า/แย่กว่าเกณฑ์เพียงใด และ 2. ผู้ศึกษาเลือกเครื่องชี้หลัก ๆ มาแสดงในหน้านี้ แต่ดัชนีความเป็นอยู่ของประชาชนยังมีเครื่องชี้อื่น ๆ อีก ซึ่งจะเผยแพร่เป็นบทความในไตรมาส 4 ปี 2566 ต่อไป
ที่มาของข้อมูล :
1/ ผลสำรวจ nomadlist.com
2/สถิติประชากรศาสตร์ประชากรและเคหะ พ.ศ.2564-65 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ
3/The World Air Quality Project
4/Open Government Data of Thailand ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
5/ ฐานข้อมูลดัชนีความก้าวหน้าของคน ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
6/Dynamic World ของ Google ร่วมกับ World Resources Institute และ
7/ สำนักงานสถิติแห่งชาติ คำนวณโดยทีมงานศึกษา
“บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย”
.
.
.