"ห้องเรียนการเงิน...สร้างได้ในโรงเรียน"

จารุมาส ปาละรัตน์ | นิรัชรา ปัญญาจักร | ไพโรจน์ เงาวิจิตร ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ

20 มี.ค. 2568

เรื่องเล่าจากโครงการ “ครูสตางค์จูเนียร์” ภาคเหนือ

 

“ทักษะทางการเงินที่ดี” จะนำไปสู่การตัดสินใจทางการเงินที่ดีและทำให้เกิดความเป็นอยู่ทางการเงินที่ดี (financial wellbeing) แต่ผลการสำรวจทักษะทางการเงินของไทยปี 25651 กลับพบว่าทักษะทางการเงินของคนในภาคเหนืออยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับภาคอื่น ๆ โดยเฉพาะความรู้ทางการเงินได้คะแนนเฉลี่ยน้อยกว่าทุกภูมิภาค การพัฒนาทักษะทางการเงินจึงควรถูกปลูกฝังในทุกระดับการศึกษาเพื่อสร้างรากฐานทักษะทางการเงินที่ดีในอนาคต

“ทักษะทางการเงิน” ควรเริ่มพัฒนาตั้งแต่เด็ก

 

จากแนวทางส่งเสริมทักษะทางการเงินของ OECD2 ระบุว่า การพัฒนาทักษะทางการเงินควรเริ่มในวัยเด็ก ก่อนอายุ 7 ปี หรือก่อนที่จะเข้าถึงบริการทางการเงิน เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ตามระดับพัฒนาการ และปลูกฝังทักษะทางการเงินที่จำเป็นในแต่ละช่วงวัย แต่ในประเทศไทยกลับพบว่า การเรียนการสอนทักษะทางการเงินในโรงเรียนยังมีไม่มากนัก 

ออกแบบ “ครูสตางค์” ร่วมกับมหาวิทยาลัย

 

ปี 2566 ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ (ธปท. สภน.) และคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ร่วมมือออกแบบและพัฒนา โครงการครูสตางค์ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างนักศึกษาฝึกสอนให้เป็น “ครูสตางค์” ทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนให้เกิดสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาที่เอื้อต่อการพัฒนาทักษะทางการเงินที่ดี ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ ธปท. ที่มุ่งเน้นการสร้างผู้ส่งต่อความรู้ (multipliers) โดยขยายโครงการไปยังคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ต่อมาเมื่อ ธปท. มีโครงการที่เกี่ยวข้องกับครูมากขึ้น จึงเปลี่ยนชื่อโครงการเป็น “ครูสตางค์จูเนียร์”

พัฒนานักศึกษาฝึกสอนให้เป็นครูสตางค์

 

มหาวิทยาลัยราชภัฏ ได้คัดเลือกนักศึกษาที่สนใจเข้าร่วม Workshop “การสร้างห้องเรียนการเงิน” ที่จัดโดย ธปท. สภน. เพื่อถ่ายทอดความรู้พื้นฐานทางการเงินที่จำเป็นสำหรับนักเรียน โดยอิง “ร่างกรอบสมรรถนะทางการเงินของไทย”3 ซึ่งเป็นความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐด้านการเงิน4 และปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาเป็น “กรอบสมรรถนะทางการเงิน เพื่อการศึกษาและการเรียนรู้” เพื่อนำไปใช้กับงานด้านการศึกษาโดยตรง

ห้องเรียนการเงิน : พื้นที่ให้นักเรียนได้ลองคิด ลองตัดสินใจเรื่องเงิน

 

ครูสตางค์จะสร้างห้องเรียนการเงินที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ลองคิดและลองตัดสินใจเรื่องการเงิน เพื่อสะสมประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับใช้ในชีวิตจริง  โดยยึด “กรอบสมรรถนะทางการเงิน” เป็นแนวทางการพัฒนาห้องเรียนการเงินให้มีเนื้อหาที่เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละช่วงวัย 

เลือกได้...จะบูรณาการในรายวิชาหรือจัดกิจกรรมนอกห้องเรียน

 

ครูสตางค์สามารถบูรณาการเรื่องเงินไปกับรายวิชาที่ฝึกสอน โดยดูความเป็นไปได้ในการเชื่อมโยงเรื่องการเงินไปกับมาตรฐานการเรียนรู้ หรือหน่วยการเรียนรู้ที่ต้องสอนในเทอมนั้น ๆ หรือจัดเป็นกิจกรรมนอกห้องเรียน เพื่อเน้นเนื้อหาเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะทางการเงินโดยตรงก็ได้

มีที่ปรึกษาช่วยด้านเนื้อหาการเงิน การวางแผน และการสอน 

 

หนึ่งภาคการศึกษาในการฝึกสอนครูสตางค์จะมีเจ้าหน้าที่จาก (1) ธปท. สภน. คอยสนับสนุนเนื้อหาการเงิน (2) อาจารย์จากมหาวิทยาลัย ช่วยเหลือในการออกแบบห้องเรียน และ (3) ครูพี่เลี้ยง เป็นที่ปรึกษาในการปฏิบัติจริงที่โรงเรียน


ที่มา : 
1 รายงานผลการสำรวจทักษะทางการเงินของไทยปี 2565 ธนาคารแห่งประเทศไทย

2 OECD (2014), Financial Education for Youth: The Role of Schools, OECD Publishing.

3 ร่างขึ้นตามมาตรฐานสมรรถนะทางการเงินขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development หรือ OECD)- OECD/INFE (2015), OECD/INFE Core Competencies Framework on Financial Literacy for Youth.

4 หน่วยงานภาครัฐด้านการเงิน ประกอบด้วย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กรมสรรพากร และสถาบันคุ้มครองเงินฝาก  

 

finance1
finance2
finance3

5 นางสาวอรวรรณ เพชรโกษาชาติ ครูสตางค์ ปี 2566 นักศึกษาฝึกสอน มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง

6 นางสาวเกศราพร ฟองน้อย และนางสาวธนวรรณ ต๊ะแก้ว ครูสตางค์ ปี 2566 นักศึกษาฝึกสอน มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง

7 นางสาวศศิกานต์ คำตรีวงศ์ นายรัชชานนท์ ปัญญา นายธเนศ ลุงจาย นางสาวศิริรัตน์ เพชรอาริน และนายพงษ์พัฒน์ แก้วตา ครูสตางค์ ปี 2567 นักศึกษาฝึกสอน มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่  

 

ตัวอย่างห้องเรียน

finance4
finance5
finance6-1
finance7-1
finance8
finance9
finance10
finance11

 

บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งไม่จำเป็นสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย