​Fin. Land พลังเงินออมเพื่ออนาคต

Save for the Future

 

เมื่อผ่านพ้นวันขึ้นปีใหม่ แสงพลุหลากสีไม่ทันจางหาย เด็ก ๆ ทุกคนต่างเฝ้ารอวันเสาร์สัปดาห์ที่สองของเดือนมกราคมของทุกปี วันที่ผู้ใหญ่ยังแอบหวนรำลึกถึงวันแห่งความสุข สนุกสนาน วันที่หน่วยงานทุก ๆ แห่งต่างพร้อมใจกันจัดงานวันเด็กแห่งชาติ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญและความต้องการของเด็ก โดยปลูกฝังให้เด็กมีส่วนร่วมในสังคม เพื่อจะได้เติบโตเป็นพลเมืองที่ดีมีคุณภาพสืบไป

 

 

ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทยได้จัดงานวันเด็กมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งในปีนี้ได้จัดงานภายใต้แนวคิด "Fin. Land พลังเงินออมเพื่ออนาคต Save for the Future" โดยมี วัตถุประสงค์ที่จะปลูกฝังให้เด็ก เยาวชน และผู้ปกครอง ตระหนักและเห็นความสำคัญของการเก็บออม กล้าแสดงออกในทางสร้างสรรค์ รวมถึงเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กับโรงเรียนและชุมชนในบริเวณใกล้เคียง ตลอดจนส่งเสริมค่านิยมร่วมของ ธปท. ในการ "ยื่นมือ" สู่สาธารณชนให้เห็นเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น

 

 

 

ในงานนี้ ผู้บริหารระดับสูงของ ธปท. เด็ก ๆ และผู้ปกครอง พร้อมด้วยแมสคอตพี่กระปุกทั้ง 5 ของ Fin. Land และบรรดาตัวการ์ตูนสีสันสดใส มาเข้าร่วมขบวนในพิธีเปิดงานอย่างคึกคักบริเวณพื้นที่ชั้น 2 ของศูนย์การเรียนรู้ฯ ถูกปรับให้เป็นซุ้มกิจกรรมเกมที่สนุกสนาน ส่งเสริมความรู้ทางการเงินและการเก็บออม การประดิษฐ์ กระปุกออมสิน DIY จากวัสดุเหลือใช้ การเล่านิทานประกอบละครภายในห้องสมุด และการแสดงโชว์บนเวที ซึ่งได้วางรูปแบบกิจกรรมเป็นเส้นทางการเล่นรู้ผ่าน 5 ฐานกิจกรรม ได้แก่


ฐานที่ 1 สมุดบัญชี DIY : รู้รายรับรู้จักจ่าย

 

น้อง ๆ ได้วาดภาพฝันสร้างสรรค์ผลงานศิลปะทำมือลงบนสมุดบัญชีเงินออมของตัวเอง การมีสมุดบัญชีบันทึกรายรับและรายจ่ายจะช่วยให้น้อง ๆ ได้ฝึกฝนการจดบันทึกและรับรู้รายรับและรายจ่าย เพื่อวางแผนการเก็บออมต่อไป

 


ฐานที่ 2 อาชีพในฝัน : อยากมีเงินต้องทำงาน

 

ให้น้อง ๆ เลือกอาชีพในฝันที่ตัวเองอยากจะเป็น โดยจำลอง ชุดทำงานหลากหลายอาชีพมาให้น้อง ๆ เลือก พร้อมเขียนบรรยายว่าทำไมถึงเลือกอาชีพดังกล่าว แล้วบันทึกภาพไว้เตือนใจให้ทำได้ ตามฝัน ซึ่งน้อง ๆ ได้เรียนรู้ถึงอาชีพต่าง ๆ ที่สามารถสร้างรายได้ เพื่อการดำรงชีวิตและสร้างความมั่นคงให้กับตนเองได้ในอนาคต

 


ฐานที่ 3 กระปุกออมสิน DIY : ออมก่อน รวยกว่า

 

ฐานนี้น้อง ๆ จะได้เปิดจินตนาการด้วยการออกแบบและลงมือทำกระปุกออมสินจากเศษวัสดุ สิ่งของเหลือใช้ เช่น ขวดน้ำแก้วน้ำหลอด พลาสติก เพื่อจะได้มีกระปุกไว้หยอดเก็บเงินที่ไม่เหมือนใคร และสามารถนำกระปุกที่ตนเองทำส่งเข้าประกวดชิงรางวัล ซึ่งนอกจากน้อง ๆ จะได้สร้างสรรค์กันอย่างเต็มที่แล้ว ยังเป็นการปลูกฝังเรื่องการ "รักษ์โลก" ด้วยการนำสิ่งของเหลือใช้กลับมาทำประโยชน์ได้อีกทางหนึ่งด้วย


ฐานที่ 4 ล้วงไข่ปริศนา : คิดก่อนจ่าย

 

ฐานนี้สอนให้น้อง ๆ ฝึกความคิดให้ถี่ถ้วนก่อนการใช้จ่ายเงิน เรียนรู้ว่าในแต่ละวันเราจ่ายเงินไปกับเรื่องอะไรบ้าง เป็นสิ่งที่จำเป็นจริงหรือไม่ หรือบางรายจ่ายก็ไม่จำเป็น โดยยกตัวอย่างจากสิ่งรอบตัวที่เด็ก ๆ มักใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น อาทิ ของเล่น หรือขนมขบเคี้ยว


ฐานที่ 5 เกมบันไดงู : รู้ไว้ไม่เสี่ยง

 

ฐานนี้ทีมงานได้เนรมิตลานปูนริมแม่น้ำเจ้าพระยาขนาดกว่า 200 ตารางเมตร โดยออกแบบภาพกราฟิกสีสันสดใสสวยงามมาให้น้องๆ ปลดปล่อยพลัง พร้อมเรียนรู้ว่าทางเดินชีวิตของทุกคนย่อมเจอโอกาส อุปสรรคและความเสี่ยงได้ตลอดเวลา และ "การออม" ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดความเสี่ยงและสร้างภูมิคุ้มกันเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เล่นไปชมวิวแม่น้ำและสะพานพระรามแปดไป โอ้โห... สวยสนุก สุดบรรเจิด

 

 

กิจกรรมเด่นอีกรายการคือ การเล่านิทานประกอบการแสดงภายในห้องสมุดพระองค์เจ้าวิวัฒนไชย เรื่อง ชาลีกับกรรไกรวิเศษ และเรื่อง อูฐออม กิจกรรมนี้เด็ก ๆ สนุกและชอบกันมาก ซึ่งนอกจากวิธีการเล่าเรื่องที่สนุกสนานแล้ว ยังได้แฝงสาระเรื่องการออม และสอนให้เด็กมีระเบียบวินัย พอใจในสิ่งที่มี รู้จักการขอโทษ และการให้อภัย ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

 

 

ส่วนกิจกรรมบนเวทีหลักมีการแสดงสลับกับการลุ้นรับรางวัลใหญ่ อาทิ จักรยาน สกู๊ตเตอร์ ตุ๊กตาหมีตัวโต ตัวต่อเลโก้ กระเป๋าเป้ และของรางวัลที่จะได้รับจากการเข้าฐานกิจกรรมอีกมากมาย ซึ่งกว่ารางวัลใหญ่จักรยานคันสุดท้ายจะพบเนื้อคู่ ก็เล่นเอาผู้ประกาศคอแหบเสียงหายเลยทีเดียว

 

 

นอกจากนี้ ณ บริเวณพื้นที่ชั้น 1 ยังมีการจัดนิทรรศการ Money Detective ซึ่งเด็ก ๆ และผู้ปกครองได้สวมบทบาทนักสืบ เพื่อสืบพฤติกรรมการใช้จ่ายของตนเองว่า ในแต่ละเดือนได้จ่ายเงินไปกับอะไรบ้าง และสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นหรือไม่

 

 

แม้สาระและความสนุกสนานของงานวันเด็กประจำปีนี้จะจบลงแล้ว ทุกคนยังสามารถติดตามภาพบรรยากาศ รวมถึงสาระความรู้ดี ๆ ได้ทาง Facebook : BOT Learning Center