มหกรรมร่วมใจแก้หนี้
การแก้ปัญหา "หนี้ครัวเรือน" จึงไม่ใช่แค่การช่วยคน หากแต่เป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในเชิงโครงสร้างไปพร้อมกัน
กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยจึงได้ร่วมกันจัด "มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน" ที่เน้นการแก้ไขหนี้อย่างครอบคลุม ยั่งยืน และครบวงจร เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ให้สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ผ่านช่องทางออนไลน์ รวมทั้งการจัดมหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจรที่จัดขึ้นทั่วทุกภูมิภาค ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น เชียงใหม่ ชลบุรี และหาดใหญ่เพื่อให้คำปรึกษาในการแก้หนี้และแนวทางในการเจรจากับเจ้าหนี้ โดยทีมงานหมอหนี้เพื่อประชาชน
และนี่คือบางตัวอย่างของ คนที่แก้หนี้ได้สำเร็จจากการเข้าร่วมมหกรรมร่วมใจแก้หนี้
ลูกหนี้รายหนึ่งอายุ 47 ปี ปัจจุบันมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ในปี 2556 เขาได้เช่าซื้อรถยนต์มือสองราคาประมาณ 500,000 บาท ระยะเวลาผ่อนชำระ 60 งวด แต่ผ่อนได้เพียงหนึ่งปีเศษ ก็ไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดรถต่อได้ เนื่องจากขณะนั้นรายได้จากการเป็นลูกจ้างบริษัทไม่มากพอ เมื่อผ่อนชำระไม่ได้ สถาบันการเงินจึงยึดรถคืนและนำไปขายทอดตลาด แต่ราคาประมูลรถมือสองต่ำกว่ายอดหนี้คงค้างมาก ทำให้เมื่อขายรถแล้วยังมีภาระหนี้เหลืออีก (ติ่งหนี้) 160,000 บาท ซึ่งเขาไม่ได้ติดต่อกับสถาบันการเงินอีกเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา รายได้ที่หาได้ก็นำไปใช้หมุนเวียนในกิจการรับเหมาก่อสร้าง และเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ด้านสถาบันการเงิน (เจ้าหนี้) เมื่อไม่สามารถติดต่อลูกหนี้ได้ ก็ขายหนี้รายนี้ให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ (บบส.) แห่งหนึ่ง จนกระทั่งลูกหนี้ท่านนี้ได้ทราบเรื่องภาระหนี้เช่าซื้อรถที่ค้างอยู่อีกครั้งเมื่อเดือนกันยายน 2565 จากการได้รับหมายบังคับคดีแจ้งการยึดบ้านที่อยู่อาศัย ซึ่งทำให้ลูกหนี้กังวลและร้อนใจมาก เมื่อทราบข่าวมหกรรมฯ ผ่านรายการวิทยุ ลูกหนี้จึงมางานมหกรรมสัญจรที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อขอคำปรึกษาจากทีมหมอหนี้ของแบงก์ชาติ และลงทะเบียนออนไลน์เพื่อขอแก้หนี้กับ บบส. ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ในมหกรรมฯ ด้วย ภายในงานสัญจร ลูกหนี้ได้รับความรู้เกี่ยวกับการคำนวณยอดหนี้ซึ่งประกอบด้วย ยอดหนี้ ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับ ซึ่งเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการเจรจาชำระหนี้ และแนวทางในการเจรจากับเจ้าหนี้ ส่วนการแก้หนี้ออนไลน์ได้ช่วยประสานงานจนสามารถชำระหนี้และปิดจบคดีได้แล้วเมื่อธันวาคม 2565
(รายละเอียดหนี้ : ติ่งหนี้ปี 2558 160,000 บาท หนี้ตามคำพิพากษารวมดอกเบี้ย 234,000 บาท ซึ่ง บบส. ให้ส่วนลดจำนวนหนึ่ง ทำให้สามารถปิดจบหนี้ได้ และบ้านไม่ถูกขายทอดตลาด)
อีกตัวอย่าง ลูกหนี้อายุ 57 ปี อาชีพขายข้าวแกงที่ตลาดนัดในจังหวัดหนึ่ง เขาใช้บัตรเครดิตมากว่า 10 ปี และผ่อนชำระขั้นต่ำมา 3 ปี เพราะเคยคิดว่าอาจจำเป็นต้องใช้บัตรเครดิตเวลาเดินทาง แต่ภายหลังได้ลองคำนวณเงินที่จ่ายชำระหนี้แล้ว พบว่าเงินต้นแทบจะไม่ลดลงเลย มีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะหยุดการใช้บัตรเครดิตทุกใบ สร้างวินัยทางการเงินให้กับตัวเอง เพื่อให้สามารถจบหนี้ได้ จึงลงทะเบียนร่วมงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ออนไลน์โดยขอเปลี่ยนวงเงินจากบัตรเครดิตเป็นผ่อนชำระรายเดือน (term loan) และผ่อนชำระหนี้ให้หมดภายใน 2 ปี
(รายละเอียดหนี้ หนี้ปัจจุบัน 17,000 บาท ผ่อนขั้นต่ำต่องวด (5%) 850 บาท หากผ่อนแบบมีกำหนดระยะเวลา จะหมดหนี้ได้ภายใน 2 ปี)