สัมมนาวิชาการสัญจร ภาคเหนือ ประจำปี 2566
15 ธันวาคม 2566
ภาพของเศรษฐกิจการเงินภายใต้โลกใหม่ที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเร็ว มีความไม่แน่นอนสูง มีความเสี่ยงใหม่ ๆ ที่เราไม่คุ้นชิน คาดเดาได้ยาก และประเมินผลกระทบได้ยาก หากจะทำให้เศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปมีการเจริญเติบโตที่ยั่งยืน ต้องมี resilience
องค์ประกอบของ resilience และการดำเนินนโยบายของ ธปท.
1. มีเสถียรภาพ (stability) ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกเสี่ยงสูงขึ้น ส่วนเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง การรักษาเสถียรภาพจึงเป็นหัวใจของการทำนโยบาย คือการปรับดอกเบี้ยนโยบายกลับสู่ระดับปกติ เพื่อให้เศรษฐกิจโตสอดคล้องกับศักยภาพ และให้สถาบันการเงินกลับมาใช้เกณฑ์ปกติ จากที่ได้ผ่อนปรนให้ในช่วงโควิด-19
2. มีภูมิคุ้มกัน (buffer) และมีทางเลือกอื่น ๆ (option) เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยง และรองรับ shock หมายถึง ฐานะการเงินของภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ครัวเรือน ธุรกิจ สถาบันการเงิน ภาครัฐ เข้มแข็ง เพื่อไว้รองรับ shock ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ธปท. เร่งแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน ครบวงจรหนี้ ส่วนทางเลือกอื่น ๆ ไว้ใช้ทดแทน เช่น หากระบบ payment หลักเกิดปัญหา สามารถใช้ระบบทางเลือกอื่นได้ โดย ธปท. มีการศึกษาและพัฒนาระบบ cross border payment เชื่อมโยงระบบ retail payment กับประเทศในภูมิภาคเพื่อเป็นทางเลือก
3. เติบโตจากโอกาสใหม่ (digital & transition) ถ้าเติบโตแบบในอดีต หรือพึ่งเครื่องยนต์เศรษฐกิจแบบเก่า เศรษฐกิจไทยจะโตได้ไม่ทั่วถึง ไม่ยั่งยืน กำไรกระจุกตัวอยู่ในบริษัทใหญ่ การใช้เทคโนโลยี digital จะช่วยเพิ่มโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจ หรือเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงิน เช่น ประชาชนและธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลของตน หรือ digital footprint ที่อยู่กับผู้ให้บริการต่าง ๆ ก้าวต่อไปของภาคเหนือ ต้องรู้จุดอ่อน เติมจุดแข็ง เพื่อยกระดับเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคเหนือ
อลิศรา มหาสันทนะ
รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน
ธนาคารแห่งประเทศไทย
1. สะท้อนข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นของภาคธุรกิจในพื้นที่จากการพบปะหารือผู้ประกอบการ สู่การดำเนินนโยบายการเงิน และนโยบายด้านเศรษฐกิจ
2. ให้ข้อมูลเศรษฐกิจแก่ประชาชนและภาคธุรกิจ เพื่อให้ภาพพัฒนาการเศรษฐกิจที่ชัดเจน สามารถนำไปวิเคราะห์ และมองไปข้างหน้าเพื่อวางแผนได้ รวมทั้งพยายามตอบโจทย์การพัฒนาพื้นที่ในประเด็นต่าง ๆ
3. ขับเคลื่อนนโยบายและมาตรการของ ธปท. สู่การปฏิบัติ ผ่านการร่วมมือกัน (collaboration) ระหว่าง ธปท.สภน. กับทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา และภาคประชาชน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายผ่านกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ให้ได้รับประโยชน์ในเชิงลึกและเป็นวงกว้างมากขึ้น