ส่งเสริมระบบการเงินที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ส่งเสริมระบบการเงินที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

 

ด้านสถาบันการเงิน “กำหนดกลยุทธ์รองรับความเสี่ยงและสนับสนุนการปรับตัวของภาคธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม”

รายละเอียดการดำเนินการ

policy

"การวางรากฐานที่สำคัญ (building blocks)"

 

1. การปรับกระบวนการดำเนินธุรกิจ

ธปท. ได้ออกแนวนโยบายที่เป็นแนวปฏิบัติมาตรฐาน (standard practice) ซึ่งสอดคล้องกับหลักการของ Basel Committee on Banking Supervision (BCBS) และแนวนโยบายของผู้กำกับดูแลภาคการเงินในต่างประเทศ เพื่อให้สถาบันการเงินคำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

2. มาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (taxonomy)

ธปท. เป็นส่วนหนึ่งของคณะทำงาน Thailand Taxonomy ซึ่งได้จัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ภาคส่วนต่าง ๆ นำไปใช้อ้างอิงในการจัดทำกลยุทธ์ วางแผน และออกแบบผลิตภัณฑ์ รวมถึงออกนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีมาตรฐาน (อ่านต่อ)

3. ฐานข้อมูลที่เป็นระบบและมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูล

ธปท. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลักดันการพัฒนาฐานข้อมูลและ data platform ด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจ และบริหารจัดการความเสี่ยงที่เพียงพอ โดยเฉพาะข้อมูลของ SMEs เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงบริการและผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ธปท. ยังผลักดันให้สถาบันการเงินไทยทยอยเปิดเผยข้อมูลตามมาตรฐานสากล เพื่อให้เกิดข้อตกลงร่วมกันในการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อม 

4. มาตรการสร้างแรงจูงใจ

ธปท. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการสร้างแรงจูงใจ โดยเฉพาะ SMEs ที่ต้องการปรับตัวด้านสิ่งแวดล้อม ให้เข้าถึงแหล่งงเงินทุนต้นทุนต่ำด้วยขนาดวงเงินที่เหมาะสม เช่น มาตรการสินเชื่อเพื่อการปรับตัว (transformation loan) ภายใต้ พ.ร.ก. การให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 พ.ศ. 2564 

5. องค์ความรู้และทักษะของบุคลากรในภาคการเงิน

ธปท. ร่วมมือกับหน่วยงาน และองค์กรต่าง ๆ ในการจัดอบรมให้บุคลากรในภาคการเงินมีความรู้ความเข้าใจในการวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจ ตัวอย่างเช่น ความร่วมมือกับรัฐบาลสหราชอาณาจักรในการจัดอบรมเรื่องการเปิดเผยข้อมูล และ climate scenario analysis and stress testing 

Financing the Transition การเงินเพื่อการปรับตัวสู่ความยั่งยืนของภาคธุรกิจ

 

ธปท. ร่วมกับสถาบันการเงินพัฒนาโครงการผลิตภัณฑ์ที่ช่วยสนับสนุนเงินทุนเพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม (financing product for transition to environmental sustainability) เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์การปรับตัวตามบริบทอุตสาหกรรมไทย และสอดคล้องความต้องการและความพร้อมของธุรกิจ  โดยเน้นการทำจริง เห็นผลจริง และขยายผลได้ (อ่านต่อ)

ความร่วมมือระหว่างประเทศ

 

ธนาคารกลางและผู้กำกับดูแลในหลายประเทศได้จัดตั้งเครือข่าย Network for Greening the Financial System (NGFS) ในปี พ.ศ. 2560 เพื่อผลักดันระบบการเงินให้รับมือกับความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนเศรษฐกิจสีเขียว โดย ธปท. เข้าร่วมเป็นสมาชิก NGFS ในปี พ.ศ. 2562 นอกจากนี้ ธปท. ได้ร่วมเป็นสมาชิกของคณะทำงานด้าน sustainable finance ของเครือข่ายธนาคารกลางต่างๆ เช่น Executives’ Meeting of East Asia-Pacific Central Banks (EMEAP) และร่วมขับเคลื่อน ASEAN Taxonomy

การสร้างและเผยแพร่องค์ความรู้

 

สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ (PIER) และสายงานที่เกี่ยวข้องใน ธปท.  ร่วมกับพันธมิตรทางวิชาการ จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และเผยแพร่งานวิจัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นหัวข้อในการสื่อสารนโยบายและสร้างการมีส่วนร่วม อาทิ การฉายภาพอนาคตเศรษฐกิจการเงินตลอดจนหาแนวทางการปรับตัวของธุรกิจเพื่อก้าวเข้าสู่โลกใหม่ภายใต้กระแสความยั่งยืน (อ่านต่อ)

"การชำระเงิน"

 

ธปท. มีเป้าหมายให้ประชาชนใช้ digital payment เพิ่มขึ้น ควบคู่กับการลดการใช้เงินสดและเช็ค ตามวิสัยทัศน์ของนโยบายระบบชำระเงินที่จะให้ “การชำระเงินดิจิทัลเป็นทางเลือกหลักที่เข้าถึงผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม ยกระดับคุณภาพชีวิต ส่งเสริมศักยภาพ และการแข่งขันของไทย พร้อมก้าวสู่สังคมที่ใช้เงินสดน้อยลง” ซึ่งการใช้เงินสดน้อยลง จะลดความจำเป็นในการผลิต การบริหารจัดการ และการขนส่งธนบัตร ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้

 

นอกจากนี้ ธปท. กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการลดตู้ ATM ที่เกินความจำเป็น โดยอยู่ระหว่างการศึกษาการใช้ White Label Smart Machine (WSM) ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการขนส่งและกดเงินสด ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้

 

digital payment

"ส่งเสริมระบบการเงินที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม"

 

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 ธปท. ได้ออกใช้ธนบัตรพอลิเมอร์ ชนิดราคา 20 บาท ซึ่งผลิตจากวัสดุพลาสติกประเภท biaxially oriented polypropylene (BOPP) ที่มีอายุการใช้งานนานกว่าธนบัตรกระดาษประมาณ 2.5 - 3.3 เท่า ดังนั้นการใช้ธนบัตรพอลิเมอร์จึงส่งผลให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าธนบัตรกระดาษ เมื่อประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามวงจรชีวิตธนบัตรตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตจนสิ้นสุดการใช้งานแล้ว (Life Cycle Assessment) และในระยะต่อไป ธปท. ได้วางแผนการผลิตธนบัตรพอลิเมอร์เพิ่มเติมในชนิดราคาอื่นเพื่อทยอยทดแทนธนบัตรกระดาษ ซึ่งในระยะยาวคาดว่าจะส่งผลให้ปริมาณการผลิตธนบัตรโดยรวมลดลงด้วย

 

นอกจากนี้ ธปท. ได้จัดตั้งศูนย์เงินสดกลาง (Consolidated Cash Center: CCC) เพื่อให้มีการใช้ทรัพยากรร่วมกัน และลดการทำงานที่ซ้ำซ้อนในการนับคัดธนบัตร รวมทั้งลดจำนวนเที่ยวการขนส่งธนบัตร ซึ่งจะส่งผลต่อการลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 

 

banknote polymer