“เงินเฟ้อต่ำ” ตัวช่วยหรืออุปสรรคในชีวิตจริง?

“เงินเฟ้อต่ำ” ตัวช่วยหรืออุปสรรคในชีวิตจริง?

เวลาได้ยินคำว่าเงินเฟ้อ หลายคนมักจะนึกถึงราคาข้าวของที่แพงขึ้น กำลังซื้อที่หดหาย ทำให้ซื้อของได้น้อยลง ตรงกันข้าม เวลาได้ยินว่า “เงินเฟ้อต่ำ” กลับรู้สึกไม่สบายใจ เพราะกังวลว่าเศรษฐกิจกำลังมีปัญหาและกลัวว่าจะกระทบกับรายได้ในอนาคต 

 

ตกลงแล้ว ในสภาพการณ์ปัจจุบัน “เงินเฟ้อต่ำ” เป็นตัวช่วยหรือเป็นอุปสรรคกันแน่?

 

พระสยาม BOT MAGAZINE ขอชวนท่านผู้อ่านมาทำความเข้าใจเรื่องราวของเงินเฟ้อต่ำ ผ่านชีวิตของผู้คนหลากหลายอาชีพไปพร้อมกัน มาดูกันว่า อันที่จริงแล้วเงินเฟ้อต่ำทำให้ประชาชนเดือดร้อนจริงหรือไม่ และจะมีผลอย่างไรต่อเศรษฐกิจไทยบ้าง

เงินเฟ้อต่ำทำให้ประชาชนเดือดร้อน จริงหรือไม่?

เงินเฟ้อต่ำทำให้ประชาชนเดือดร้อน จริงหรือไม่?

เห็นได้ชัดว่า ราคาที่คงที่หรือเพิ่มขึ้นไม่มาก (ซึ่งสะท้อนว่าเงินเฟ้อต่ำ) ได้ช่วยชีวิตอั้มไว้ในยามที่เงินในมือมีจำกัด แม้ว่าจะไม่ถึงขั้นทำให้ประหยัดเงินได้ แต่ราคาที่ใกล้เคียงเดิมก็ทำให้ยังสามารถบริหารจัดการรายได้และรายจ่ายให้อยู่ในงบประมาณได้ ยกตัวอย่างเช่น ตอนนี้อั้มซื้ออาหารคลีนกล่องละ 82 บาท แพงขึ้นจากปีที่แล้ว 2 บาท หรือเท่ากับ 2.5% อาจจะดูไม่เยอะเท่าไร แต่ลองนึกดูสิว่าถ้าเงินเฟ้อสูงกว่านี้ วัตถุดิบแพงขึ้นมากจนร้านต้องปรับราคาขึ้นไปอยู่ที่ 90 บาท หรือแพงขึ้นถึง 12.5% อั้มจะเดือดร้อนขนาดไหน โดยสรุปแล้ว เงินเฟ้อต่ำจึงช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน รวมถึงต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการไม่ให้เพิ่มขึ้นมากเกินไป โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดี

 

ยิ่งไปกว่านั้น อัตราเงินเฟ้อที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศทุก ๆ เดือน ยังคำนวณจากสินค้าและบริการถึง 464 รายการ ซึ่งในความเป็นจริงมีทั้งที่ราคาเท่าเดิม แพงขึ้น และถูกลง ผสมปนเปกัน ความรู้สึกที่มีต่อเงินเฟ้อและราคาสินค้าจึงขึ้นอยู่กับรายได้ แหล่งที่อยู่ และรูปแบบการใช้ชีวิตของแต่ละคนด้วย ยกตัวอย่างเช่น อั้มที่เพิ่งเริ่มทำงานและรายได้ยังน้อยอยู่ เงินเกือบครึ่งหนึ่งที่ใช้ในแต่ละเดือนจึงหมดไปกับค่ากินอยู่ อีกทั้งอั้มยังทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ราคาอาหารก็เลยแพงกว่าที่ต่างจังหวัด แถมยังกินอาหารเพื่อสุขภาพทั้งผักออร์แกนิก หมูปลอดสาร ต้นทุนก็เลยสูงกว่าอาหารทั่วไปในท้องตลาด

 

ดังนั้น ภาวะเงินเฟ้อต่ำของไทยในตอนนี้จึงไม่ได้เป็นปัจจัยที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน แต่ที่น่ากังวลมากกว่าก็คือ รายได้ซึ่งไม่เพิ่มขึ้นหรือเพิ่มขึ้นน้อย เพราะที่คนรู้สึกว่าเดือดร้อนกับราคาสินค้าที่สูงขึ้น ส่วนหนี่งมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นไม่ทันกับเงินเฟ้อ แต่มนุษย์เงินเดือนอย่างอั้มยังไม่เดือดร้อนเท่ากับคนที่รายได้ไม่ค่อยแน่นอนอย่างเช่น คนขับแท็กซี่ พ่อค้าแม่ค้า พนักงานรับจ้างรายวัน ซึ่งโดยทั่วไปจะได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อและราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นมากกว่า

10 ปีผ่านไป รายได้คนไทยไม่เคยแซงรายจ่าย

เงินเฟ้อต่ำหมายถึงเศรษฐกิจกำลังแย่หรือเปล่า?

เงินเฟ้อต่ำหมายถึงเศรษฐกิจกำลังแย่หรือเปล่า?

อันที่จริงแล้ว พฤติกรรมของผู้คนที่หันมาซื้อสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น และเปรียบเทียบราคาก่อนซื้อเพื่อให้ได้ราคาที่ตัวเองพอใจ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นไม่มากและเงินเฟ้อค่อนข้างต่ำในช่วงระยะหลังมานี้ โดยเฉพาะเมื่อต้องปรับราคาเพื่อแข่งกับสินค้านำเข้าที่มีต้นทุนถูกกว่าจากต่างประเทศอย่างจีนและเวียดนาม

 

สำหรับคนที่กลัวว่าเงินเฟ้อต่ำตอนนี้จะนำพาไปสู่เงินฝืดในอนาคตนั้น จริง ๆ แล้วยังไม่ใช่ เพราะราคาที่ลดลงกระจุกอยู่แค่ใน 2 กลุ่มสินค้า นั่นก็คือ ราคาพลังงานที่ต่ำลงตามตลาดโลก และราคาอาหารสดซึ่งถูกลงตามปริมาณผลผลิตทางการเกษตรที่ออกมามาก ขณะที่ราคาข้าวของอย่างอื่นยังไม่ได้ลดลงตามไปหมด แถมยังมีหลายอย่างราคาแพงขึ้นอีกด้วย เช่น ผลิตภัณฑ์จากแป้ง เนื้อสัตว์ อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงอาหาร เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ นอกจากนั้น ถ้าต้องเจอกับปัญหาเงินฝืด เรามักต้องเห็นคนไม่ค่อยจับจ่ายใช้สอย หรือค่าแรงถูกปรับลดลง ดังนั้น สถานการณ์ตอนนี้จึงยังไม่เป็นสัญญาณของภาวะเงินฝืด เพราะราคาไม่ได้ลดลงตามกันเป็นดอมิโนในวงกว้าง ที่สำคัญการจับจ่ายใช้สอยและบริโภคของประชาชนก็ยังไม่ได้แย่ลง 

 

ที่น่าสนใจคือ ที่เนะและหลาย ๆ คนรู้สึกว่า เศรษฐกิจกำลังแย่นั้น จริง ๆ แล้วไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเงินเฟ้อต่ำ แต่เป็นเพราะผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่เข้ามาสร้างความปั่นป่วนให้กับการค้าโลกและซ้ำเติมการส่งออกและการผลิตของไทยที่เดิมก็มีปัญหาเรื่องความสามารถในการแข่งขันอยู่แล้วมากกว่า ซึ่งตรงนี้น่าจะส่งผลเสียทำให้รายได้ของธุรกิจและครัวเรือนในสาขาที่เกี่ยวข้องลดลง และยิ่งมีผลเสียรุนแรงกับกลุ่มเปราะบางซึ่งมีภาระหนี้สูงอยู่แล้ว

ถ้าคุมเงินเฟ้อได้ เศรษฐกิจก็อาจจะดีขึ้น จริงไหม?

ถ้าคุมเงินเฟ้อได้ เศรษฐกิจก็อาจจะดีขึ้น จริงไหม?

คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่อาจเข้าใจว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อจัดการกับเงินเฟ้อที่ต่ำ แต่ที่จริงแล้ว ราคาอาหารสดและพลังงานที่เป็นสาเหตุทำให้เงินเฟ้อต่ำในช่วงระยะหลังมานี้ เป็นเรื่องชั่วคราวที่คลี่คลายได้เอง แต่การที่ กนง. ต้องลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 2.5% มาอยู่ที่ 1.5% มีเป้าหมายหลักเพื่อช่วยบรรเทาภาระทางการเงินในช่วงที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอลง โดยหวังว่าต้นทุนเงินกู้ใหม่ และภาระการผ่อนชำระหนี้ของลูกหนี้เดิมบางกลุ่ม เช่น สินเชื่อธุรกิจ ที่ลดลงไปบ้าง จะช่วยชดเชยรายได้ที่น้อยลงได้บางส่วน และเอื้อให้คนที่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะ SMEs และลูกหนี้รายย่อยได้มีเวลาในการปรับตัว

 

แต่เราคงได้เห็นแล้วว่า อัตราดอกเบี้ยต่ำแค่อย่างเดียวอาจไม่สามารถกระตุ้นให้ผู้ประกอบการอย่างเช่นคุณวีรพลอยากใช้จ่าย ลงทุนขยายกิจการ และจ้างงานเพิ่มขึ้นได้ หากยังมองไม่เห็นโอกาสทางธุรกิจหรือยังมีความไม่แน่นอนสูงอยู่ แต่เงินเฟ้อที่ต่ำ และอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ก็จะช่วยบรรเทาภาระให้กับผู้ประกอบการได้ ทั้งในส่วนของต้นทุนวัตถุดิบและภาระดอกเบี้ยเดิม

รู้หรือไม่

เรื่องราวของผู้คนหลากหลายอาชีพ คงช่วยให้ท่านผู้อ่านได้เห็นภาพมากขึ้นว่า แท้จริงแล้วเงินเฟ้อต่ำไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจไทยที่ทำให้คนลำบากในตอนนี้ ตรงกันข้ามกลับเป็นตัวช่วยที่เข้ามาประคับประคองไม่ให้รายจ่ายเพิ่มขึ้นมากจนเกินไปในช่วงที่เศรษฐกิจดูท่าจะแผ่วกำลังลง ประชาชนจึงไม่ต้องกังวลว่าพรุ่งนี้ราคาข้าวของจะพุ่งกระฉูดไปจนเงินไม่พอใช้จ่าย ธุรกิจก็ยังพอพยุงต้นทุนไว้ได้โดยยังไม่ขาดทุน 

การดูแลเงินเฟ้อให้เหมาะสม

ทั้งนี้ การดูแลเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง จะมีการทบทวนกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อทุกปีเพื่อใช้สำหรับปีถัดไป โดยจะนำปัจจัยที่ส่งผลต่อเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมาและแนวโน้มในอนาคต รวมถึงทิศทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน ตลอดจนศักยภาพการเติบโตของไทยมาประกอบการพิจารณา เพื่อให้เป้าหมายที่ได้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจให้ได้มากที่สุด เพื่อสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของคนกลุ่มต่าง ๆ อย่างอั้ม แนน นุ๊ก เนะ วรรณา และวีรพลนั่นเอง

 

ในระยะยาว การดูแลเงินเฟ้ออย่างเดียวไม่อาจช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจในภาพใหญ่ได้ แต่ต้องอาศัยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาทักษะแรงงาน การปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ และการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้เป็นรากฐานที่ดีและช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ ให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

พัฒน์นรี อุตมะ

เรื่อง : พัฒน์นรี อุตมะ

ผู้วิเคราะห์อาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สื่อสารและความสัมพันธ์องค์กร

Tag ที่เกี่ยวข้อง

The Knowledge BOT Magazine Knowledge Corner เงินเฟ้อ