ทำความเข้าใจภาษี
ชื่อกิจกรรม : ทำความเข้าใจภาษี
ชื่อครู/หน่วยงาน : อ.วีรพล แก้วพันธ์อ่ำ และ อ.ธีรภาพ แซ่เชี่ย ผลงานภายใต้ความร่วมมือระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยและโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ชื่อโรงเรียนที่สอนหรือฝึกสอน : โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ภาคการศึกษาและปีการศึกษาที่ใช้สอน/ทำกิจกรรม : ภาคการเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2566
ระดับชั้น : มัธยมศึกษาปีที่ 5
รูปแบบการนำไปใช้ :
รายวิชาเฉพาะ - วิชารู้ทันการเงิน
วัตถุประสงค์การเรียนรู้ :
1. เพื่อให้ผู้เรียนตระหนักรู้และมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
2. เพื่อให้ผู้เรียนวางแผนและเตรียมตัวจ่ายภาษีที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้
สมรรถนะทางการเงิน (Financial competency) :
สมรรถนะหลัก
FK84. รู้ว่าการชำระภาษีเป็นรายได้ของรัฐ เพื่อให้รัฐนำไปใช้พัฒนาประเทศ เช่น การพัฒนาสาธารณูปโภค การมีสวัสดิการจากภาครัฐ (ม. ปลาย)
FK85. มีความรู้พื้นฐานเรื่องภาษี เช่น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีป้าย (ม. ปลาย)
FK86. เข้าใจถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากไม่ชำระภาษี (ม. ปลาย)
สมรรถนะเสริม
FK131. รู้ว่าเงินเดือนหรือค่าจ้างอาจถูกหักค่าใช้จ่าย เช่น ค่าภาษี ประกันสังคม จึงทำให้เงินที่ได้รับน้อยกว่าอัตราเงินเดือนหรือค่าจ้าง และรู้ว่ารายจ่ายบางประเภทที่ถูกหักนั้นเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (อุดมศึกษา)
FK133. รู้ว่ารายได้ประเภทใดต้องเสียภาษี และรู้ว่าต้องเสียภาษีเมื่อมีรายได้ถึงเกณฑ์ตามที่กำหนด (อุดมศึกษา)
ตัวชี้วัด สพฐ. ถ้ามี :
กลุ่มสาระการเรียนรู้
|
ตัวชี้วัดระหว่างทาง |
ตัวชี้วัดปลายทาง |
สังคมศึกษา
|
ส 3.2 ป.3/2 บอกความสำคัญของภาษีและบทบาทของประชาชนในการเสียภาษี
|
|
กระบวนการจัดการเรียนรู้หรือขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม :
1. ผู้สอนตั้งคำถามเพื่อเชื่อมโยงประสบการณ์ในชีวิตประจำวันว่า ผู้เรียนเคยเสียภาษีหรือไม่ ถ้าเคยคิดว่าเป็นภาษีอะไร ? (ตัวอย่างคำตอบคือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากเป็นภาษีที่ทุกคนจะต้องจ่ายผ่านการอุปโภคบริโภคสินค้าอยู่แล้ว ไม่ว่าจะมีรายได้หรือยังไม่มีรายได้ และเป็นภาษีที่ใกล้ตัวผู้เรียนที่สุด ผู้สอนอาจแนะนำให้ผู้เรียนรู้จักภาษีมูลค่าเพิ่มเติมด้วยคลิปวิดีโอสั้น) ก่อนชวนผู้เรียนคิดต่อว่า รัฐบาลนำภาษีที่เราจ่ายไปทำอะไรบ้าง เพื่อให้ผู้เรียนเห็นความสำคัญของหน้าที่การเสียภาษีว่า ทำไมต้องเสียภาษี ?
2. ผู้สอนอธิบายประเภทของภาษีว่ามี 2 ประเภท ได้แก่ ภาษีทางตรง และภาษีทางอ้อม และในแต่ละประเภทมีภาษีอะไรที่ผู้เรียนควรรู้ในปัจจุบันและในอนาคตอันใกล้ เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากนั้นผู้สอนตั้งคำถามเพิ่มเติมว่า
3. จากนั้นผู้สอนอธิบายวิธีคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและองค์ประกอบในการคำนวณที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ 1) ค่าใช้จ่าย (ส่วนที่ขึ้นอยู่กับประเภทเงินได้) และ 2) ค่าลดหย่อน (ส่วนที่สามารถใช้เพื่อการวางแผนภาษีได้) และลองตั้งโจทย์ให้ผู้เรียนลองคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทั้งนี้ ผู้สอนให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การฝึกทำโจทย์นี้มีวัตถุประสงค์ให้ผู้เรียนเข้าใจหลักการการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งในอนาคตหากผู้เรียนมีรายได้แล้ว สามารถค้นหาและใช้เครื่องมือการคำนวณภาษีบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต หรือเว็บไซต์ของกรมสรรพากรเองได้
ตัวอย่าง น.ส. ก เป็นพนักงานบริษัทเอกชน สถานะโสด ที่ทำงานมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) น.ส. ก ยังมีอาชีพเสริม คือ รับออกแบบงานกราฟฟิกและทำขนมขาย น.ส. ก ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเงินได้ประเภทใดบ้าง หักค่าใช้จ่าย หักค่าลดหย่อน และเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเท่าไหร่ โดยคำนวณตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามตารางด้านล่าง
เงินได้สุทธิ | อัตราภาษี | ภาษีสูงสุด ในแต่ละขั้นภาษี | ภาษีสะสมสูงสุด |
0 – 150,000 | 5% | ยกเว้น | 0 |
เกิน 150,000 – 300,000 | 5% | 7,500 | 7,500 |
เกิน 300,000 – 500,000 | 10% | 20,000 | 27,500 |
เกิน 500,000 – 750,000 | 15% | 37,500 | 65,000 |
เกิน 750,000 – 1,000,000 | 20% | 50,000 | 115,000 |
เกิน 1,000,000 – 2,000,000 | 25% | 250,000 | 365,000 |
เกิน 2,000,000 – 5,000,000 | 30% | 900,000 | 1,265,000 |
เกิน 5,000,001 ขึ้นไป | 35% | คำนวณตามจริง | คำนวณตามจริง |
4. ผู้สอนให้ผู้เรียนเสนอความคิดเห็นว่า ความเข้าใจเรื่องภาษีช่วยให้วางแผนทางการเงินได้หรือไม่ อย่างไร ? และถ้าไม่วางแผนภาษีจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง ? หลังจากนั้นชวนผู้เรียนสรุปกิจกรรมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน เพื่อให้เข้าใจความสำคัญของการวางแผนภาษี โดยผู้สอนสามารถเพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับโทษของการไม่ยื่นภาษี ยื่นภาษีล่าช้า ไม่ชำระภาษีในกำหนดเวลา หรือชำระภาษีไม่ถูกต้อง
5. ผู้สอนชวนผู้เรียนถอดบทเรียน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้สอนในการออกแบบการเรียนรู้ในคาบเรียนต่อไป
การประเมินและการวัดผลการเรียนรู้ :
1. สังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนในการคิดวิเคราะห์และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันของผู้เรียน