ภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

29 พฤศจิกายน 2567

แถลงข่าวภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เดือนตุลาคม 2567

สรุปสาระสำคัญ
  • เศรษฐกิจภาคอีสานขยายตัวต่อเนื่อง จากเดือนก่อน
  • ในเดือนก่อน ปัจจัยพิเศษจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนในสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัว เช่นเดียวกับการลงทุนภาคเอกชนด้านก่อสร้างที่ขยายตัวตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของกำลังซื้อเพียงระยะสั้น ขณะที่ค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูงยังกดดันการบริโภคครัวเรือนฐานรากต่อเนื่อง
  • เดือนนี้ ปัจจัยพิเศษ ทั้งแรงส่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่มีอย่างต่อเนื่อง และวันหยุดยาว เทศกาล งานบุญประเพณี ช่วยกระตุ้นการบริโภคและภาคบริการท่องเที่ยวให้ขยายตัว ด้านภาคการผลิตเพื่อการส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง ตามการผลิตน้ำตาลทรายและการผลิตยางพาราแปรรูป กอปรกับรายได้เกษตรที่ขยายตัวจะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป

ภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้ว)
 

รายได้เกษตรกร ขยายตัว (เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน)

ตามราคาข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิที่ขยายตัว จากความต้องการของประเทศคู่ค้าที่ยังมีต่อเนื่อง หลังผลผลิตข้าวขาดแคลนจากสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน และราคายางพาราที่ขยายตัว จากผลกระทบมรสุมในภาคใต้ทำให้กรีดยางได้ลดลง ขณะที่ผลผลิตโดยรวมทรงตัว

 

การผลิตภาคอุตสาหกรรม ขยายตัวต่อเนื่อง

ตามการผลิตเพื่อการส่งออกที่มีคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง อาทิ การผลิตน้ำตาลทรายที่ขยายตัวตามการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา และการผลิตยางพาราแปรรูปในหมวดยางผสมส่งออกไปยังจีนที่ขยายตัวความต้องการนำไปผลิตยางล้อรถยนต์ไฟฟ้าจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศจีน

 

ภาคบริการท่องเที่ยว กลับมาขยายตัว

ตามจำนวนผู้เยี่ยมเยือนคนไทยและชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น จากวันหยุดยาว เทศกาลและงานบุญประเพณี ประกอบกับการจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารและจำนวนเที่ยวบินขาเข้าที่เพิ่มขึ้นเกือบทุกสนามบิน ส่งผลให้อัตราการเข้าพักแรมปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน

 

การบริโภคภาคเอกชน ขยายตัวต่อเนื่อง

จากแรงส่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ (เงินโอน 10,000 บาท) โดยเฉพาะยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์และยอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือที่ขยายตัวสูงตามการรวบรวมเงินที่ได้รับจากมาตรการฯ มาซื้อและผ่อนชำระเพื่อใช้งานภายในครอบครัว

 

การลงทุนภาคเอกชน กลับมาขยายตัว

ตามการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนของภาครัฐ ส่งผลให้การลงทุนด้านก่อสร้างขยายตัวจากยอดจำหน่ายปูนซีเมนต์เป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม หากขจัดผลของปัจจัยพิเศษ จากการกลับมาเบิกจ่ายของภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชนยังหดตัวต่อเนื่อง

 

การค้าผ่านด่านศุลกากร ทรงตัว

ตามการนำเข้าที่ขยายตัว จากจีนเป็นสำคัญ ในหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ประเภทฮาร์ดดิสก์ และแล็ปท็อป
ขณะที่การส่งออกที่หดตัวเล็กน้อย ตามการส่งออกไปจีน ในหมวดชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ประเภทฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ หลังจากเร่งไปมากในช่วงก่อนหน้า และการส่งออกทุเรียนสดที่หดตัวต่อเนื่อง หลังฤดูกาลผลผลิตทุเรียนของภาคใต้ทยอยหมดลง

 

อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เพิ่มขึ้น (เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน) ตามราคาอาหารสด อาหารสำเร็จรูป และหมวดพลังงาน    

 

ตลาดแรงงาน ปรับดีขึ้น ตามการจ้างงานในภาคเกษตรที่ปรับดีขึ้นช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ขณะที่การจ้างงานนอกภาคเกษตรทรงตัว อย่างไรก็ดี ภาคการค้ามีแนวโน้มต้องการจ้างงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการขยายสาขาธุรกิจ

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ผลของมาตรการภาครัฐด้านเศรษฐกิจ

- ผลการเบิกจ่ายงบผูกพันของภาครัฐ

- สถานการณ์สินค้าโภคภัณฑ์เกษตรในตลาดโลก

 

 

ธนาคารแห่งประเทศไทย
29 พฤศจิกายน 2567

 

ข้อมูลเพิ่มเติม : ส่วนเศรษฐกิจการเงิน 1-3 ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โทรศัพท์ : 0 4391 3532
E-mail : Neo-econ-div@bot.or.th

 

หมายเหตุ

สาขาเศรษฐกิจด้านอุปสงค์ที่มีความสำคัญต่อภาคอีสาน ได้แก่ การอุปโภคบริโภค การลงทุนภาคเอกชน การใช้จ่ายภาครัฐ และการค้าผ่านด่านศุลกากร ตามลำดับ