ภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

28 ธันวาคม 2566

แถลงข่าวภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เดือนพฤศจิกายน 2566

สรุปสาระสำคัญ
  • เศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทรงตัวจากเดือนก่อน
  • โดยในเดือนก่อน การอุปโภคบริโภคโดยรวมกลับมาขยายตัว ตามการจัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงเทศกาล วันหยุดยาว และผลของฐานต่ำในปีก่อนที่เกิดอุทกภัยในบางพื้นที่ ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัว ตามการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกที่ยังหดตัวตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า
  • ในเดือนนี้ การอุปโภคบริโภคโดยรวมขยายตัวต่อเนื่อง ตามการใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าบริการที่ขยายตัวตามการจัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวและผลของฐานต่ำต่อเนื่องในปีก่อน ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมกลับมาหดตัว ตามการผลิตสินค้าเกษตรที่ผลผลิตลดลงหลังได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง
  • แนวโน้มเศรษฐกิจเดือนถัดไป คาดว่า ทรงตัวใกล้เคียงเดือนนี้ จากรายได้โดยรวมที่ฟื้นตัวช้า ตามรายได้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ขณะที่มาตรการลดภาระค่าครองชีพ ช่วยพยุงการใช้จ่ายได้บ้าง

ภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน
 

การอุปโภคบริโภค ขยายตัวต่อเนื่อง

ตามการใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าบริการที่ขยายตัวตามจัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง และผลของฐานต่ำต่อเนื่องในปีก่อนที่เกิดอุทกภัยในบางพื้นที่ ขณะที่สินค้าคงทนยังหดตัวต่อเนื่อง จากความเข้มงวดในการให้สินเชื่อของสถาบันการเงินและคุณสมบัติของผู้กู้ที่ด้อยลง

 

การลงทุนภาคเอกชน หดตัวน้อยลง

ตามการลงทุนด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์ในภาคการผลิตที่ชะลอตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะการนำเข้าสินค้าทุนเป็นสำคัญ และยอดจดทะเบียนรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่หดตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี การลงทุนด้านก่อสร้างยังขยายตัว ตามพื้นที่ขออนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยเป็นสำคัญ

 

การค้าผ่านด่านศุลกากร กลับมาขยายตัว

การส่งออก หดตัวต่อเนื่อง ตามการส่งออกไปจีน ในหมวดผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียน เนื่องจากหมดผลผลิตนอกฤดูกาล และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ รวมถึงการส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องดื่มชูกำลังไปเวียดนามที่ลดลง 
การนำเข้า ขยายตัวต่อเนื่อง ในหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์ และคอมพิวเตอร์จากจีนเป็นสำคัญ

 

รายได้เกษตรกร หดตัวต่อเนื่อง

ตามผลผลิตข้าวนาปีที่ลดลง จากฝนที่ตกล่าช้าและไม่กระจายตัว ทำให้ข้าวเจริญเติบโตไม่เต็มที่ และราคาหดตัว จากราคาสุกรที่ลดลงต่อเนื่องเป็นสำคัญตามปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น

 

ภาคอุตสาหกรรม กลับมาหดตัว

ตามการสีข้าวที่หดตัวจากผลผลิตข้าวที่ลดลงหลังได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง หมวดสิ่งทอที่ยังหดตัวต่อเนื่องตามความต้องการของประเทศคู่ค้าที่ยังชะลอตัว และการผลิตแป้งมันสำปะหลังที่หดตัวจากผลกระทบจากโรคใบด่าง ขณะที่การผลิตยางพาราแปรรูปขยายตัวตามคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น

 

การท่องเที่ยว ขยายตัวต่อเนื่อง

ตามจำนวนผู้เยี่ยมเยือนคนไทยที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ ทั้งจากระยะเดียวกันปีก่อนและเดือนก่อน ตามการจัดงานบุญประเพณีและงานอีเวนต์ต่าง ๆ เช่น งานทอดกฐิน งานลอยกระทง งานวอลเลย์บอลชายหาดชิงแชมป์โลก งานเทศกาลดนตรี เป็นต้น ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางข้ามจังหวัดในภาคอีสานมากขึ้น

 

อัตราเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้น ตามราคาพลังงาน น้ำมันเชื้อเพลิง ราคาอาหารสด เนื้อสัตว์ และผักสด

 

ตลาดแรงงาน ทรงตัว ตามจำนวนผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ลดลง ขณะที่ผู้ประกันตนกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ มาตรา 40 เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคท่องเที่ยวและบริการ 

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ผลกระทบของภัยแล้งต่อผลผลิตและรายได้เกษตรกร

- นโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล

- การฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า

 

ธนาคารแห่งประเทศไทย
28 ธันวาคม 2566

 

ข้อมูลเพิ่มเติม : ส่วนเศรษฐกิจการเงิน 1-3 ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โทรศัพท์ : 0 4391 3532
E-mail : Neo-econ-div@bot.or.th

 

หมายเหตุ

สาขาเศรษฐกิจด้านอุปสงค์ที่มีความสำคัญต่อภาคอีสาน ได้แก่ การอุปโภคบริโภค การลงทุนภาคเอกชน การใช้จ่ายภาครัฐ และการค้าผ่านด่านศุลกากร ตามลำดับ