ธนบัตรพอลิเมอร์ ทางเลือกใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกใช้ธนบัตรพอลิเมอร์ชนิดราคา 20 บาทไปเมื่อต้นปี 2565 ผ่านมาแล้ว 3 ปี ทุกคนน่าจะเคยสัมผัสธนบัตรรุ่นนี้ผ่านมือกันมาบ้างแล้ว และอาจสังเกตเห็นว่า เมื่อธนบัตรพอลิเมอร์ถูกใช้หมุนเวียนจนมาถึงมือเรานั้น ส่วนใหญ่ยังอยู่ในสภาพดีไม่ฉีกขาด ซึ่งตอบโจทย์การเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ผลิตธนบัตรได้ดี
ในปี 2568 ธปท. จึงขยายการผลิตธนบัตรพอลิเมอร์ไปยังชนิดราคา 50 บาท และ 100 บาทด้วย โดยมีกำหนดออกใช้ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 นี้ พระสยาม BOT MAGAZINE จึงถือโอกาสแนะนำข้อดีของการหันมาใช้วัสดุพอลิเมอร์แทนกระดาษ ที่นอกจากจะช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยยกระดับคุณภาพธนบัตรให้ประชาชนใช้งานได้นานขึ้นด้วย
ธนบัตรพอลิเมอร์ผลิตจากวัสดุ Biaxially Oriented Polypropylene (BOPP) ซึ่งเป็นพลาสติกที่มีคุณสมบัติทนทานต่อความชื้นและสิ่งสกปรก ธนบัตรจึงมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น สามารถลดความถี่ในการผลิตธนบัตรใหม่ทดแทนได้ นำไปสู่การลดการใช้ทรัพยากรและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้มากกว่าธนบัตรกระดาษในหลายมิติ ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการทำลาย
มิติด้านการผลิต แม้การผลิตธนบัตรพอลิเมอร์จะใช้พลังงานการผลิตต่อครั้งมากกว่าแบบกระดาษ แต่ด้วยอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ทำให้การใช้พลังงานโดยรวมต่ำกว่าธนบัตรกระดาษประมาณ 3-4 เท่า จากสถิติพบว่า ในปี 2567 ตัวเลขการผลิตธนบัตรพอลิเมอร์ชนิดราคา 20 บาทเพื่อทดแทนธนบัตรที่ชำรุดเสื่อมสภาพและนำกลับมาทำลายลดลงเหลือเพียง 300 ล้านฉบับต่อปี จากเดิมที่มีการผลิตธนบัตรแบบกระดาษ 700 ล้านฉบับต่อปีในปี 2564 การเปลี่ยนมาใช้พอลิเมอร์จึงช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Green House Gas: GHG) 3,150 ตัน CO2e ต่อปี เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ (ต้นพะยูง) ถึง 1,450 ไร่
มิติด้านการขนส่ง เมื่อธนบัตรพอลิเมอร์สามารถหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ยาวนานขึ้น จึงลดการขนส่งธนบัตรที่เสื่อมสภาพเพื่อนำกลับมาทำลาย และช่วยลดการขนส่งเพื่อกระจายธนบัตรใหม่ไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ส่งผลให้ปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้ในการขนส่งลดลงได้มากเช่นกัน
มิติด้านการทำลาย เมื่อธนบัตรพอลิเมอร์ชำรุดเสื่อมสภาพ ก็สามารถนำไปรีไซเคิลเพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกอื่น ๆ ได้ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนกว่าการเผาทำลายแบบดั้งเดิมที่ใช้กับธนบัตรกระดาษ
โดยรวมแล้ว คาดว่าการออกใช้ธนบัตรพอลิเมอร์ชนิดราคา 50 บาท และ 100 บาทนี้ จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้มากในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับธนบัตรพอลิเมอร์ชนิดราคา 20 บาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ ธปท. ที่มุ่งมั่นจะรักษาสิ่งแวดล้อมไปสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง
หลายประเทศทั่วโลกมีการพิมพ์ธนบัตรด้วยพอลิเมอร์มาแล้วเป็นเวลานาน เช่น ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ซึ่ง ธปท. ได้ศึกษาและเรียนรู้ข้อดีข้อเสียของวัสดุชนิดนี้มาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนประยุกต์ใช้จากประสบการณ์ของประเทศต่าง ๆ
ธนาคารกลางออสเตรเลีย (Reserve Bank of Australia) โดยโรงพิมพ์ Note Printing Australia (NPA) ได้ออกใช้ธนบัตรพอลิเมอร์เป็นรายแรกในปี 2531 และออกธนบัตรทุกชนิดราคาเป็นธนบัตรพอลิเมอร์ในปี 2539 เพื่อยกระดับการป้องกันการปลอมแปลงและเพิ่มความทนทาน พบว่า ธนบัตรพอลิเมอร์มีการอายุการใช้งานนานขึ้น ลดต้นทุนและการปลอมแปลงได้ดี รวมทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า[1] โดยธนบัตรพอลิเมอร์ที่เสื่อมสภาพและเศษพอลิเมอร์จากการผลิตสามารถนำไปรีไซเคิลเป็นเม็ดพลาสติกได้ ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตทำเป็นสินค้าต่าง ๆ เช่น ม้านั่ง อุปกรณ์ออกกำลังกาย ซึ่งใช้งานไปได้นานอีกกว่า 100 ปี[2]
ธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England) ได้ทยอยออกใช้ธนบัตรพอลิเมอร์ตั้งแต่ปี 2559 และออกครบทุกชนิดราคาในปี 2564 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อป้องกันการปลอมแปลงและเพิ่มความทนทานของธนบัตร พบว่า ธนบัตรพอลิเมอร์ช่วยลดต้นทุน ธนบัตรมีคุณภาพดีและสะอาดมากขึ้น[3] รวมถึงลดการปลอมแปลงและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น จากสถิติพบว่า ธนบัตรพอลิเมอร์ชนิดราคา 5 ปอนด์มี carbon footprint ต่ำกว่าธนบัตรกระดาษถึง 16%[4]
ธนาคารกลางมาเลเซีย (Bank Negara Malaysia) เริ่มจากการออกใช้ธนบัตรพอลิเมอร์ชนิดราคาต่ำ[5] เนื่องจากเป็นชนิดราคาที่มีการหมุนเวียนสูง โดยในปี 2547 ได้ออกใช้ธนบัตรชนิดราคา 5 ริงกิต เป็นครั้งแรกด้วยนโยบาย “ธนบัตรสะอาด” (clean note policy)[6] และออกใช้ชนิดราคา 1 ริงกิต ในปี 2555 จากการศึกษาพบว่า ธนบัตรที่หมุนเวียนมีสภาพดีมากขึ้น ความทนทานสูงกว่าธนบัตรกระดาษทำให้ใช้งานได้นานขึ้นถึง 4 เท่า ต้นทุนจึงต่ำลงอย่างมากจากการลดการผลิตธนบัตรใหม่ รวมถึงลดการใช้ทรัพยากรในกระบวนการต่าง ๆ ด้วย[7]
ธนาคารกลางเวียดนาม (The State Bank of Vietnam) ออกใช้ธนบัตรพอลิเมอร์มากว่า 20 ปีแล้ว เพื่อลดการปลอมแปลงธนบัตร ผลการศึกษาพบว่า อัตราการปลอมแปลงลดลงอย่างมาก และธนบัตรมีอายุยาวนานขึ้นกว่า 4 เท่า[8] จึงช่วยลดของเสียและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าธนบัตรกระดาษ[9]
ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (Bangko Sentral ng Pilipinas) ออกใช้ธนบัตรพอลิเมอร์ครั้งแรกในปี 2565 เป็นชนิดราคา 1000 เปโซ และออกครบทุกชนิดราคาในปี 2568 เพื่อป้องกันการปลอมแปลง เพิ่มความทนทานและความสะอาดของธนบัตร พบว่า ช่วยลดต้นทุนในการผลิต ยืดอายุธนบัตรได้ยาวนานถึง 7.5 ปี ลดการปลอมแปลง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า โดยพบว่า ธนบัตรพอลิเมอร์ชนิดราคา 1000 เปโซ มี carbon footprint ต่ำกว่าแบบกระดาษถึง 38.4%[10]
จะเห็นได้ว่า การพัฒนาและเปลี่ยนผ่านจากธนบัตรกระดาษสู่ธนบัตรพอลิเมอร์ไม่ใช่เพียงแค่การปรับปรุงในด้านความทนทานหรือยกระดับป้องกันการปลอมแปลงเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของธนาคารกลางหลายประเทศในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ในยุคที่โลกเผชิญกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม การเลือกใช้ธนบัตรพอลิเมอร์จึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน และเป็นตัวอย่างของการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อสร้างสมดุลระหว่างประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ลักษณะของธนบัตรพอลิเมอร์ชนิดราคา 50 บาท และ 100 บาทโดยรวมเหมือนกับธนบัตรกระดาษที่ใช้หมุนเวียนในปัจจุบัน โดยภาพด้านหน้าเป็นพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นภาพประธาน และภาพด้านหลังเป็นเรื่องราวพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ในพระราชวงศ์จักรี เพื่อประชาชนจดจำได้ง่าย
อย่างไรก็ดี ได้มีการปรับสีสันของธนบัตรให้สดใสน่าใช้มากขึ้น ทั้งยังมีการพัฒนาลักษณะต่อต้านการปลอมแปลงที่สวยงามทันสมัยและมีมาตรฐานระดับสากล เพื่อช่วยให้ประชาชนสามารถแยกแยะธนบัตรได้ง่าย มีจุดสังเกตที่เด่นชัด คือ ช่องใสที่สามารถมองเห็นทะลุได้ทั้งสองด้าน และมีการดุนนูนตัวเลขแจ้งชนิดราคาในช่องใส รวมถึงการพิมพ์ทับช่องใสด้วยหมึกพิมพ์พิเศษ ที่เมื่อพลิกเอียงจะเปลี่ยนสีหรือเหลือบสีได้อย่างสวยงาม สังเกตได้ง่ายเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ ยังเพิ่มการพิมพ์ดุนนูนสัญลักษณ์แจ้งชนิดราคาที่ประยุกต์จากอักษรเบรลล์ เพื่อช่วยให้ผู้มีข้อจำกัดในการมองเห็นใช้เป็นจุดสังเกตและสัมผัสได้ดียิ่งขึ้น
ดูรายละเอียดธนบัตรเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bot.or.th/th/our-roles/banknotes/History-and-Series-of-Banknote-And-Commemorative/current-series-of-banknotes.html
ดูคลิปวิดีโอธนบัตรพอลิเมอร์ชนิดราคา 50 บาท และ 100 บาท ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=g6FGpOlbyxE
ข้อมูลอ้างอิง
1 banknotes.rba.gov.au/australias-banknotes/history/
2 www.noteprinting.com/newsacrhive/2022/9/12/polymer-banknote-recycling-enters-the-circular-economy
3 www.bankofengland.co.uk/-/media/boe/files/speech/2013/remarks-regarding-polymer-banknotes
5 www.bnm.gov.my/web/bnm-bank-notes/frequently-asked-questions-faqs-#q12
7 amlcft.bnm.gov.my/documents/20124/2724769/ar2019_en_ch1e.pdf
8 www.cclsecure.com/news/state-bank-of-vietnam-marks-18-years-of-polymer-banknotes
9 www.sbv.gov.vn/en/vietnamese-currency
10 www.bsp.gov.ph/SitePages/MediaAndResearch/MediaDisp.aspx?ItemId=7378
เรื่อง : สายโครงสร้างพื้นฐานและบริการระบบการชำระเงิน